www.go6tv: นายวิจิตร จันทรปาน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำท่วมจ.สงขลาอย่างใกล้ชิด ล่าสุดได้รับรายงานเกิดภาวะน้ำท่วมขยายเป็นวงกว้างในพื้นที่ 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.หาดใหญ่ อ.สะเดา อ.นาทวี อ.สะบ้าย้อย และ อ.จะนะ ซึ่งขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้เข้าพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ อย่างเร่งด่วน
โดย เฉพาะการแจกจ่ายกระสอบทรายเพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่ประชาชน สำหรับใช้เป็นพนังกั้นน้ำชั่วคราว โดยเฉพาะในส่วนของเทศบาลนครหาดใหญ่ที่ล่าสุดได้ยกระดับการเตือนภัยจากธง เขียวเป็นธงเหลือง เนื่องจากระดับน้ำในคลองอู่ตะเภาเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจากฝนที่ตกหนักต่อ เนื่อง ทำให้น้ำล้นตลิ่งไหลเอ่อเข้าท่วมถนนและบ้านเรือนริมคลอง ส่วนในพื้นที่อ.นาทวี ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ระดมเรือท้องแบนและรถยีเอ็มซีของทหารเข้าไปอพยพ ประชาชนและคนไข้โรงพยาบาลนาทวีเพื่อย้ายไปอยู่โรงพยาบาลใกล้เคียงแล้ว เนื่องจากระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้นเกินระดับ 2 เมตรที่โรงพยาบาลได้ทำเป็นแนวกระสอบทรายกั้นน้ำทำให้น้ำทะลักเข้าท่วม พื้นที่อาคารจนต้องเร่งอพยพคนไข้ไปอยู่ที่ปลอดภัย
นาย วิจิตร กล่าวอีกว่า สำหรับโรงเรียนนั้นล่าสุดได้รับแจ้งจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสงขลา ประกาศแจ้งให้ทางสถานศึกษาที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงหยุดการเรียนการสอนชั่ว คราวโดยไม่มีกำหนดอย่างน้อย 6 แห่งในพื้นที่เขต 2 นอกจากนี้ยังมีสถานศึกษาอีกกว่า 113 แห่งที่ประสบปัญหาน้ำท่วมเส้นทางทำให้ต้องหยุดการเรียนการสอนชั่วคราวอย่าง น้อย 3 วันเพื่อติดตามสถานการณ์ ส่ง ผลทำให้บรรยากาศการเปิดเทอมวันแรกเกิดความโกลาหลวุ่นวาย เนื่องจากมีบางโรงเรียนที่น้ำยังไม่ท่วมแต่เส้นทางเข้า-ออกไม่สามารถสัญจร ได้ทำให้โรงเรียนต้องประกาศให้ผู้ปกครองมารับนักเรียนกลับบ้านในช่วงบ่าย เพื่อความปลอดภัย
ขอขอบคุณ facebook ; iGoyz
เตือนภาคใต้ฝั่งตะวันออกตามแนวพายุให้ระวังน้ำท่วมและคลื่นพายุซัดฝั่ง (STORM SURGE)
วิเคราะห์สภาพอากาศภาพถ่ายดาวเทียม 1 พ.ย. โดยกรมอุตุนิยมวิทยา
กลุ่มเมฆที่ 1 : ประเทศไทยตอนบนท้องฟ้าโปร่งเป็นส่วนมาก ไม่มีฝนและอากาศหนาว
กลุ่มเมฆที่ 2 : แนวเมฆชั้นสูงปกคลุมทางตอนกลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่มีฝนและอากาศหนาว
กลุ่มเมฆที่ 3 : กลุ่มเมฆชั้นต่ำปกคลุมชายฝั่งภาคตะวันออกโดยมีฝนปกคลุมตามบริเวณชายฝั่ง
กลุ่มเมฆที่ 4 : กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคใต้โดยมีฝนฟ้าคะนองปกคลุมทางตอนกลางและทางตอนล่างของภาคและตกต่อเนื่อง
กลุ่มเมฆที่ 5 : กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคใต้ฝั่งตะวันตกโดยมีฝนฟ้าคะนองปกคลุมในบริเวณดังกล่าว
ข่าวนํ้าท่วม
น้ำท่วม อ.สะเดา จ.สงขลา เครดิต : @tummeng_090
อ.หาดใหญ่ เมืองใหม่ 1 น้ำท่วมประมาณเอวแล้ว เครดิต : @igoyz
ภาพ ถ่ายดาวเทียมแสดงการเคลื่อนตัวของพายุดีเปรสชั่นบริเวณภาคใต้ตอนล่าง คาดว่าจะเคลื่อนเข้าปัตตานี สงขลา นครศรีธรรมราช คืนนี้.. เครดิต : @tummeng_090
สงขลา ท่วมแล้ว 7 อำเภอ หาดใหญ่ชักธงแดง สั่งอพยพคนแล้ว คาด 3ทุ่ม คันกั้นน้ำจะรับน้ำไม่ไหวและทะลักท่วมเมือง ขณะที่กรมอุตุฯ เตือนพายุเข้าภาคใต้ฝั่งตะวันออกเที่ยงคืนนี้ เตรียมรับมือฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลากอีกระลอก
ประกาศเตือนภัย "พายุดีเปรสชันในอ่าวไทย และอากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน" ฉบับที่ 3 ลงวันที่ 01 พฤศจิกายน 2553
เมื่อ เวลา 04.00 น. วันนี้ (1 พ.ย) พายุดีเปรสชันบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง มีศูนย์กลางห่างประมาณ 350 กิโลเมตร ทางตะวันออกเฉียงใต้ ของจังหวัดสงขลา หรือที่ ละติจูด 6.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 104.0 องศาตะวันออก มีความเร็วสูงสุดประมาณ 50 กม./ชม. พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็วประมาณ 15 กม./ชม. คาดว่า จะเคลื่อนตัวผ่านบริเวณภาคใต้ตอนล่าง ในช่วงวันที่ 1-2 พฤศจิกายน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคใต้ ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ และอ่าวไทยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร
จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง และสตูล ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ที่อาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งได้ สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเลของภาคใต้ฝั่งตะวันออก ขอให้ระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่พัดเข้าสู่ฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยตอนกลางลงไปควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย
อนึ่ง ในระยะ 1-2 วันนี้ บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปก คลุมประเทศไทย ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปกับมีลมแรง สำหรับภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภู อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส
ในระยะนี้ขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศและเตือนภัย จากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด
ขณะที่ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กรมอุตุนิยวิทยา ได้ออกประกาศเตือนภัยล่าสุด ครั้งที่ 1 ประจำวันที่ 1 พ.ย. ว่า ขณะ นี้พายุดีเปรสชั่นในอ่าวไทยกำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งตะวันออก โดยคาดว่า พายุดังกล่าวจะเข้าสู่พื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช ภายในคืนนี้ ( 1 พ.ย.) ถึงวันพรุ่งนี้เช้า (2 พ.ย.) และศูนย์กลาง ของพายุจะเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งประมาณเที่ยงคืนของวันนี้ ส่งผลให้สภาพอากาศบริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นลมแรง และฝนตกหนักหลายวัน จึง ประกาศเตือนให้จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส เฝ้าระวังเรื่องของคลื่นและพายุลมแรง ซึ่งจะมีผลกระทบตั้งแต่ช่วงคืนนี้ (1 พ.ย.) เป็นต้นไป และขอให้เรือต่างๆ งดออกจากฝั่งในช่วงนี้
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก marine.tmd.go.th, กรมอุตุนิยมวิทยา, @tummeng_090,@BBalaka ,@igoyz ,ลูกเมย์ Facebook Teerada
เขียนโดย JJ_Sathon
คลิปหน้าโรงแรม ลีกาเดนท์ หาดใหญ่ เมื่อเที่ยงคืนวันที่ 2 พ.ย.
