แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันพุธที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

งาช้างไม่งอกจากปากหมา เหี้ยสั่งฆ่าห่าพลิกคดี


โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
16 พฤศจิกายน 2553

ไม่ มีอะไรผิดคาด งาช้างย่อมไม่งอกจากปากสุนัข DSIเผยผลสืบสวน เสื้อแดงฆ่ากันเอง ยกเว้น 6 ศพวัดปทุมฯที่มีภาพประจักษ์หลักฐานหนีไม่ออก บอกเป็นฝีมือเจ้าหน้าที่ทหารเกี่ยวข้อง แต่ไม่วายอ้างว่าเป็นการเสียชีวิตจากเหตุการณ์การปะทะกันระหว่างกองกำลังไม่ ทราบฝ่ายกับทหาร ส่วนกรณีสังหารนักข่าวญี่ปุ่นอ้างว่ายังไม่รู้ใครฆ่า

อันสอดคล้องกับที่นายชวน หลีกภัย กล่าวปราศรัยก่อนหน้านี้ว่า"เสื้อแดงฆ่ากันเอง"

วันนี้ (16 พ.ย.) เมื่อเวลา 13.30 น.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ, พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีดีเอสไอ และ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ผบ.สำนักคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ ดีเอสไอ แถลงข่าวความคืบหน้าการสอบสวนคดีการเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และประชาชน 89 ศพ ในช่วงของการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง ระหว่างเดือน เม.ย.-พ.ค.ที่ผ่านมา โดยดีเอสไอสรุปแบ่งผลการสอบสวนเป็น 2 กลุ่ม ประกอบด้วยกลุ่มแรก กรณีผู้เสียชีวิต 12 ศพ น่าเชื่อว่าเกิดจากการกระทำของกลุ่ม นปช.และกลุ่มที่เกี่ยวเนื่องเกี่ยวพัน

กลุ่มที่สองผู้เสียชิต 6 ศพ ต้องสงสัยอาจเกี่ยวพันกับเจ้าหน้าที่ทหาร เห็นควรส่งสำนวนชันสูตรพลิกศพไปให้พนักงานสอบสวน ของท้องที่เกิดเหตุ รับไปดำเนินการชันสูตรพลิกศพตามกฎหมาย ป.วิอาญา มาตร 150 หากพบว่าเจ้าหน้าที่ทหารเป็นคนยิงจริงจะส่งสำนวนกลับให้ดำเนินคดี

นายธาริต กล่าวว่า ผลความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนคดีการเสียชีวิต 89 ราย สรุปว่า จากการสอบสวนพยานแวดล้อม ประจักษ์พยาน พยานนิติวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่รัฐ ดีเอสไอแบ่งคดีออกเป็น 2 กลุ่ม ประกอบด้วย คดีกลุ่มที่ 1 คดีที่มีพยานหลักฐานตามสมควรว่า มีผู้เสียชีวิตเกิดจากการกระทำของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ หรือ นปช.และกลุ่มที่เกี่ยวเนื่องได้แก่กรณี พ.อ.ร่มเกล้า ธุวกรรม เสียชีวิตพร้อมกับทหารรวม 6 ราย จากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 10 เม.ย.บริเวณถนนดินสอ กรณีการเสียชีวิตของ น.ส.ธัญนันท์ แถบทอง ส.ต.ท.กานต์พัฒน์ เลิศจันทร์เพ็ญ จ.อ.พงษ์ชลิต พิทยานนทกาญจน์ ส.อ.อนุสิทธิ์ จันทร์แสน นายกิตติพงษ์ สมสุข และธวัชชัย ทองมาก

อธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า คดีกลุ่มที่ 2 คือ กรณียังไม่ยุติว่าการตายเกิดจากการกระทำของ นปช.หรือกลุ่มติดอาวุธไม่ทราบฝ่าย หรือเจ้าหน้าที่ทหาร ดีเอสไอเห็นควรส่งให้พนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบเพิ่มเติมตาม ป.วิอาญา มาตรา 150 จำนวน 4 คดี ประกอบด้วย คดีการเสียชีวิตของ นายรพ สุขสถิต นายมงคล เข็มทอง และนายสุวัน ศรีรักษา ในวัดปทุมวนาราม คดีการเสียชีวิตของ พลทหาร ณรงค์ฤทธิ์ สาละ นายมานะ อาจราญ และนายฮิยูกิ มูราโมโต้ ช่างภาพสำนักข่าวรอยเตอร์ที่ถูกยิงเสียชีวิตบริเวณถนนดินสอ ส่วนคดีการเสียชีวิตที่เหลือ จะได้ข้อสรุปทุกอาทิตย์นับจากนี้จนครบ 89 ศพ โดยขีดเส้นว่าจะครบภายในเดือน พ.ย.

นายธาริต กล่าวอีกว่า หากตำรวจสอบสวนแล้วมีความชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่รัฐกระทำให้ตาย จะส่งสำนวนให้ศาลไต่สวนชี้ขาดอีกครั้ง หากศาลชี้ขาดว่าไม่เกี่ยวกับเจ้าหน้ารัฐ ก็ส่งสำนวนกลับให้ดีเอสไอทำสำนวนปรกติสอบสวนหาคนผิด กลับกันหากศาลชี้ขาดว่า เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับการตาย จะส่งสำนวนกลับดีเอสไอให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐ อย่างไรก็ตาม หากสอบสวนพบว่าเจ้าหน้าที่รัฐป้องกันสมควรแก่เหตุหรือการกระทำโดยพลาดจนผู้ อื่นเสียชีวิต จะไม่เป็นความผิด แต่ไม่ตัดสิทธิกับญาติในการเรียกค่าเสียหายจากรัฐ

พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า คดีการเสียชีวิต 6 ศพ ในวัดปทุมฯ ที่ดีเอสไอส่งสำนวนชันสูตรพลิกศพกรณีผู้เสียชีวิต 3 ราย กลับให้พนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุชันสูตรอีกครั้ง เนื่องจากการสอบสวนพบว่าเกิดจากเหตุการณ์การปะทะกันระหว่างกองกำลังไม่ทราบ ฝ่ายและเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง จากการชันสูตรพลิกศพ 5 ใน 6 ศพ มีกระสุนฝั่งใน ดีเอสไอได้เก็บไว้เป็นหลักฐานสำคัญ รวมทั้งมีผลการตรวจสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสหน้าวัดปทุมฯ ประกอบกับข้อมูลการวางกำลังเจ้าหน้าที่ใช้อาวุธปืนในจุดนั้น อาจสรุปได้ว่า เป็นการกระทำที่เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง เพราะพบวิถีกระสุนจากศพเข้าจากบนลงล่าง ยิงจากที่สูงมีพยานหลักฐานน่าเชื่อพอสมควรว่ามีเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปเกี่ยว ข้อง จึงต้องส่งสำนวนให้พนักงานสอบสวนท้องที่เกิดเหตุทำสำนวนชันสูตรพลิกศพร่วม กับอัยการ แพทย์นิติเวช ฝ่ายปกครอง ก่อนนำคดีขึ้นไต่สวนในศาลตามกฎหมายเพื่อความโปร่งใส่เป็นธรรม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน