ที่มา กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ ที่ มา กรุงเทพ ธุรกิจ ออนไลน์
1 มิ.ย. 1 มิ.ย. 53 53
คงไม่ มีถ้อยคำใดที่จะเรียกขานเหตุการณ์การชุมนุมของคนเสื้อแดงตั้งแต่ 12 มีนาคม จนถึงวันที่ 20 พฤษภาคม 2553 ที่จบลงด้วยโศกนาฏกรรมแห่งชาติ ที่มีทั้งการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนเกียรติภูมิของชาติในสายตาของนานาอารยประเทศได้เหมาะสมเท่ากับคำว่า “พฤษภาอำมหิต” เพราะเป็นปรากฏการณ์ที่มีผู้คนล้มตายถึง 89 ศพ บาดเจ็บเกือบสองพันราย และผู้ที่สูญหายอีกจำนวนหนึ่งซึ่งยังไม่ทราบจำนวนที่แท้จริง คง ไม่มี ถ้อยคำ ใด ที่ จะ เรียก ขาน เหตุการณ์ การ ชุมนุม ของ คน เสื้อ แดง ตั้งแต่ 12 มีนาคม จนถึง วัน ที่ 20 พฤษภาคม 2553 ที่ จบ ลง ด้วย โศกนาฏกรรม แห่ง ชาติ ที่ มี ทั้ง การ สูญ เสีย ชีวิต และ ทรัพย์สิน ตลอด จน เกียรติภูมิ ของ ชาติ ใน สายตา ของ นานา อารยประเทศ ได้ เหมาะสม เท่ากับ คำ ว่า "พฤษภา อำมหิต" เพราะ เป็น ปรากฏการณ์ ที่ มี ผู้ คน ล้ม ตาย ถึง 89 ศพ บาดเจ็บ เกือบ สอง พัน ราย และ ผู้ ที่ สูญหาย อีก จำนวน หนึ่ง ซึ่ง ยัง ไม่ ทราบ จำนวน ที่ แท้จริง
นอกจาก ชีวิตที่ต้องบาดเจ็บล้มตายลงแล้วยังมีการเผาอาคารห้างสรรพสินค้า โรงภาพยนตร์ ศาลากลางจังหวัด อาคารสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ฯลฯ สร้างความเดือดร้อนและเสียหายแก่ทั้งภาครัฐและประชาชนที่ต้องทำมาหากินและ ติดต่อราชการงานเมืองต่างๆเหลือคณานับ ความผิดพลาดต่างๆของแต่ละฝ่ายถูกโหมกระหน่ำจากฝ่ายตรงข้ามประหนึ่งว่าอีก ฝ่ายหนึ่งมิใช่มนุษย์ร่วมโลกเดียวกัน จึงต้องทำลายลงเสียให้ย่อยยับ นอกจาก ชีวิต ที่ ต้อง บาดเจ็บ ล้ม ตาย ลง แล้ว ยัง มี การ เผา อาคาร ห้าง สรรพ สินค้า โรง ภาพยนตร์ ศาลา กลาง จังหวัด อาคาร สถานี โทรทัศน์ ช่อง 3 ฯลฯ สร้าง ความ เดือดร้อน และ เสียหาย แก่ ทั้ง ภาค รัฐ และ ประชาชน ที่ ต้อง ทำ มา หากิน และ ติดต่อ ราชการ งาน เมือง ต่างๆ เหลือ ค ณา นับ ความ ผิด พลาด ต่างๆ ของ แต่ละ ฝ่าย ถูก โหม กระหน่ำ จาก ฝ่าย ตรง ข้าม ประหนึ่ง ว่า อีก ฝ่าย หนึ่ง มิใช่ มนุษย์ ร่วม โลก เดียวกัน จึง ต้อง ทำลาย ลง เสีย ให้ ย่อยยับ
ฝ่ายรัฐบาลมุ่งเน้นไปที่การเยียวยาและช่วยเหลือผู้ ประกอบการที่ได้รับความเสียหายเท่านั้น แต่คนตาย คนบาดเจ็บที่มิใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจทหารกลับไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร เพราะมองว่าพวกนี้คือศัตรูทั้งๆที่เป็นคนไทยร่วมชาติด้วยกันแท้ๆ มิหนำซ้ำยังฉวยโอกาสสั่งไล่ล่าจับกุมผู้คนอย่างเหวี่ยงแห มีการตั้งข้อหาผู้ก่อการร้ายแบบไม่เลือกหน้า หลังจากที่ใช้ผังล้มเจ้าฉบับขายหัวเราะแล้วไม่ได้ผล ฝ่าย รัฐบาล มุ่ง เน้น ไป ที่ การ เยียวยา และ ช่วยเหลือ ผู้ ประกอบ การ ที่ ได้ รับ ความ เสียหาย เท่านั้น แต่ คน ตาย คน บาดเจ็บ ที่ มิใช่ เจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหาร กลับ ไม่ ได้ รับ การ ดูแล เท่า ที่ ควร เพราะ มอง ว่า พวก นี้ คือ ศัตรู ทั้งๆ ที่ เป็น คน ไทย ร่วม ชาติ ด้วย กัน แท้ๆ มิ หนำซ้ำ ยัง ฉวย โอกาส สั่ง ไล่ ล่า จับกุม ผู้ คน อย่าง เหวี่ยงแห มี การ ตั้ง ข้อหา ผู้ก่อการร้าย แบบ ไม่ เลือก หน้า หลังจาก ที่ ใช้ ผัง ล้ม เจ้า ฉบับ ขาย หัวเราะ แล้ว ไม่ ได้ ผล
สีหน้าท่าทางของผู้ที่เดินทางกลับจากการชุมนุมมีสี หน้าเรียบเฉย แววตาบ่งบอกถึงความคับแค้นใจ แน่นอนว่าหากเหตุการณ์ยังดำเนินไปเช่นนี้ ย่อมไม่เป็นผลดีต่อใครและใครแน่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทยของเรา โอกาสที่เกิดซ้ำอีกย่อมมีขึ้นอย่างแน่นอน หากรัฐบาลและผู้คนในสังคมยังไม่รีบแก้ไขกันเสียตั้งแต่ปัจจุบัน สีหน้า ท่าทาง ของ ผู้ ที่ เดินทาง กลับ จาก การ ชุมนุม มี สีหน้า เรียบ เฉย แวว ตา บ่ง บอก ถึง ความ คับแค้น ใจ แน่นอน ว่า หาก เหตุการณ์ ยัง ดำเนิน ไป เช่น นี้ ย่อม ไม่ เป็น ผล ดี ต่อ ใคร และ ใคร แน่ โดย เฉพาะ อย่าง ยิ่ง ประเทศไทย ของ เรา โอกาส ที่ เกิด ซ้ำ อีก ย่อม มี ขึ้น อย่าง แน่นอน หาก รัฐบาล และ ผู้ คน ใน สังคม ยัง ไม่ รีบ แก้ไข กัน เสีย ตั้งแต่ ปัจจุบัน
ไม่น่าเชื่อว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้เห็น ธาตุแท้ของผู้คนในสังคมบางส่วนที่เห็นดีเห็นงามกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในใจ กลางเมืองหลวง ไม่น่าเชื่อคนที่ปากก็พร่ำแต่การรักษาศีลภาวนากลับปลุกระดมให้รัฐเข้าใช้ กำลังปราบปรามเอาชีวิตผู้คน ไม่น่าเชื่อผู้ที่มีอาชีพที่จะต้องรักษาชีวิตคนไข้กลับเรียกร้องให้ทำลาย ชีวิตผู้ที่คิดเห็นต่างจากตนเอง ไม่ น่า เชื่อ ว่า จาก เหตุการณ์ ที่ เกิด ขึ้น ทำให้ เห็น ธาตุ แท้ ของ ผู้ คน ใน สังคม บาง ส่วน ที่ เห็น ดี เห็น งาม กับ การ ฆ่า ล้าง เผ่าพันธุ์ ใน ใจกลาง เมืองหลวง ไม่ น่า เชื่อ คน ที่ ปาก ก็ พร่ำ แต่ การ รักษา ศีล ภาวนา กลับ ปลุกระดม ให้ รัฐ เข้า ใช้ กำลัง ปราบปราม เอาชีวิต ผู้ คน ไม่ น่า เชื่อ ผู้ ที่ มี อาชีพ ที่ จะ ต้อง รักษา ชีวิต คนไข้ กลับ เรียก ร้อง ให้ ทำลาย ชีวิต ผู้ ที่ คิดเห็น ต่าง จาก ตนเอง
ในทำนองกลับกันผู้ที่ปากก็พร่ำว่าต่อสู้ด้วยความ สันติอหิงสาแต่กลับมีการใช้ความรุนแรงเป็นระยะๆ จนท้ายที่สุดก็คือการเผาทำลายอาคารร้านค้าและสถานที่ราชการ แม้จะอ้างว่าเป็นการต่อสู้กับฝ่ายรัฐบาลที่ใช้กำลังเข้าปราบปราม ก็ไม่อาจยอมรับว่าเป็นการต่อสู้แบบสันติอหิงสาได้ ใน ทำนอง กลับ กัน ผู้ ที่ ปาก ก็ พร่ำ ว่า ต่อสู้ ด้วย ความ สันติ อหิงสา แต่ กลับ มี การ ใช้ ความ รุนแรง เป็น ระยะ ๆ จน ท้าย ที่สุด ก็ คือ การ เผา ทำลาย อาคาร ร้าน ค้า และ สถาน ที่ ราชการ แม้ จะ อ้าง ว่า เป็นการ ต่อสู้ กับ ฝ่าย รัฐบาล ที่ ใช้ กำลัง เข้า ปราบปราม ก็ ไม่ อาจ ยอมรับ ว่า เป็นการ ต่อสู้ แบบ สันติ อหิงสา ได้
ที่น่าเศร้าที่สุดแม้แต่ในเขตวัดวาอารามที่ถือเป็น เขตอภัยทานแต่กลับถูกทำร้ายจนถึงแก่ชีวิต จำนวน 6 ศพ 2 คนเป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัคร และ 1 ในนั้นคือ น้องเกดพยาบาลอาสาผู้ยอมเสี่ยงชีวิตเข้าช่วยผู้อื่นจนตัวตาย ซึ่งรัฐบาลก็ออกมาปฏิเสธว่าเป็นฝีมือของโจรมิใช่เสียชีวิตจากฝีมือของเจ้า หน้าที่ทั้งๆที่มีพยานนับ สิบรายและรูปถ่ายยืนยันว่าทั้งหมดถูกยิงมาจากบนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส ที่ น่า เศร้า ที่สุด แม้แต่ ใน เขต วัดวาอาราม ที่ ถือ เป็น เขต อภัยทาน แต่ กลับ ถูก ทำร้าย จนถึง แก่ ชีวิต จำนวน 6 ศพ 2 คน เป็น เจ้าหน้าที่ อาสา สมัคร และ 1 ใน นั้น คือ น้อง เกด พยาบาล อาสา ผู้ ยอม เสี่ยงชีวิต เข้า ช่วย ผู้ อื่น จน ตัว ตาย ซึ่ง รัฐบาล ก็ ออก มา ปฏิเสธ ว่า เป็น ฝีมือ ของโจร มิใช่ เสีย ชีวิต จาก ฝีมือ ของ เจ้าหน้าที่ ทั้งๆ ที่ มี พยาน นับ สิบ ราย และ รูป ถ่าย ยืนยัน ว่า ทั้งหมด ถูก ยิง มา จาก บน ราง รถไฟฟ้า บี ที เอ ส
ที่น่าผิดหวังมากที่สุดอีกเช่นกันก็คือท่าทีของคณะ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติกลับออกมาแก้ต่างให้รัฐบาลว่าเหตุฆ่า 6 ศพที่วัดปทุมวนาราม แค่ภาพทหารขึ้นไปยืนบนรางรถไฟฟ้า ยังบอกไม่ได้ว่าใครยิง ซึ่งพูดอีกก็ถูกอีก แต่ในฐานะเป็นประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนนั้นไม่พูดประโยคนี้ยังจะดีเสีย กว่า เช่น อาจพูดว่าเป็นเรื่องที่จะต้องพิสูจน์หาความจริงต่อไป ฯลฯ มิใช่รีบออกมาปกป้องรัฐบาลเช่นนี้ ที่ น่า ผิดหวัง มาก ที่สุด อีก เช่น กัน ก็ คือ ท่าที ของ คณะ กรรมการ สิทธิ มนุษย ชน แห่ง ชาติ กลับ ออก มา แก้ต่าง ให้ รัฐบาล ว่า เหตุ ฆ่า 6 ศพ ที่ วัด ปทุม วนาราม แค่ ภาพ ทหาร ขึ้น ไป ยืน บน ราง รถไฟฟ้า ยัง บอก ไม่ ได้ ว่า ใคร ยิง ซึ่ง พูด อีก ก็ ถูก อีก แต่ ใน ฐานะ เป็น ประธาน คณะ กรรมการ สิทธิ มนุษย ชน นั้น ไม่ พูด ประโยค นี้ ยัง จะ ดี เสีย กว่า เช่น อาจ พูด ว่า เป็น เรื่อง ที่ จะ ต้อง พิสูจน์ หาความ จริง ต่อ ไป ฯลฯ มิใช่ รีบ ออก มา ปกป้อง รัฐบาล เช่น นี้
แต่ก็ เป็นที่น่าดีใจที่ทางองค์การนิรโทษกรรมสากล(Amnesty International)ซึ่งเป็นองค์การเอกชนก่อตั้งขึ้นในกรุงลอนดอนในปี 2504 มีจุดประสงค์ ในการค้นคว้าและดำเนินการป้องกันและยุติการทำร้ายสิทธิมนุษยชน และเพื่อแสวงหาความยุติธรรมสำหรับผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิ ได้เข้ามาสืบสวนหาข้อเท็จจริงกรณี “พฤษภาอำมหิต”นี้แล้ว ซึ่งก็เชื่อว่าความจริงไม่น้อยก็มากจะต้องปรากฏขึ้น เพราะความน่าเชื่อถือขององค์การนิรโทษกรรมสากลนั้นเหนือกว่าคณะกรรมการสอบ สวนที่รัฐบาลตั้งขึ้นอย่างแน่นอน ดังจะเห็นได้จากการที่คณะกรรมการสอบสวนของรัฐบาลคราวเมษายนคราวที่แล้วยัง สรุปไม่ได้เลยว่าใครเป็นผู้ขับรถแก๊สไปจอดแถวแฟลตดินแดง แต่ ก็ เป็น ที่ น่า ดีใจ ที่ ทาง องค์การ นิรโทษกรรม สากล (Amnesty International) ซึ่ง เป็น องค์การ เอกชน ก่อตั้ง ขึ้น ใน กรุง ลอนดอน ใน ปี 2504 มี จุด ประสงค์ ใน การ ค้นคว้า และ ดำเนิน การ ป้องกัน และ ยุติ การ ทำร้าย สิทธิ มนุษย ชน และ เพื่อ แสวงหา ความ ยุติธรรม สำหรับ ผู้ ที่ ถูก ละเมิด สิทธิ ได้ เข้า มา สืบสวน หา ข้อเท็จจริง กรณี "พฤษภา อำมหิต" นี้ แล้ว ซึ่ง ก็ เชื่อ ว่าความ จริง ไม่ น้อย ก็ มาก จะ ต้อง ปรากฏ ขึ้น เพราะ ความ น่า เชื่อถือ ของ องค์การ นิรโทษกรรม สากล นั้น เหนือ กว่า คณะ กรรมการ สอบสวน ที่ รัฐบาล ตั้ง ขึ้น อย่าง แน่นอน ดัง จะ เห็น ได้ จาก การ ที่ คณะ กรรมการ สอบสวน ของ รัฐบาล คราว เมษายน คราว ที่ แล้ว ยัง สรุป ไม่ ได้ เลย ว่า ใคร เป็น ผู้ ขับ รถ แก๊ส ไป จอด แถว แฟลต ดินแดง
การ ดำเนินการของขององค์การนิรโทษกรรมสากลซึ่งมีสมาชิกกว่า 2.2 ล้านคนนี้ ใช้วิธีรณรงค์เรียกร้องความเห็นพ้องจากมหาชนเพื่อใช้ในการเพิ่มความกดดันต่อ บุคคลหรือองค์การที่ละเมิดสิทธิ ซึ่งองค์การ นิรโทษกรรมสากลนี้มีผลงานมากมาย ที่เด่นๆ ก็คือ ในปี 2521 องค์การนิรโทษกรรมสากลได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพสำหรับ "การรณรงค์ต่อต้านการทรมาน"และรางวัลองค์การสหประชาชาติในสาขาสิทธิมนุษยชน (United Nations Prize in the Field of Human Rights) ในปี 2522 ล่าสุดก็คือรายงานประจำปี 2553: เกี่ยวกับสภาวะสิทธิมนุษยชนทั่วโลก (Amnesty International Report 2010: State of the World's Human Rights) รวบรวมข้อมูลการละเมิดสิทธิที่เกิดขึ้นในประเทศต่างๆ และแน่นอนว่าผลการตรวจสอบที่มีขึ้นในเหตุการณ์ “พฤษภาอำมหิต”นี้ คงจะต้องปรากฏในรายงานประจำปีของปีต่อๆไปอย่างแน่นอน การ ดำเนิน การ ของ ของ องค์การ นิรโทษกรรม สากล ซึ่ง มี สมาชิก กว่า 2.2 ล้าน คน นี้ ใช้ วิธี รณรงค์ เรียก ร้อง ความ เห็น พ้อง จาก มหาชน เพื่อ ใช้ ใน การ เพิ่ม ความ กดดัน ต่อ บุคคล หรือ องค์การ ที่ ละเมิด สิทธิ ซึ่ง องค์การ นิรโทษกรรม สากล นี้ มี ผล งาน มากมาย ที่ เด่น ๆ ก็ คือ ใน ปี 2521 องค์การ นิรโทษกรรม สากล ได้ รับ รางวัล โน เบ ล สาขา สันติภาพ สำหรับ "การ รณรงค์ ต่อต้าน การ ทรมาน" และ รางวัล องค์การสหประชาชาติ ใน สาขา สิทธิ มนุษย ชน (United Nations Prize in the Field of Human Rights) ล่าสุด ก็ ใน ปี 2522 คือ รายงาน ประจำ ปี 2553: เกี่ยว กับ สภาวะ สิทธิ มนุษย ชน ทั่ว โลก (Amnesty International Report 2010: State of the World's Human Rights) รวบรวม ข้อมูล การ ละเมิด สิทธิ ที่ เกิด ขึ้น ใน ประเทศ ต่างๆ และ แน่นอน ว่า ผล การ ตรวจ สอบ ที่ มี ขึ้น ใน เหตุการณ์ "พฤษภา อำมหิต" นี้ คงจะ ต้อง ปรากฏ ใน รายงาน ประจำ ปี ของ ปี ต่อ ๆ ไป อย่าง แน่นอน
ในชั้น ต้นนี้ เมื่อ 27 พ.ค.ที่ผ่านมา นาย
ผมเชื่อว่าวิธีที่จะทำให้ความขัดแย้งไม่ขยายตัว รุนแรงออกไปมากกว่านี้ ก็คือการทำความจริงให้ปรากฏขึ้นให้ได้ ผู้คนจะอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสันติสุขได้ แน่นอนว่าผู้คนในสังคมนั้นต้องอยู่อย่างเท่าเทียมกันใน ”ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์”มิใช่ถูกมองอย่างหมิ่นแคลนจากเพื่อนร่วมชาติว่า ถูกชักจูงหรือถูกซื้อเหมือนกับวัวควาย และถูกเอารัดเอาเปรียบในหยาดเหงื่อและแรงงานของเขาที่หล่อเลี้ยงความร่ำรวย ให้แก่ผู้ที่ดูถูกเหยียดหยามเขาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน มิหนำซ้ำยังยังถูกเลือกยิงเหมือนหมูหมากาไก่เสียอีก ผม เชื่อ ว่า วิธี ที่ จะ ทำให้ ความ ขัดแย้ง ไม่ ขยาย ตัว รุนแรง ออก ไป มากกว่า นี้ ก็ คือ การ ทำความ จริง ให้ ปรากฏ ขึ้น ให้ ได้ ผู้ คน จะ อยู่ ร่วม กัน ใน สังคม อย่าง สันติสุข ได้ แน่นอน ว่า ผู้ คน ใน สังคม นั้น ต้อง อยู่ อย่าง เท่าเทียม กัน ใน "ศักดิ์ศรี ความ เป็น มนุษย์" มิใช่ ถูก มอง อย่าง หมิ่น แคลน จาก เพื่อน ร่วม ชาติ ว่า ถูก ชักจูง หรือ ถูก ซื้อ เหมือนกับ วัว ควาย และ ถูก เอารัดเอาเปรียบ ใน หยาด เหงื่อ และ แรงงาน ของ เขา ที่ หล่อเลี้ยง ความ ร่ำรวย ให้ แก่ ผู้ ที่ ดูถูก เหยียดหยาม เขา อยู่ ทุกเมื่อเชื่อวัน มิ หนำซ้ำ ยัง ยัง ถูก เลือก ยิง เหมือน หมู หมา กา ไก่ เสีย อีก
การทำความจริงให้ปรากฏพร้อมกับหาตัวผู้กระทำความ ผิดมาลงโทษ ไม่ว่าเขาเหล่านั้นจะเป็น “ไอ้”หรือ”อี”ใด ไม่ว่าจะเป็น”นายกรัฐมนตรี” “รองนายกรัฐมนตรี” “อดีตนายกรัฐมนตรี”หรือ”แกนนำเสื้อแดง” คนใดที่มีส่วนทำให้การการบาดเจ็บล้มตายและความเสียหายแก่ทรัพย์สินและ เศรษฐกิจของประเทศอันมีมูลค่ามหาศาล จะต้องถูกนำตัวมาลงโทษ จึงจะนำความสงบสุขที่แท้จริงมาสู่ประเทศของเราได้ การ ทำความ จริง ให้ ปรากฏ พร้อม กับ หา ตัวผู้ กระทำความผิด มา ลงโทษ ไม่ ว่า เขา เหล่า นั้น จะ เป็น "ไอ้" หรือ "อี" ใด ไม่ ว่า จะ เป็น "นายกรัฐมนตรี" รอง นายกรัฐมนตรี "อดีต นายกรัฐมนตรี" หรือ "แกน นำ เสื้อ แดง" คน ใด ที่ มี ส่วน ทำให้ การ การ บาดเจ็บ ล้ม ตาย และ ความ เสียหาย แก่ ทรัพย์สิน และ เศรษฐกิจ ของ ประเทศ อัน มี มูลค่า มหาศาล จะ ต้อง ถูก นำ ตัว มา ลงโทษ จึง จะ นำ ความ สงบ สุข ที่ แท้จริง มา สู่ ประเทศ ของ เรา ได้
หากไม่ทำเช่นนี้แล้วผมเชื่อว่าความยุ่งยากก็จะ ตามมาไม่เป็นที่สิ้นสุด ประเทศไทยที่เคยสงบร่มเย็นเป็นอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวกันมาช้านาน อาจจะถึงคราวจบสิ้นด้วยการแตกเป็นเสี่ยงๆเพราะน้ำมือของคนเพียง 2 คน คือ อภิสิทธิ์กับทักษิณ ที่เสพย์ติดอำนาจอยู่บนกองเลือดและซากศพของเจ้าหน้าที่ชั้นผู้น้อยและ ประชาชนนั่นเอง หาก ไม่ ทำ เช่น นี้ แล้ว ผม เชื่อ ว่าความ ยุ่งยาก ก็ จะ ตาม มา ไม่ เป็น ที่ สิ้นสุด ประเทศไทย ที่ เคย สงบ ร่มเย็น เป็น อาณาจักร อัน หนึ่ง อัน เดียวกัน มา ช้านาน อาจ จะ ถึงคราว จบ สิ้น ด้วย การ แตก เป็น เสี่ยง ๆ เพราะ น้ำ มือ ของ คน เพียง คน 2 คือ อภิสิทธิ์ กับ ทักษิณ ที่ เสพย์ติด อำนาจ อยู่ บน กอง เลือด และ ซากศพ ของ เจ้าหน้าที่ ชั้น ผู้ น้อย และ ประชาชน นั่นเอง
รักประชาธิปไตยไม่เอาเผด็จการ ต่อต้านการรัฐประหารทุกรูปแบบ สร้างขวัญกำลังใจและความสุขเพื่อปวงชน
แดงเชียงใหม่
กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม
เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน
"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"
.
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"
.
วันพุธที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2553
ชำนาญ จันทร์เรือง: พฤษภา อำมหิต กับ องค์การ นิรโทษกรรม สากล
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น