โดย กาหลิบ
คอลัมน์ เมืองไทยหรือเมืองใคร?
ที่มา Democracy 100%
22 มิถุนายน 2553
เพื่อนฝูงในสายงานต่าง ประเทศส่งข่าวมาว่า ขณะนี้เอกอัครราชทูตไทยหลายท่านกำลังตกที่นั่งลำบาก เพราะได้รับคำสั่งให้โฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับเมืองไทยและสถาบันของชาติอย่าง หนัก ชนิดทำเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักพอ
ขณะเดียวกัน ทั่วโลกเขาต่างเห็นคลิปภาพความโหดร้ายของการสังหารประชาชนอย่างกระจ่างตา ก็ยิ่งทำให้โฆษณายากขึ้นอีก แถมยังถูกคนในประเทศนั้นๆ เขาโห่ประณามกลับมาอีกต่างหาก
มวลชนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่า ขณะนี้นักการทูตไทยในหลายๆ ประเทศถูกคนสำคัญในกระทรวงการต่างประเทศของเขาเรียกไป “ด่า” หลายครั้งหลายหน แต่สื่อของไทยไม่มีทางเอาเรื่องแบบนี้มารายงานให้เราทราบ เราจึงละเมออยู่ว่าทั่วโลกเขายังรักเราเหมือนเดิมหรือยังคิดว่าเป็นสยาม เมืองยิ้ม คิดว่าโฆษณาโง่ๆ แบบเดิมคงจะได้ผลลัพธ์เป็นความรักอันยิ่งใหญ่
เรื่อง แบบนี้นักการทูตไทยใจอิสระเขาน้ำตาตกในกันทั้งนั้น
ข้าราชการกระทรวง การต่างประเทศวัยหนุ่มสาวที่เปิด Facebook เอาไว้ให้คนร่วมโกหกตอแหลอย่างกว้างขวางก็มีไม่กี่คน และเป็นเสียงข้างน้อยในประเทศที่คนเขาตาสว่างขึ้นทุกวัน พวกนี้หวังว่าจะสอพลอจนเข้าตาขี้ข้าของเจ้าของประเทศและสนับสนุนให้ได้ดีใน ชีวิตข้าราชการแบบกบในกะลา
หรือเหมือนข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ อีกกลุ่มหนึ่งที่รับใช้ ศอฉ. จนได้ยศวาสนา ไม่ผิดอะไรกับภูตผีที่ดูดเลือดประชาชนเป็นอาหารอันโอชะของตน
เอกอัคร ราชทูตหลายท่านที่มีจิตสำนึก ได้แต่แอบระบายความคับข้องหมองใจกับคนใกล้ชิด บางท่านกล้าหาญพอจะรายงานอย่างซื่อสัตย์มายังกระทรวงส่วนกลางว่า เมืองไทยในวันนี้ย่ำแย่ขนาดไหน หรือวิจารณ์ความไม่เป็นประชาธิปไตยในปัจจุบัน ก็ถูกเรียกตัวกลับมาสอบสวน เหมือนคนกระทำความผิดอย่างรุนแรง
กระทรวงใดที่ได้คนบ้าเสียจริตมาเป็น รัฐมนตรีเจ้ากระทรวงและได้ปลัดกระทรวงชนิดเหาะข้ามหัวคนที่เหมาะสมกว่าขึ้น มาเป็นใหญ่ด้วยวิธีสอพลอตอแหล ก็จะปั่นป่วนอย่างนี้ทุกกระทรวง
เหตุ ที่โดนหนักกว่ากระทรวงอื่นๆ เพราะฝ่ายอำมาตยาธิปไตยคิดเอาเองว่ากระทรวงนี้คือสมบัติส่วนตัวของเขา มากกว่ากระทรวงอื่น งานแทบทุกหยดทุกอณูจึงมีไว้เพื่อเสริมความยิ่งใหญ่เหนือมนุษย์ของเขาและครอบ ครัวเป็นหลัก งานต่างประเทศเพื่อประโยชน์มหาชนชาวไทยแทบจะหาทำยาไม่ได้
คน ที่จะก้าวหน้าได้ในกระทรวงนี้ ต้องปิดตาและทำใจล่วงหน้าว่าตนเป็นเพียงกระทรวงใต้ถุนบ้านของฝ่ายอำมาตย์ ไม่ใช่กระทรวงของฝ่ายประชาธิปไตยเลย
มิฉะนั้นก็ต้องอำพรางความรู้สึก อันแท้จริงไว้ให้มิดชิด
จึงไม่น่าแปลกใจที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ ต่างประเทศที่ผ่านมาแบ่งออกได้เป็น ๒ พวก
พวกที่มาแบบประชาธิปไตยจะ อยู่ได้เพียงช่วงสั้นๆ และมักถูกดีดออกจากตำแหน่งด้วยเหตุผลแปลกๆ
พวก ที่อยู่ได้นานหลายปีหรือเกินสิบปี มักจะเป็นข้าราชการเก่าของกระทรวงหรือคนที่ถูกส่งมาโดยสถาบันหลักนอกกระทรวง เช่น นายก
คนที่ยังหลงคิดว่านายกษิตฯ มาในโควต้าของกลุ่มพันธมิตรฯ โปรดคิดใหม่ คนๆ นี้เป็นตัวแทนโดยตรงของฝ่ายอำมาตย์ ซึ่งเป็นผู้คัดเลือกและส่งตัวมาเป็นรัฐมนตรีโดยตรง
รัฐมนตรี “ตัวจริง” คือคนจำพวกที่สองนี้ ก็จะควบคุมกระทรวงการต่างประเทศลงมาเป็นขั้นๆ จนครอบคลุม เพื่อให้แน่ใจว่าแนวทางรับใช้ระบอบเผด็จการอำมาตยาธิปไตย และการร่วมทำลายระบอบประชาธิปไตยกับเครือข่ายปิศาจอื่นๆ จะต้องเป็นไปเช่นนั้น
(นักการ) ทูตจึงกลายเป็นทาสไปด้วยประการฉะนี้.
รักประชาธิปไตยไม่เอาเผด็จการ ต่อต้านการรัฐประหารทุกรูปแบบ สร้างขวัญกำลังใจและความสุขเพื่อปวงชน
แดงเชียงใหม่
กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม
เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน
"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"
.
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"
.
วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2553
กาหลิบ : ทูตหรือทาส?
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น