แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันอังคารที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2553

สาละวินโพสท์: ทั่วโลกจัดงานวันเกิดให้ซูจี

สาละวินโพสท์: ทั่วโลกจัดงานวันเกิดให้ซูจี

สาละวินโพสท์, 21 มิ.ย. 2553

ชาวพม่าและผู้สนับสนุนอองซาน ซูจีในหลายประเทศรวมถึงประเทศไทยร่วมจัดงานฉลองวัดเกิดให้กับออง ซาน ซูจี ด้าน ปธน. โอบาม่าเรียกร้องให้รัฐบาลพม่าปล่อยตัวออง ซาน ซูจีกับนักโทษการเมืองคนอื่น ๆ และยกย่องนางซูจีที่อุทิศตนทำงานด้านสิทธิมนุษยชนและเคลื่อนไหวเพื่อ ประชาธิปไตยในพม่าอย่างต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา ชาวพม่าและทั่วโลกได้ร่วมฉลองวันเกิดครบรอบ 65 ปี ให้กับนางออง ซาน ซูจี หัวหน้าพรรคเอ็นแอลดี ซึ่งยังเป็นเจ้าของรางวัลโนเบลสันติภาพเมื่อปี 2534 ด้านสมาชิกพรรคเอ็นแอลดีในกรุงย่างกุ้งได้จัดงานวันเกิดให้กับซูจี โดยมีประชาชนมาร่วมงานกว่า 5 ร้อยคน

ขณะที่ในภาคมัณฑะเลย์ รัฐอาระกัน และในพื้นที่อื่นๆ ของพม่าก็ได้มีการจัดงานวันเกิดให้กับนางซูจีด้วยเช่นกัน ด้านนายหน่ายวิน โฆษกพรรคเอ็นแอลดีได้ออกมาเปิดเผยว่า ในปีนี้มีประชาชนเข้าร่วมงานมากกว่าปีที่แล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าการเลือกตั้งจัดฉากของรัฐบาลจะยังดำเนินต่อไป แต่ประชาชนก็ยังคงนิยมในตัวนางซูจีอย่างท่วมท้น

อย่างไรก็ตาม นายหน่ายวินกล่าวว่า สำหรับนางซูจี โดยเฉพาะในวันคล้ายวันเกิดในปีนี้ดูเหมือนจะยิ่งเงียบเหงามากกว่าเมื่อปีที่ แล้ว เนื่องจากในวันเกิดเมื่อปีที่แล้ว นางซูจี ซึ่งอยู่ในระหว่างถูกกุมขังที่เรือนจำอินเส่ง ในข้อหาละเมิดกฎกักบริเวณ หลังปล่อยให้ชายอเมริกันว่ายน้ำเข้าในบ้านพัก ยังสามารถทำอาหารเลี้ยงนักโทษการเมืองคนอื่นๆ ในเรือนจำอินเส่งได้ แต่ในปีนี้ซูจีอาจต้องฉลองวันเกิดเพียงลำพังภายในบ้านพักกรุงย่างกุ้งอย่างไรก็ตาม สมาชิกพรรคเอ็นแอลดีได้ส่งเค้กวันเกิดไปให้นางซูจีแล้วในวันเกิดของเธอที่ ผ่านมา

ขณะที่ชาวพม่าและผู้สนับสนุนนางอองซาน ซูจีในหลายประเทศอย่างในไทย ฟิลิปปินส์ ออสเตรเลีย อังกฤษ อินเดีย ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ รวมถึงในประเทศอื่นๆได้ร่วมจัดงานฉลองวันเกิดให้กับนางซูจีด้วยเช่นกัน ด้านนายบารัค โอบามาประธานาธิบดีสหรัฐฯได้กล่าวเรียกร้องให้รัฐบาลพม่าเร่งปล่อยตัวนางออ งซาน ซูจีและนักโทษการเมืองในประเทศอย่างเร่งด่วน เนื่องในโอกาสวันครบรอบ 65 ปีของนางซูจี พร้อมกันนี้ ผู้นำสหรัฐฯ ได้กล่าวอวยพรและยกย่องนางซูจีที่อุทิศตนทำงานด้านสิทธิมนุษยชนและเคลื่อน ไหวเพื่อประชาธิปไตยในพม่าอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่หลายองค์กรเอ็นจีโอในจังหวัดเชียงใหม่ได้ร่วมกันจัดงาน วันเกิดให้กับนางออง ซาน ซูจี ณ หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน โดยงานในปีนี้ใช้ชื่อว่า "Using Our Liberty to Promote Burma's" (ใช้อิสรภาพของเราในการสนับสนุนพม่า)

