แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันจันทร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ย้ำอีกครั้ง “มาร์ค” ยังถือสัญชาติอังกฤษ



" มาร์ค ยังถือสัญชาติอังกฤษอยู่ จึงมีสิทธิ์ถูกศาลอาญาระหว่างประเทศสอบสวน เพราะจนถึงทุกวันนี้ไม่เคยแสดงหลักฐานการสละสัญชาติผู้ดีแม้แต่ครั้งเดียว "

ที่มา ข่าวสดออนไลน์

"อัมสเตอร์ดัม" ทนายนปช. ออกโรงยืนยันย้ำอีกครั้ง ชี้ "มาร์ค" ยังถือสัญชาติอังกฤษอยู่ จึงมีสิทธิ์ถูกศาลอาญาระหว่างประเทศสอบสวน เพราะจนถึงทุกวันนี้ไม่เคยแสดงหลักฐานการสละสัญชาติผู้ดีแม้แต่ครั้งเดียว ลั่นถึงผู้นำไทยจะไม่ยอมรับเรื่องสัญชาติ แต่ตอนนี้เตรียมแผนรุกไปหลายขั้นแล้ว รวมถึงเดินเรื่องขอให้ "สหพันธ์เสรีนิยมสากล" ขับพรรคประชาธิปัตย์พ้นจากสมาชิกภาพฐานปกปิดการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ด้าน "มาร์ค" ไม่ยอมตอบให้ชัดเหมือนเดิม พูดสั้นๆ "สัญชาติไทย แต่เกิดอังกฤษ" ส่วนแม่น้องเกด พยาบาลอาสาเหยื่อ 6 ศพวัดปทุมฯ จวกส.ส.ปชป. ไปลากตัวคนแก่มาขอขมานายกฯ ทั้งที่ควรเอาดอกไม้ไปให้นายกฯ กราบขอขมาตนและญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุสลายม็อบ 91 ศพมากกว่า

เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และทนาย ความแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการทำหน้าที่ทนายความนปช. ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) ให้เปิดสอบสวนคดี 91 ศพในเหตุรัฐบาลไทยปราบปรามการชุมนุมเสื้อแดงเมื่อเดือนเม.ย.-พ.ค.2553 ว่า จนถึงวันนี้ไม่ต้องสงสัย และไม่มีความสับสนใดๆ จากการพิจารณาตามกฎหมายสัญชาติของประเทศอังกฤษปีค.ศ.1948 ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีไทย มีสัญชาติเป็นชาวอังกฤษ ส่วนเรื่องที่นายอภิสิทธิ์พูดว่ามีสัญชาติไทยก็ไม่ใช่เรื่องที่โต้แย้ง เพราะเป็นคนไทยแน่ๆ แต่เป็นคนอังกฤษภายใต้กฎหมายด้วย ซึ่งตามกฎระเบียบของศาลอาญาระหว่างประเทศ จึงมีสิทธิ์จะดำเนินคดีต่อตัวบุคคลที่มีสัญชาติอยู่ในประเทศที่ลงสัตยาบัน กับศาลอาญาระหว่างประเทศ และถึงที่สุดแล้วไอซีซีมีสิทธิ์ตรวจสอบเรื่องสัญชาติ

นายอัมสเตอร์ดัม กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์อาจจะยื้อต่อไปที่จะไม่ตอบคำถามตรงๆ หรือยอมรับว่าเป็นคนอังกฤษ แต่ตนจะดำเนินการต่อไป มีคนมาถามว่าถ้าแผนเอชะงัก มีแผนบีไว้หรือยัง ตนตอบได้ว่า ตอนนี้มีถึงแผนซีแล้ว ประเด็นหลักก็คือบุคคลที่ไม่เคยทำหน้าที่รับใช้กองทัพเลย ไม่ว่าของไทยหรือของอังกฤษ เหตุใดจึงยังบริหารประเทศอยู่ได้ ทั้งๆ ที่เป็นคนสั่งการให้เกิดอาชญากรรมสังหารหมู่ขึ้นในการชุมนุม และพยายามปกปิดการสอบสวนเหตุ การณ์ที่เกิดขึ้น

