คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร?
เรื่อง ลง ส.ส. หรือลงนรก?
โดย กาหลิบ
เห็นความวุ่นวายในพรรคเพื่อไทยว่าใครจะลง รับสมัครเลือกตั้งซ่อมในเขต ๖ กรุงเทพมหานครแทน คุณทิวา เงินยวง ที่ถึงแก่กรรม ก็ทำให้นึกทอดอาลัยว่านักเลือกตั้งเขาเป็นกันอย่างนี้ล่ะหรือ?
เถียง กันว่าจะเอาฮีโร่ในที่คุมขังอย่างคุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ หรือเอาคนยอดขยันมีผลงานมากอย่างคุณพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ลงสมัครจึงจะดี
ระหว่าง เถียงก็งัดกฎบัตรกฎหมายออกมาตีความกันให้ยุ่งไปว่าคุณณัฐวุฒิฯ ลงสมัครได้หรือไม่ได้ หรือถ้าได้รับเลือกแล้วจะได้เข้ารับตำแหน่งโดยไม่ถูกขัดขวางหรือไม่
เลย ไปถึงเรื่องพระราชบัญญัติความมั่นคงฯ ว่ามีอำนาจเผด็จการค้ำอยู่อย่างนี้จะจัดการเลือกตั้งอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม กันได้หรือ
ให้ความเห็นกันอึงคะนึงไป
ต่างคิดกันว่าการเลือก ตั้งซ่อมครั้งนี้จะเป็นก้าวแรกที่พรรคเพื่อไทยได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ทั่วประเทศในอนาคตได้อำนาจรัฐกลับคืนมาเป็นของตนทั้งสิ้น จึงพากันตื่นเต้น อยากจะมีส่วนร่วมกันนักหนา
ไอ้ความกระเหี้ยนกระหือรือน่ะไม่ว่าอะไร หรอกครับ วัวของใครก็เข้าคอกคนนั้น นักเลือกตั้งเขาก็ต้องตื่นเต้นกับการเลือกตั้ง
แต่ปัญหาคือพี่น้อง ประชาชนตายเจ็บไปแล้วนับร้อยชีวิตเพื่อสังเวยระบอบอำมาตยาธิปไตยไทย หลังจากที่ฝ่ายการเมืองของเราบอกกับมวลชนเหล่านั้นว่า เรามาบีบให้เขายุบสภาและจัดการเลือกตั้งใหม่เท่านั้น ไม่มีอันตรายใดๆ หรอก แล้วเขาส่งกระสุนปืนจากเบื้องสูงลงมาให้จนถึงหัวและหน้าอก
เรื่อง มันถึงขนาดนั้นแล้ว เราจะยังไปร่วมเล่นเกมการเมืองกับคนพรรค์นั้นได้ลงคออีก ก็ออกจะเกินไป
เราไม่ควรถกเถียงอีกแล้วว่า วันนี้จะเอาณัฐวุฒิหรือพร้อมพงศ์ จะป้องกันผลกระทบจาก พ.ร.บ. ต่อบรรยากาศการเลือกตั้งอย่างไร แต่เราต้องถามคำถามใหญ่กว่านั้นต่อตัวเองและต่อสังคม
เรายังร่วมสังฆกรรม ใดๆ กับระบอบโบราณนี้ได้อีกหรือ?
ถ้าเรามีจิตสำนึกรับรู้ถึงความเจ็บ ปวดของมหาชนชาวสยาม พรรคเพื่อไทยหรือหน้าไหนก็ตามที่คิดว่าตัวเองอยู่ในฝ่ายประชาธิปไตยจะต้อง หันหลังให้กับการเลือกตั้งในระบอบเผด็จการอย่างเด็ดขาด ไม่ใช่วิ่งกันพล่านเมื่อใครเขาเคาะกะลาโป๊กๆ ขึ้นมา
กรุณาตราไว้ให้ ดีนะครับ นักประชาธิปไตยเขายอมรับกันถ้วนหน้าว่า การเลือกตั้งเป็นวิธีที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งในการทำหลักประชาธิปไตยให้เป็น รูปธรรม
กาหลิบจึงไม่ได้ค้านที่กระบวนการเลือกตั้ง แต่ค้านการเลือกตั้งในเกมของอำมาตย์และเครือข่ายขี้ข้าของอำมาตย์ เช่นที่เป็นอยู่ขณะนี้ในเมืองไทย
เลือกตั้งซ่อมครั้งนี้อยู่ในอ้อม กอดเผด็จการตัวใหญ่ที่สุด เพราะเพิ่งสั่งฆ่าประชาชนมาหมาดๆ อยู่ภายใต้รัฐบาลที่ฉ้อฉล ไร้ประสิทธิภาพ และสร้างความแตกแยกในสังคมตลอดเวลา และอยู่ในอิทธิพลของ “องค์กรอิสระ” ที่มีเงามืดของอำมาตย์พาดทับอยู่เต็ม ยังไม่ต้องพูดถึงระบบศาลที่คนส่วนใหญ่เขาไร้ศรัทธามานานแล้ว
แล้วจะ เถียงกันทำไมว่าณัฐวุฒิหรือพร้อมพงศ์ หรือจะฝ่าด่าน พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ไปได้อย่างไร
เลิกเถียงแล้วประกาศให้ชัดสิครับว่าพรรคเพื่อไทยไม่ ร่วมโลกกับฆาตกรโหดเหล่านี้
ไม่ใช่การตายประชดป่าช้า แต่เป็นการแสดงว่าคนของพรรคเพื่อไทยมีจุดยืนเดียวกับมวลชนในขบวนประชาธิปไตย และไม่ได้มีจุดยืนเดียวกับคนสายพันธุ์ประชาธิปัตย์
เพื่อแสดงความ หมายของวีรชนเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๓.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น