ภายในงานนอกจากมีการแสดงภาพถ่ายเกี่ยวกับนางซูจีแล้ว ยังมีการเสวนาเรื่องทิศทางของการเมืองพม่าและการเลือกตั้ง รวมไปถึงการเคลื่อนไหวทางการเมืองนอกประเทศและบทบาทของผู้หญิงต่อร่างรัฐ ธรรมนูญของรัฐบาลทหารเป็นต้น นอกจากนี้ภายในงานยังมีการแสดงวัฒนธรรมจากหลายกลุ่มชาติพันธุ์จาก ชาวกะเหรี่ยง ไทยใหญ่และคะฉิ่น รวมถึงการแสดงดนตรีจากกลุ่มนักศึกษาชาวพม่าเป็นต้น โดยมีประชาชนที่ให้การสนับสนุนนางซูจีเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

เช่นเดียวกับในวันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมา ห้องสมุดเพื่อนพม่า (The Best Friend Library) ได้จัดงานชื่อ “Arrest Yourself” ภายในงานมีการฉายสารคดีเกี่ยวกับประวัติและการต่อสู้ของนางอองซาน ซูจี รวมถึงสารคดีเกี่ยวกับองค์กรฟรีเบอร์มาร์เรนเจอร์ (Free Burma Rangers) กลุ่มบรรเทาทุกข์ที่ให้ความช่วยเหลือผู้พลัดถิ่นภายใน (IDP) รวมถึงสารคดีเกี่ยวกับเด็กกำพร้าในพื้นที่ประสบภัยนาร์กิส

นอกจากนี้ Debbie Stothard จากองค์กร Altsean-Burma ได้เข้าร่วมบรรยายหัวข้อเรื่องการเลือกตั้งพม่า รวมถึงรัฐธรรมนูญปี 2008 (2551) โดย Debbie กล่าวว่า รัฐธรรมนูญปี 2551และการเลือกตั้งที่รัฐบาลเตรียมจัดขึ้นไม่ได้แก้ปัญหาในพม่า แต่จะยิ่งทำให้วิกฤติปัญหาในพม่าลุกลามมากขึ้นเท่านั้น เนื่องจากรัฐธรรมนูญไม่มีความชอบธรรม และรัฐธรรมนูญที่ทหารเป็นผู้ร่างขึ้นนี้ ยิ่งจะรับรองให้รัฐบาลทหารอยู่ในอำนาจชอบธรรมตามกฎหมายมากขึ้นเท่านั้น

ในงานยังมีการถกกันถึงหัวข้อเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยต่อการเดินทางไปเที่ยวในพม่านอกจากนี้ยังมีการเชิญเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิแมพ มาพูดเกี่ยวกับแรงงานข้ามชาติจากพม่า ซึ่งงานนี้ได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติที่สนใจเกี่ยวกับประเด็นพม่าเป็น อย่างดี


ถ้อยแถลง กรพ. ในโอกาสครบรอบวันเกิด 65 ปี "ออง ซาน ซูจี"

"คณะกรรมการณรงค์เพื่อประชาธิปไตย ในพม่า" เผยแพร่ถ้อยแถลงเนื่องในวันเกิดปีที่ 65 ของนางออง ซาน ซูจี ชี้การแสดงความเห็นทางการเมืองของผู้หญิงพม่ายังถูกปิดกั้น มีการลิดรอนสิทธิของคนในประเทศ และขอรำลึกถึงผู้หญิงที่ต้องสูญเสียชีวิตจากการต่อสู้ทางการเมืองกับรัฐบาล เผด็จการตลอดสี่ทศวรรษที่ผ่านมา

เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตยในพม่า ซึ่งเป็นองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยที่ติดตามความเคลื่อนไหวทางการ เมืองของพม่า ออกถ้อยแถลงในโอกาสครบรอบวันเกิด 65 ปีของนางออง ซาน ซูจี ผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ในพม่า ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ซึ่งปัจจุบันถูกรัฐบาลทหารพม่ากักบริเวณ โดยรายละเอียดของแถลงการณ์มีดังนี้

000

คณะกรรมการณรงค์เพื่อประชาธิปไตยในพม่า (กรพ.)
Thai Action Committe for Democracy in Burma (TACDB)

ถ้อยแถลงเนื่องในโอกาส
ครบรอบวันเกิดครบรอบ 65 ปี ของนางออง ซาน ซูจี
17 มิถุนายน 2553

วันที่ 19 มิถุนายน 2553 นี้จะเป็นวันที่นางออง ซาน ซูจี ผู้นำพรรคฝ่ายค้านพม่าหรือ พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) จะมีอายุครบรอบ 65 ปี ในขณะที่เธอยังถูกคุมขังอยู่ภายในบ้านพักบริเวณทะเลสาปอินยา กรุงร่างกุ้ง เป็นเวลากว่า 14 ปีจากช่วง 20 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ปี 2532

กิจกรรมทางการเมืองต่างๆ ที่เธอเข้ามามีส่วนร่วมตลอดชีวิตที่ผ่านมามี่ส่วนสำคัญที่ทำให้เธอต้องตก อยู่ภายใต้ภาวะการถูกจองจำ เธอถูกตัดสินจำคุกครั้งแรกเป็นเวลา 6 ปี ระหว่างปี 2532 ถึงปี 2538 ในช่วงเวลาที่เธอก่อตั้งพรรค NLD และเดินทางไปปราศรัยในประเทศพม่าเพื่อกระตุ้นให้มหาชนลุกขึ้นเพื่อปกป้อง สิทธิขั้นพื้นฐานของตนเองหลังจากเกิดการเดินขบวนประท้วงโดยประชาชนครั้งใหญ่ ในเหตุการณ์วันที่ 8 สิงหาคม 1988 (หรือที่ประชาคมโลกเรียกว่า เหตุการณ์ 8-8-88) ภายหลังเผด็จการทหารได้แก้ไขกฎหมายให้ขยายเวลาการควบคุมตัวเธอโดยไม่ต้องมี การไต่สวนในระหว่างเวลานั้น

ครั้งที่สองเมื่อเธอเดินทางไปพบตัวแทนพรรคและสมาชิกพรรค NLD และเคลื่อนไหวทางการเมืองนอกเมืองร่างกุ้งท้าทายอำนาจรัฐ เธอถูกจำกัดบริเวณเป็นเวลา 19 เดือนระหว่างปี 2543-2545

เหตุการณ์สุดท้ายที่ทำให้เธอถูกจองจำจนถึงบัดนี้ คือตอนปี 2546 ที่ขบวนรถและผู้สนับสนุนของเธอถูกรุมทำร้ายโดยกลุ่มมวลชนจัดตั้งของรัฐบาล ทหาร การจับกุมคุมขังครั้งนี้ รัฐบาลเผด็จการอ้างว่าเพื่อความปลอดภัยของตัวเธอเองที่มีผลต่อความมั่นคงของ รัฐจึงต้องถูกกักกันตัวในคุกอินเส่งก่อนถูกส่งไปกักบริเวณภายในบ้านพักของ เธอเอง ที่แย่ไปกว่านั้นคือสองสัปดาห์ก่อนครบกำหนดการปล่อยตัวในเดือน พฤษภาคม 2552 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลทหารพม่าอ้างเหตุการณ์ที่มีชาวอเมริกันลักลอบว่ายน้ำข้ามทะเลสาปมายัง ที่พักของเธอ โดยศาลพิจารณาลงโทษให้มีการกักกันนางอองซาน ซูจี ต่ออีกเป็นเวลา 18 เดือน

ตลอดเวลาที่เธอถูกคุมขังแม้ซูจีจะไม่สามารถออกมาร่วมเคลื่อนไหวกับผู้นำ ทางการเมืองคนอื่นๆ ได้ แต่พวกเรามักได้ยินถ้อยแถลงของเธอผ่านทางสื่อต่างๆ ที่มักกระตุ้นให้คนภายนอกประเทศสนใจและพยายามเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นใน พม่า

ดิฉันมิได้เป็นนักโทษการเมืองสตรีเพียงคน เดียวในประเทศพม่า ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันยังคงมีสตรี จำนวนมาก ที่ถูกจำขัง เนื่องจากความเชื่อทางการเมืองของพวกเธอ สตรีบางท่านมีลูกเล็ก ซึ่งต้องอยู่ภายใต้การดูแลของพ่อ ผู้ซึ่งมัวแต่ห่วงกังวล กับภรรยาของตัวเอง และไม่คุ้นเคย กับการทำงานบ้านเอาเสียเลย เด็กส่วนมากยกเว้นผู้ที่ยังไม่โตพอจะรู้ความ มักจะเป็นทุกข์ กับความกดดันในระดับต่างๆ กัน

คำพูดนี้น่าจะสะท้อนเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ ทางการเมืองพม่าในปัจจุบันได้ดีที่สุด โดยถอดมาจากตอนที่ซูจีให้สัมภาษณ์ Michele Manceaux นิตยสาร Marie Claire-Singapore Edition เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2539

ซึ่งนอกจากจะสะท้อนให้เห็นถึงภาพของการต่อสู้ทางการเมืองของนางอองซาน ซูจี เพื่อประชาธิปไตยภายใต้ระบอบเผด็จการทหาร ยังแสดงให้เห็นถึงการต่อสู้ทางการเมืองของผู้หญิงพม่า ซึ่งเสรีภาพในการแสดงความเห็นทางการเมืองของพวกเธอยังคงถูกปิดกั้นในประเทศ พม่าอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เผด็จการทหารยึดอำนาจ จวบจนปัจจุบัน

ในขณะที่รัฐบาลทหารมีความตั้งใจที่จะนำพาประเทศไปสู่ระบอบประชาธิปไตยภาย ใต้แผนแม่แบบที่จะนำไปสู่ประชาธิปไตย หรือ Roadmap to Democracy โดยร่างรัฐธรรมนูญสำเร็จ ทำประชามติรัฐธรรมนูญ และกำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 10 เดือน 10 ปี 2010 (10 ตุลาคม 2553) แต่ในอีกด้านหนึ่ง เสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนและการมีส่วนร่วมซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานของ ประชาธิปไตยกลับถูกลิดรอนไป ปัจจุบันองค์กรช่วยเหลือนักโทษทางการเมืองในพม่า หรือ AAPPB ระบุว่าในประเทศพม่ามีนักโทษทางการเมือง จำนวน 2157 คน โดยในจำนวนนั้นเป็นผู้หญิงกว่า 177 คน [1] หนึ่งในนั้น คือ อองซาน ซู จี ซึ่งพวกเธอต่างถูกจับกุมเพราะความเห็นต่างทางการเมือง

นอกจากนั้นรัฐธรรมนูญพม่ายังเต็มไปด้วยช่องโหว่ โดยไม่ได้คำนึงถึงความเท่าเทียมกันของหญิง-ชาย ตัดสิทธิผู้หญิงจากการเข้ารับตำแหน่งสำคัญๆ โดยจัดสรรเพียงบางตำแหน่งไว้สำหรับผู้หญิงที่มีประสบการณ์ด้านทหารเท่านั้น และสำหรับบางตำแหน่งก็มีการระบุคุณสมบัติว่า เหมาะกับผู้ชายเท่านั้น[2] รัฐธรรมนูญยังมีประสิทธิภาพในการขัดขวางไม่ให้นางออง ซาน ซูจี เป็นประธานาธิบดี

คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตยในพม่า (กรพ.) ในฐานะองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนที่ติดตามความเคลื่อนไหวทางการเมืองของพม่า มีความเป็นห่วงในสถานการณ์ทางการเมืองพม่าที่นอกจากจะไม่ก้าวไปสู่ระบอบ ประชาธิปไตยที่มาจากประชาชนโดยแท้จริงแล้ว ยังมีการลิดรอนสิทธิของคนในประเทศพม่าอีกเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะสิทธิของผู้หญิงซึ่งขัดแย้งชัดเจนกับ หลักกฎหมายระหว่างประเทศทั่วไปในอนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อ สตรีในทุกรูปแบบที่รัฐบาลทหารพม่าลงนามให้สัตยาบันและมีพันธกรณีที่ต้อง ปฏิบัติตาม วันครบรอบวันเกิดของนางออง ซาน ซูจี ในปีนี้ เราขอรำลึกถึงผู้หญิงที่ต้องสูญเสียชีวิตจากการต่อสู้ทางการเมืองกับรัฐบาล เผด็จการตลอดสี่ทศวรรษที่ผ่านมาและขอยืนเคียงข้างผู้หญิงชาวพม่าทุกคนที่ยัง คงต่อสู้เพื่อให้ได้มาเพื่อสิทธิเสรีภาพของตน

คณะกรรมการณรงค์เพื่อประชาธิปไตยในพม่า (กรพ.)

หมายเหตุโดย กรพ.

[1] http://www.aappb.org/female.html
[2] อ้างอิงจากรัฐธรรมนูญสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ฉบับปี พ.ศ. 2551 หมวดที่ 7 ว่าด้วยเรื่องการป้องกันประเทศ ในมาตรา 352 ที่กล่าวว่า สหภาพมีสิทธิ์ในการแต่งตั้งหรือมอบหมายหน้าที่ให้กับเจ้าหน้าที่รัฐตาม คุณลักษณะที่กำหนดไว้โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติต่อประชาชนคนใดในพม่าที่มีความ แตกต่างด้านเชื้อชาติ เพศ หรือ ศาสนา อย่างไรก็ตาม ไม่มีสิ่งใดในมาตรานี้ที่จะป้องกันการแต่งตั้งผู้ชายในตำแหน่งที่เหมาะสมกับผู้ชายเท่านั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน