Posted by ส่องแสง_ทะลุเมฆ
ความเจ็บปวดจากความพ่ายแพ้การเลือกตั้ง ส.ก.และ ส.ข.ของพรรคการเมืองใหม่ เมื่อปลายเดือนที่แล้ว
ความเจ็บปวดจากคำเยาะเย้ยเหยียดหยันของศัตรูคู่อาฆาตทางการเมือง
ความอับอายขายหน้าของผู้สมัครที่ได้ได้รับการเลือกตั้งที่กำลังจะจางหายไป
ผมว่า ยังไม่เจ็บปวดและสะทือนใจเท่าคำพูดของคนที่ “ที่มีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้าน” อย่างแน่นอน
ข่าวความพ่ายแพ้การเลือกตั้งของพรรคการเมืองใหม่ กำลังค่อย ๆ ซ่าหายไปจากสังคมไทย
ทุกวันมีข่าวใหม่ ๆ ที่ชวนให้ติดตามกันไม่หวาดไม่ไหว...
จึงน่าจะเป็นห่วงเวลาที่ คนในพรรคการเมืองใหม่ทุกระดับชั้น จะได้กลับไปนั่งนิ่ง ๆ เงียบ ๆ
เพื่อทบทวนบทบาทขององค์กรว่า เพราะอะไร พรรคการเมืองใหม่ จึงถูกปฏิเสธจากคนกรุงเทพฯอย่างนั้น ? จากนั้นจะปรับปรุงองคาพยพกันอย่างไรก็ว่ากันเป็นการภายใน จนกว่าจะ “ลงตัว” จึงค่อยปรากฎเป็นข่าว
แต่แล้วจู่ ๆ ขณะที่หลายคนในพรรคการเมืองใหม่ กำลัง “เลียแผล” ตัวเองอยู่นั้น ทุกคนก็สะดุ้งเป็นเฮือกสุดท้าย
เมื่อ สนธิ ลิ่มทองกุล ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคการเมืองใหม่ “โยนระเบิด” เข้าใส่ลูกเบ่อเริ่ม เท่านั้นยังไม่หน่ำใจ ยังมีเมตตาทำพิธีฝั่งกลบพรรคการเมืองใหม่ให้เป็นที่เรียบร้อย
พิธีกรรมดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อ นายสนธิ ลิ้มทองกุล พูดในรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ตอนหนึ่งว่า
“ผมพูดอะไรไปแล้วเดี๋ยวสะเทือนใจคน ผมลาออกจากหัวหน้าพรรคการเมืองใหม่ เพราะว่าผมต้องการกลับมาทำหน้าที่เป็นสื่อมวลชนเต็มตัว
แล้วจากวันที่ผมลาออก ผมไม่ได้ไปยุ่งเลยแม้แต่นิดเดียว เหตุที่ผมไม่ไปยุ่งเพราะว่า ผมถือว่าผมออกแล้วออกเลย
สอง ผมทำตามคำมั่นสัญญาที่ผมให้กับพ่อแม่พี่น้องประชาชนไว้ คำมั่นสัญญาอันแรกคือ ผมเข้าไปรับตำแหน่งเพื่อให้พรรคการเมืองมันเกิด ก่อรูปก่อร่างแล้วผมก็ออกมา ให้คนอื่นเขาทำต่อ
ทีนี้การที่พรรคการเมืองใหม่เขาเลือกคุณ
แต่ ความเห็นส่วนตัวของผมนั้น ผมมีความรู้สึกว่า ด้วยความเคารพพี่สมศักดิ์ ผมมีความรู้สึกว่าหัวหน้าพรรคการเมืองนั้นจะต้องกว้าง คือผมพูดตรงๆ อย่าโกรธกัน
ผมมีความรู้สึกว่า พื้นฐานของพวกเรา คือ พื้นฐานชนชั้นกลาง
พี่สมศักดิ์ ดูยังไงก็ยังเป็นหัวหน้าพรรคแรงงานอยู่ เป็นผู้นำฝ่ายแรงงาน คุณสุริยะใส ก็เป็น NGO
ทั้งสองคนเป็นคนดีมากนะ แต่ว่า ความดีอย่างเดียวไม่พอ มันต้องมีบารมีและความกว้างขวางที่จะผลักดันพรรคนี้ให้เกิดขึ้นได้
และที่สำคัญที่สุดคือ อันนี้เป็นภาพสะท้อนคุณงามความดีพรรค”
ผม ไม่อยากเชื่อจริง ๆ ว่า คำพูดเหล่านี้จะออกมาจากปากของคนที่ ช่วงหนึ่งของชีวิต เคยเกือบได้รับการกล่าวขานว่าเป็นปูชนียบุคคลทางสื่อและการเมืองให้คนรุ่น หลังกล่าวขวัญถึงด้วยความเคารพ
คุณสนธิครับ พรรคการเมืองใหม่นั้น จะว่าไปแล้วก็เหมือน “ลูกของคุณคนหนึ่ง”
วันนี้ลูกของคุณซมซานกลับมาบ้าน หลังจากไปเผชิญกับสิ่งที่ลูกคุณไม่เคยประสบมาก่อนจนบอบช้ำ
แทนที่คุณจะเอาน้ำเย็นเข้าลูบ หาหยูกยามาประคบ ให้กำลังใจด้วยการลูบหลังลูบไหล่ อย่าง “พ่อใจดี”
คุณสนธิ...!
คุณกระทืบลูกคุณที่กำลังนอนพะงาบ ๆ ได้ลงคอเชียวหรือ
คุณพูดทำไม...ว่า “พูดอะไรไปแล้วเดี่ยวสะเทือนใจคน” พูดคำนี้ออกมาทำไม หรือเมื่อพูดออกไปแล้ว คุณก็ควรจะหยุดพูดแค่นั้น
แล้วเบี่ยงเบนไปคุยเรื่องอื่นก็ได้มิใช่หรือ แต่คุณกลับไม่หยุดพูด... มันเหมือนคุณสับปลับ..
คุณไม่คิดบ้างเลยหรือว่า เมื่อคุณ
ที่ได้ยินคำพูดของคุณแล้วเขาจะ “เสียใจและน้อยใจ” สักแค่ไหน
ผม ว่าไม่เพียงคุณสมศักดิ์และคุณสุริยะใสเท่านั้นกระมังที่สะเทือนใจกับคำพูด ของคุณ กรรมการและสมาชิกพรรคคนอื่น ๆ ก็คงมีความรู้สึกไม่ต่างกัน
ผม เป็นคนนอก หลายครั้งวิจารณ์พรรคการเมืองใหม่อย่างตรงไปตรงมา ผมยังนึกไม่ถึงเลยว่า คุณจะกล้าหาญชาญชัย พ่นพิษใส่คนของคุณเองได้อย่างนี้
ผมไม่แปลกใจเลย ที่คุณพยายาม ชักน้ำเข้าลึกชักศึกเข้าบ้านด้วยการให้รัฐบาลไทยรบกับเขมร
วันนี้ คุณไม่ได้โยนระเบิดใส่พรรคการเมืองใหม่ และฝั่งกลบคนในพรรคการเมืองใหม่เท่านั้น
แต่วันนี้ คุณได้ “ปิดบัญชี” ชื่อ สนธิ ลิ้มทองกุล ไปจากผู้ที่เคยมีคุณูปการในวงการสื่อสารมวลชนไทยแล้วอย่างสิ้นเชิง
ขอไปสู่ที่ชอบ ๆ เถอะนะครับ คุณ
http://www.norsorpor.com/go2.php?t=m&u=http%3A%2F%2Fwww.oknation.net%2Fblog%2Fpansang%2F2010%2F09%2F05%2Fentry-1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น