น้ำท่วมหาดใหญ่ บริเวณหน้าห้าง lee gardens
http://www.youtube.com/watch?v=E1Q8Jm4pK-A&feature=player_embedded
สงขลาไฟฟ้าดับทั้งเมือง เร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยง
Tue, 2010-11-02 02:07
หัว หน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.สงขลา ระบุ สงขลาไฟฟ้าดับทั้งเมือง พร้อมสั่งเร่งอพยพประชาชนริมชายฝั่งทะเลออกจากพื้นที่ ขณะที่การสื่อสารติดขัด ด้านกรมอุตุฯ ประกาศเตือนภัย ฉบับ 7 ระบุพายุดีเปรสชันขึ้นฝั่งบริเวณ อ.สทิงพระ จ.สงขลาแล้ว จ่อเข้า ตรัง กระบี่ และภูเก็ต ในคืนนี้
วันนี้ (2 พ.ย.53) เมื่อเวลา 00:26 น.สถานีโทรทัศน์ทีวีไทยรายงานผ่านทางเว็บไซต์ ระบุ ว่า นาย
นอกจากนี้ยังได้รับแจ้งว่า ยังมีประชาชนติดอยู่ในพื้นที่จำนวนหนึ่ง รวมถึงผู้ป่วยที่โรงพยาบาลสะเดาที่มีผู้ป่วยตกหนักค้างอยู่ในพื้นที่ซึ่ง แพทย์ประจำโรงพยาบาลกำลังดูแลให้พ้นคืนนี้ไปก่อน ส่วนการระบายน้ำในพื้นที่ยังทำได้ตามปกติ แต่บางพื้นที่น้ำอาจจะไหลไม่ทันซึ่งอาจจะทำให้ท่วมสูงขึ้นไปอีก
ด้านเนชั่นทันข่าว ระบุ มีรายงานแจ้งว่า ในพื้นที่ อ.สทิงพระ อ.ระโนด จ.สงขลา มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากแรงลมพายุดีเปรสชั่นกรรโชก ส่งผลให้หลังคาบ้านเรือนประชาชนปลิวว่อน กระจกประตู หน้าต่างแตกจำนวนหลายหลัง รวมถึงต้นไม้ พืชผล สิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ได้รับความเสียหายจำนวนมาก ในเบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ ขณะเดียวกันการติดต่อสื่อสารในพื้นที่ดังกล่าวก็ไม่สามารถติดต่อหากันได้
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่การติดต่อสื่อสารในพื้นที่ดังกล่าวจะเกิดปัญหาไม่สามารถติดต่อหากัน ได้นั้น ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับประชาชนในพื้นที่ อ.สทิงพระทราบว่า ลมพายุกรรโชกแรงมาก ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นและประสบเหตุมาก่อน ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตกใจและหวาดกลัวกันมาก โดยระหว่างที่มีการพูดคุยสอบถามสถานการณ์อยู่นั้นก็ยังคงมีลมพัดกรรโชก แรงอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งสัญญาณโทรศัพท์ขาดหายไป และไม่สามารถติดต่อกันได้อีก
เช่นเดียวกับในพื้นที่ อ.เมืองสงขลาก็ประสบเหตุลมพายุกรรโชกแรง ส่งผลให้ศาลากลางจังหวัดสงขลา กระจกแตกจำนวนมาก รวมไปถึงบ้านเรือนประชาชนด้วย ต้นไม้หักโค่นหลายต้น อีกทั้งกระแสไฟฟ้าก็ถูกงดปล่อยกระแสไฟฟ้าเป็นการชั่วคราว ส่งผลให้พื้นที่ตัวเมืองสงขลาอยู่ในความมืด
ขณะที่ ไทยรัฐออนไลน์ รายงานว่าเมื่อเวลา 01.30 น.กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนภัย"พายุดีเปรสชันในอ่าวไทย"ฉบับที่ 7 ระบุว่า เมื่อเวลา 01.00 น. วันนี้ (2 พ.ย) พายุดีเปรสชันบริเวณอ่าวไทยตอนล่างได้เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณ อ.สทิงพระ จ.สงขลา (เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 1 พ.ย.53)แล้ว โดยมีศูนย์กลางบริเวณจังหวัดพัทลุงมีความเร็วสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 50 กม./ชม. พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความเร็วประมาณ 15 กม./ชม. คาดว่า จะเคลื่อนตัวในแนว จ.ตรัง กระบี่ และภูเก็ต ในคืนนี้ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคใต้ทั้งสองฝั่งตั้งแต่ จ.ชุมพร ลงไป มีฝนตกเป็นบริเวณกว้าง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ รวมทั้งคลื่นลมแรงโดยมีคลื่นสูง 3-5 เมตร
ขอให้ประชาชนที่อาศัยใน พื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่ทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่ง รวมทั้งผู้ที่อาศัยอยู่ตามชายฝั่งทะเลของภาคใต้ฝั่งตะวันออกระมัดระวัง อันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าสู่ฝั่ง ชาวเรือควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้
อนึ่ง ในระยะ 3-4 วันนี้ บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปก คลุมประเทศไทย ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไปกับมีลมแรง สำหรับภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยและยอดภู อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส จึงขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศและเตือนภัย จากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด
ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์ เนชั่นทันข่าว และทีวีไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น