ทนายความชาวแคนาดาของกลุ่มนปช. กล่าวต่อว่า ในส่วนของศาลไอซีซี มีกรณีตัวอย่างเมื่อปีก่อนที่ศาลรับคำฟ้องการสังหารหมู่ทางการเมืองในประเทศ เคนยา ซึ่งมีผู้เสียชีวิตกว่า 200 รายในเวลาช่วงสั้นๆ นี่เป็นตัวอย่างชัดเจน และที่น่าสนใจมากคือผู้พิพากษาคนหนึ่งที่อยู่ในการพิจารณาคดีของเคนยาดัง กล่าวเดินทางมากรุงเทพฯ ไม่กี่เดือนก่อน ซึ่งผู้พิพากษาท่านนี้จะเป็นผู้ที่ตัดสินว่าจะรับคำฟ้องในกรณีของไทยด้วย หรือไม่

นายอัมสเตอร์ดัม ระบุด้วยว่า นอกเหนือจากเรื่องที่ดำเนินการไป ยังมีความเคลื่อนไหวในส่วนของสมัชชาสหภาพรัฐสภาระหว่างประเทศ หรือ ไอพียู ซึ่งตนจะเสนอเรื่องให้ตรวจสอบรัฐบาลไทยชุดนี้ และพิจารณาไปถึงพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ว่าสมควรจะถูกปลดจากการเป็นสมาชิกภาพของไอพียูหรือไม่ ในเมื่อมีผู้นำพรรคที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ใช้ความรุนแรงต่อผู้ชุมนุม เสื้อแดง แล้วตอนนี้ยังทำประหนึ่งว่า บริหารประเทศได้ดี ทั้งๆ ที่ประเทศดำเนินมาได้เพราะข้าราชการ ส่วนผลงานที่รัฐบาลแสดงให้เห็นก็คือสร้างปัญหาชายแดนกัมพูชา

นอกจากนั้น นายอัมสเตอร์ดัมยังส่งตัวอย่างเนื้อหาคำปราศรัยในวันที่จะต่อสัญญาณวิดีโอ ลิงก์เข้ามายังที่ชุมนุมใหญ่ของกลุ่มคนเสื้อแดงในกรุงเทพฯ วันที่ 13 ก.พ.นี้ มีใจความโดยสรุปว่า การดำเนินการยื่นเรื่องต่อศาลไอซีซีเพื่อฟ้องร้องนายอภิสิทธิ์นั้น แม้ไทยไม่ได้ให้สัตยาบันรับรองศาลไอซีซี แต่ระหว่างที่ตนหารือกับคนไทยกลุ่มหนึ่งเกี่ยวกับการฟ้องร้องดังกล่าว มีคนๆ หนึ่งถามขึ้นมาว่า "จะช่วยได้มากขึ้นไหม ถ้านายอภิสิทธิ์มีสัญชาติเป็นคนอังกฤษ" ตนจึงดำเนินการมาตั้งแต่นั้น และจนถึงทุกวันนี้นายอภิสิทธิ์ หรือ มาร์ค ยังไม่เคยแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนแม้แต่ครั้งเดียวว่าได้สละการถือครอง สัญชาติอังกฤษที่ได้มาตามกำเนิดไปแล้ว ด้วยเหตุนี้ ตนจึงโต้แย้งมาโดยตลอดว่านายอภิสิทธิ์ยังคงถือสัญชาติอังกฤษอยู่ และความเป็นพลเมืองอังกฤษ ทำให้นายอภิสิทธิ์อยู่ใต้เขตอำนาจการสอบสวนของศาลไอซีซี

อย่างไรก็ตาม นายอัมสเตอร์ดัมยอมรับว่า โอกาสที่ศาลไอซีซีจะรับพิจารณาคดีนายอภิสิทธิ์มีน้อย เพราะปัจจุบันนี้ศาลไอซีซีมีคดีใหญ่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตายของคนเป็นล้านๆ รอการพิจารณาอยู่ แต่เหตุที่คิดว่าน่าจะมีโอกาสเพราะเมื่อเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา ศาลไอซีซีรับพิจารณาคดีเหตุรุนแรงทางการเมืองในประเทศเคนยา

นายอัมสเตอร์ดัม ระบุอีกว่า สัปดาห์นี้ทีมงานของตนจะเคลื่อนไหวให้ทางสหพันธ์เสรีนิยมสากล (ลิเบอร์รัล อินเตอร์เนชั่นแนล) ขับพรรคประชาธิปัตย์พ้นจากความเป็นสมาชิกภาพ ด้วยเหตุผลปิดกั้นสื่ออินเตอร์เน็ต ปล่อยให้มีการนำผู้อพยพโรฮิงญาไปปล่อยกลางทะเล และปกปิดการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ สิ่งที่ตนทำไม่ได้ต้องการทำร้ายประเทศไทยเหมือนที่ถูกโจมตี แต่เป็นการทำเพื่อต่อต้านนายอภิสิทธิ์ และนำคนผิดมาลงโทษ ตนยอมรับว่ารับเงินจากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จริง แต่นายมาร์ครู้ดีว่าเงินไม่ใช่เหตุผลหลักที่ตนเลือกทำงานนี้ เพราะที่ผ่านมา เวลาตนเลือกทำงานให้ใครนั้นจะดูที่อุดมการณ์ด้วย

เวลา 16.15 น. วันเดียวกัน ที่อาคารรัฐสภา นายอภิสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ถึงการถือสัญชาติที่หลายคนสงสัยว่าตกลงถือสองสัญชาติไทย-อัง ฤษหรือไม่ ว่า "ผมสัญชาติไทย แต่เกิดที่โน่นครับ" เมื่อถามว่าแสดงว่าได้สละสัญชาติอังกฤษแล้วใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ ไม่ตอบ ก่อนจะเลี่ยงเดินกลับขึ้นรถเพื่อเดินทางเข้ามายังทำเนียบรัฐบาลทันที

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มนปช.วันที่ 13 ก.พ. ว่า ได้หารือกับผบช.น.ว่าต้องดูแลไม่ให้มีการบุกรุกศาลอาญา นอกจากนั้น ต้องไม่ให้ปิดถนนและเป็นปัญหากับประชาชน

ด้านนายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกฯ ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวมีบุคคลบางกลุ่มเคลื่อนไหวให้การเกิดรัฐประหารว่า การรัฐประหารในเวลานี้เกิดขึ้นยากมาก เนื่องจาก 3 ปัจจัย 1.ประชาชนไม่สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงนอกระบบ เพราะเห็นว่านอกจากแก้ปัญหาอะไรไม่ได้แล้ว ยังซ้ำเติมวิกฤตให้แย่ลงไปอีก 2.การประกาศว่าจะยุบสภาเร็วๆนี้ของนายกฯ ทำให้ผู้นำเหล่าทัพขานรับการเปลี่ยนแปลงภายในระบอบประชาธิปไตย และ 3.รัฐบาลกำลังเฝ้าระวังกลุ่มที่หวังสร้างสถาน การณ์จากการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ เพื่อเป็นเงื่อนไขรัฐประหาร

วันเดียวกัน นางพะเยาว์ อัคฮาด มารดา น.ส.กมนเกด อัคฮาด หรือ "น้องเกด" อาสาพยาบาลที่ถูกยิงเสียชีวิตในวัดปทุมวนาราม วันรัฐบาลสั่งสลายผู้ชุมนุมเสื้อแดง 19 พ.ค. 2553 เปิดเผยความคืบหน้าการจัดกิจกรรมแรลลี่เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับน .ส.กมนเกด รวมถึงผู้เสียชีวิตจากเหตุสลายม็อบอีกเกือบร้อยราย ในวันอาทิตย์ที่ 13 ก.พ.นี้ ว่า ล่าสุดขบวนแรลลี่เตรียมความพร้อมหมดแล้ว พร้อมเคลื่อนขบวนในวันดังกล่าว โดยมีหลายกลุ่มเข้าร่วมขบวนด้วย อาทิ ชมรมแท็กซี่สุวรรณภูมิ 100 คัน และกลุ่มไก่ชนย่านร่มเกล้า ลาดกระบัง หนองจอก และหัวหมากฯ หลายร้อยคน ซึ่งจะเคลื่อนขบวนออกจากบริเวณหน้าสวนสาธารณะย่านร่มเกล้า เวลา 09.00 น. วันที่ 13 ก.พ. เพื่อไปสมทบกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่ชุมนุมหน้าศาลอาญา ถนนรัชดาฯ

นางพะเยาว์ กล่าวต่อว่า ระหว่างเส้นทางจากร่มเกล้าไปถึงศาลอาญา ตนและนายณัทพัช อัคฮาด ลูกชาย จะปราศรัยตลอดทางเพื่อให้ประชาชน 2 ข้างทางได้รับทราบข้อเท็จจริงกรณีการสลายการชุมนุมในเดือนเม.ย.-พ.ค.ที่ผ่าน มาของรัฐบาล จนส่งผลให้มีประชาชนเสียชีวิต 91 ศพ บาดเจ็บกว่า 2,000 คน เพราะที่ผ่านมาประชาชนถูกปิดหู ปิดตา ปิดกั้นสื่อมาตลอดทำให้ไม่ทราบข้อมูลที่แท้จริง เหตุการณ์ดังกล่าวผ่านมานานกว่า 8 เดือน แต่รัฐบาลยังไม่สามารถนำตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ยังไม่ยอมขอโทษญาติของผู้เสียชีวิตเหล่านี้ ในฐานะเป็นผู้มอบนโยบายให้ทหารใช้กำลังเข้าปราบปรามประชาชน

นางพะเยาว์ ระบุว่า ส่วนกรณีนายชนินทร์ รุ่งแสง ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ พาตัวนายสมัยศึก สรสิริ ชาวบางพลัด อายุ 75 ปี นำดอกไม้มาขอขมานายอภิสิทธิ์หลังจากไปตะโกนขับไล่นายอภิสิทธิ์ระหว่างเป็น ประธานพิธีเปิดเดิน-วิ่งการกุศลโรงเรียนดอนบอสโก เมื่อวันที่ 6 ก.พ. ตนมองว่าการกระทำของนายชนินทร์ ครั้งนี้มันมากเกินไป ถึงขนาดให้คนแก่อายุ 75 ปี อายุคราวพ่อ นำดอกไม้เข้าไปกราบขอขมานายอภิสิทธิ์ หากมองกลับกัน นายชนินทร์ควรจะเอาดอกไม้ไปให้นายอภิสิทธิ์มากราบขอขมาครอบครัวตนเสีย มากกว่าที่ทำให้ลูกสาวเสียชีวิตจากการสั่งการของรัฐบาล และไปกราบขอขมาต่อญาติผู้ตายอีก 91 คนจะเหมาะสมกว่า
มาร ดาน.ส.กมนเกด กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาช่วงแรกๆ ที่ลูกสาวเสียชีวิต นายอภิสิทธิ์โทรศัพท์มาหาตนและบอกว่าจะรีบหาตัวผู้ก่อเหตุที่ทำให้ลูกสาว เสียชีวิตในวัดปทุมฯ มาลงโทษโดยเร็ว นับตั้งแต่วันนั้นผ่านมากว่า 8 เดือน ยังไม่มีวี่แววว่าจะลากตัวผู้ก่อเหตุออกมาลงโทษได้ ทั้งๆ ที่มีพยานหลักฐานจำนวนมากว่าเจ้าหน้าที่รัฐหน่วยไหนยิงลูกสาวตนเสียชีวิต ขอให้คนสั่งการมีความสำนึกในสิ่งที่เกิดขึ้นบ้าง และยืนยันว่าตนและครอบครัวจะเดินหน้าเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกสาว และอีก 91 ศพต่อไปจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม ไม่ว่าจะกี่ปีกี่ชาติก็ตาม

http://www.free-thai.info/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน