วันศุกร์ ที่ 2 กรกฎาคม 2553
Posted by คมชัดลึก
แม้ขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยรายชื่อ “คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ” หรือ “คอป.” แต่ด้วยเรี่ยวแรงของ “3 ลูกหม้อ” กระทรวงยุติธรรมก็เปิดเกมรุกได้อย่างหวือหวา
เริ่ม จาก “คณิต ณ นคร” ที่เขี่ยลูก “ปรองดอง” ให้ไปอยู่บนเท้าของคนทุกสี เพื่อให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม ลงทุนบุกเข้าถ้ำเสือต้อง “กอดคอ” กับ “แม่ทัพ” ของทุกฝ่าย
ขณะที่ 2 แนวรับ “กิตติพงษ์ กิตติยารักษ์” กับ “วิทยา สุริยะวงค์” ก็เคลื่อนงานในเชิง “วิชาการ” เติมเกมอย่างทันท่วงที
มี การเปิดเวที “ระดมสมอง” ครั้งใหญ่ โดยดึงเอา “ประสบการณ์” ที่กลั่นออกมาจนเป็น “องค์ความรู้” จากนานาประเทศที่เดินผ่านถนนของความปวดร้าวและการ “นองเลือด” มาแล้วอย่างแสนสาหัส
โดยเฉพาะ “แอฟริกาใต้” และ “เซียร่า ลีโอน”
ทั้ง สองประเทศเคยมีองค์กรที่ตั้งขึ้นมาเพื่อสร้างความปรองดองของผู้คนในชาติ มีลักษณะใกล้เคียงกับคอป.ของไทย แต่เรียกว่า Truth and Reconciliation Commission - TRC
สิ่งที่ได้รับจากเวทีระดมสมองคือแม้ว่าใน ภาพกว้างๆ สถานการณ์ของทวีปแอฟริกาและประเทศไทย จะคล้ายคลึงกัน แต่เมื่อเจาะเข้าไปใน “เงื่อนไข” อันเป็นรากฐานของปัญหานั้นมีความต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ คือที่แอฟริกามีปัญหาเรื่อง “สีผิว-ชาติพันธุ์”
ขณะที่ประเทศไทย ความต่างด้านหลักคือ “ความคิดเห็นทางการเมือง” ซึ่งถูกปลุกระดมจากผู้นำทางการเมืองด้วยความคิด “คนละชุด” ผ่านสื่อทันสมัยหลากหลายและเข้าถึงทุกครัวเรือนอย่างง่ายดาย
แต่ถ้า แค่ “ถอดเสื้อออก” คนไทยก็มี “ผิว” สีเดียวกันแล้ว
ข้อเสนอที่น่า สนใจอยู่ที่ นายโฮเวิร์ด วาร์นีย์ ที่ปรึกษาด้านการค้นหาความจริงสถาบันนานาชาติการเปลี่ยนผ่านเพื่อความ ยุติธรรม จากเมืองเคปทาวน์ แอฟริกาใต้ ที่ยกบทเรียนที่เขาเคยทำสำเร็จมาแล้วคือจัดตั้งเวทีเพื่อรับฟังประสบการณ์ ของ “เหยื่อ” ทั่วทั้งประเทศ เพื่อให้ได้รู้ว่า “ปม” ที่แท้จริงคืออะไร
ที่ แอฟริกาใต้ประธานาธิบดีเดินทางไปฟัง “เหยื่อ” ด้วยตัวเองในหลายภูมิภาค ทำให้รัฐบาลเข้าถึงแก่นแท้ของปัญหามากกว่าจะอยู่แค่ส่วนกลาง และต้องดึง “วัยรุ่น” ขึ้นมาเป็น “พลังหลัก” ในการสร้างชาติ
ข้อสรุปที่สำคัญที่ ได้จากวงประชุมครั้งนี้คือทุกฝ่ายย้ำตรงกันว่า “กุญแจ” ดอกแรกที่จะไขประตูสู่ความสำเร็จคือ “คอป.” ต้องได้รับความเชื่อถือจากสังคม
ดัง นั้น “ด่านแรก” ที่คอป.ต้องก้าวผ่านไปให้คือการแต่งตั้งคณะกรรมการที่ได้รับการยอมรับจาก สังคมได้ แม้จะไม่ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ต้องมากพอที่จะกลบ “เสียงด่า” ให้ได้ยินเบาที่สุด
แต่ถ้าประกาศรายชื่อ 11 ตัวจริงลงสนามแล้วเรียกศรัทธาจากแฟนๆ ไม่ได้ เสียง “ยี้” รอบอัฒจันท์ กองเชียร์เดินออกทันทีครึ่งสนาม ก็ยากที่งาน “ปรองดอง” จะเดินหน้าต่อไปได้
“คอ ป.” จะทำงานสำเร็จหรือไม่ สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่ความเก่งกาจของคณะกรรมการ แต่ขึ้นอยู่กับ “ความศรัทธา” ของประชาชน ว่ามีมากพอที่จะหนุนหลังให้ก้าวเดินหรือไม่ต่างหาก
ขยายปมร้อน
เสถียร วิริยะพรรณพงศา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น