แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันอังคารที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ตามหาก้อนอิฐสำคัญแห่งประวัติศาสตร์ไทย (1)

1 ตุลาคม, 2010 - 12:00 | โดย thanormrak

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

26 สิงหาคม 2553

ได้ไปหาคุณวิจิตร ไชยวัณณ์ อดีตนักหนังสือพิมพ์คนเมือง โดยผมขับรถไปหาคุณลุงวิจิตรที่บ้านห้วยน้ำขาว ตำบลบ้านยางคราม อำเภอดอย หล่อ จังหวัดเชียงใหม่ บ้านนี้อยู่ห่างจากพิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศวร์ไปอีกราว 5 กิโลเมตรเท่านั้น เป็นเรือนไม้ใต้ถุนโล่ง อยู่ด้านซ้ายมือ ตรงข้ามสนามกีฬา พอดี คุณลุงอายุ 86 ปีแล้ว ท่านบอกผมด้วยสีหน้าปรกติว่า ลุงเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากระยะสุดท้าย อีก 3 ปีจะตาย พอจบคำพู ผมค่อยผ่อนลมหายใจยาว ไม่น่าเชื่อคนที่รู้ว่าตนเองกำลังใกล้ตายจะมีทีท่า ปรกติ บอกเรื่องร้ายแรงเหมือนเรื่องปรกติธรรมดา ภรรยาคุณลุงอายุได้ 85 ปี คุณลุงวิจิตรบอกผมอีกว่า ภรรยาสุขภาพไม่ค่อยดี ต้องนอนพักตอนกลางวันนานๆ อีกไม่นานคงตามคุณลงไป เราพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องราวเชียงใหม่ได้อดีต ท่านความจำดีมาก พูดถึงประวัติวังบัวบาน ที่เล่าลือกันครั้งอดีตว่า หญิงสาวสวยชาวเหนืออกหัก จึงไปโดดน้ำสังเวยรักขม พูดถึงการทำป่าไม้ภาคเหนือของบริษัทชาวอังกฤษ พูด ถึงบ้านเดิมของคุณชรินทร์ นันทนาคร นักร้องเพลงลูกกรุงชาวเชียงใหม่ พูดถึงการเผยแผ่ศาสนาคริสต์ในเชียงใหม่ และอีกมากมายที่น่าสนใจ

ผมขอดูหนังสือพิมพ์คนเมือง

ฉบับรายวันครั้งอดีต ราคาฉบับละ 1 บาท ท่านบอกว่ามีคนขอยืมแล้วไม่คืน ไปตามหาแล้ว ปรากฏว่าคนยืมหนังสือเสีย ชีวิต ถามลูกหลานเขาตอบว่า งานศพชุลมุนวุ่นวาย ไม่รู้หนังสือพิมพ์คนเมืองฉบับรายวัน ที่เย็บติดกันแล้วเข้าเล่มทำปกเรียบร้อยอยู่ที่ไหน ความหวังของผมที่ต้องการ รู้เรื่องราวทางเหนือในอดีตก็วูบลง แม้ผมจะมีหนังสือเกี่ยวกับทางเหนือหลาย เล่ม แต่ก็อยากค้นหาข้อมูลหลายๆทาง คุณลุงวิจิตรพูดต่อเหมือนจุดไฟความหวังให้ สว่างวาบขึ้น ท่านว่า แต่มีหนังสือพิมพ์คนเมืองฉบับรายเดือน ราคาฉบับละ 5 บาท เย็บติดกัน 6 เดือนหรือ 6 ฉบับ รวบรวมเป็นเล่มใหญ่ ทำปกแข็งแรง ผมว่าดีๆครับ ขอดูหน่อยเถอะ ท่านลุกขึ้นพาร่างกายที่ผอมอ่อนแรง เดินช้าๆ เข้าไปยังห้องเล็กๆ คล้ายห้องครัว ใกล้กับที่เรานั่งคุยใต้ร่มไม้ ผมรีบตามไปยืนรอที่หน้าประตู ไม่กล้าเข้าไปดูท่านค่อนข้างหวง ท่านหันหลังกลับมาพร้อมหนังสือปกแข็ง 2 เล่ม ปกอ่อนเล่มบางอีก 1 เล่มยื่นให้ ผมก้มหัวรีบยกมือไหว้อย่างนอบน้อม


เรามานั่งคุยกันต่อ ผมพลิกดูหนังสือคนเมืองเล่มบางๆ ท่านบอกว่า นี่เป็นเล่มแรก เป็นเล่มปฐมฤกษ์ของหนังสือพิมพ์คนเมืองรายเดือน หน้าปกบอกเดือน กรกฎาคม 2497 หน้าปกเป็นรูปคุณสุชีรา ศรีสมบูรณ์ หรือสมบูรณ์ ศรีบุรี นางสาวไทย ปี พ.ศ. 2497 และรองนางสาวถิ่นไทยงาม ปี พ.ศ. 2496 มีคำกล่าวขวัญกันว่า เป็นนางสาวไทยที่สวยที่สุดในยุคโบราณ ท่านผู้อ่านดูรูปที่แนบมาซิครับส่วนหนังสือปกแข็งอีก 2 เล่มนั้น เล่มแรกเป็นหนังสือพิมพ์คนเมืองเดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายน 2498 เล่มที่สองเป็นหนังสือพิมพ์คนเมืองเดือนกรกฎาคมถึงธันวาคม 2498 เล่มหนึ่งประกอบด้วยหนังสือพิมพ์คนเมือง 6 เล่ม ผมขออนุญาตคุณลุงวิจิตรนำไปถ่ายเอกสารเรียบร้อย แต่ไม่ได้ถ่ายทุกหน้านะ ครับ เพราะเล่มหนึ่งหนาราว 180 หน้าทีเดียว เลือกถ่ายเฉพาะเรื่องราวที่เราสนใจ ส่วนหนังสือพิมพ์คนเมืองรายเดือนฉบับแรก ประจำเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2497 ผมถ่ายไว้ทั้งเล่ม...อยากให้ผู้สนใจได้อ่านมากครับ.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน