เสื้อแดงโดนยิงหัวระเบิด.mp4
http://www.youtube.com/watch?v=3IJFw-2BZ_Q&feature=player_embedded
นาย สำราญ วางาม อายุ 51 ปี บิดาของนายสวาท วางาม อายุ 27 ปี แนวร่วมกลุ่มคนเสื้อแดง เหยื่อสไนเปอร์รายแรกที่ถูกยิงศีรษะเสียชีวิตคาที่กลางสี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนินกลาง เมื่อวันที่ 10 เม.ย.53 ที่ผ่านมา กล่าวถึงวันครบรอบ 1 ปี 10 เม.ย. ว่า ในวันอาทิตย์ที่ 10 เม.ย. นี้ จะถึงวันครบรอบ 1 ปี ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมคนเสื้อแดง บริเวณสี่แยกคอกวัว และอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถึงแม้ว่าจะผ่านมานานเกือบ 1 ปี ตนก็ยังไม่ลืมเหตุการณ์ในวันนั้น เป็นวันที่ตนเสียใจมากที่สุดในชีวิต เนื่องจากเป็นวันที่ตนต้องเสียบุตรชายคนโตไปจากน้ำมือของเจ้าหน้าที่รัฐ
นาย สวาท กล่าวต่อว่า เหตุการณ์ในวันที่ 10 เม.ย. นั้น ตนพร้อมด้วยลูกชายอีก 2 คน พากันเดินทางไปร่วมชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย และเรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ยุบสภาโดยเร็วเพื่อเลือกตั้งใหม่ ร่วมกับคนเสื้อแดงบริเวณสี่แยกคอกวัว เดินทางไปตั้งแต่ช่วงเช้าจนกระทั่งบ่าย สถาน การณ์บริเวณดังกล่าวก็เริ่มตึงเครียด มีการส่งกำลังทหารพร้อมอาวุธเข้ามากระชับพื้นที่โดยรอบ ตนและลูกชายก็ไปช่วยคนเสื้อแดงผลักดันกำลังทหารที่ตั้งแถวอยู่บริเวณ โรงเรียนสตรีวิทยาให้ออกไป แต่ปรากฏว่าได้มีการใช้เฮลิคอปเตอร์โปรยแก๊สน้ำตาเข้าใส่ผู้ชุมนุม จนทำให้ลูกชายคนเล็กของตนถูกแก๊สน้ำตาจนหายใจไม่ออก และถูกยิงท้อง แต่โชคดีถูกหัวเข็มขัดแต่ก็ล้มลงกับพื้น ขณะเดียวกันตนและลูกชายคนโตเห็นเหตุการณ์ พยายามเข้าไปช่วยดึงลูกชายคนเล็กออกมาจากพื้นที่เกิดเหตุ ระหว่างนั้นเอง ลูกชายคนโตก็ถูก สไนปอร์ยิงใส่ศีรษะด้านหลังจนมันสมองกระจาย ล้มลงเสียชีวิตคาที่ และเสียชีวิตเป็นรายแรกนับตั้งแต่เริ่มมีการชุมนุมของนปช. หลังจากนั้นก็มีคน เสื้อแดงถูกยิงตามมาอีกหลายสิบรายในวันนั้น
นาย สำราญ กล่าวต่อว่า ขณะที่ลูกชายคนโตเสียชีวิต ตนเห็นมันสมองลูกชายไหลออกมากองอยู่ที่พื้นถนน จึงถอดเสื้อและโกยมันสมองลูกชายใส่ไว้ ก่อนจะเอาไปวางไว้ที่โคนอนุสาวรีย์ประชา ธิปไตย จากนั้นไปล้างมือแล้วกลับมาเอาเสื้อที่ห่อสมองลูกชายที่วางไว้ แต่ปรากฏว่าหายไป เพราะตนตั้งใจว่าจะเอาสมองลูกชายไปใส่กลับที่เดิม อย่างไรก็ตาม สำหรับศพของลูกชายยังถูกเก็บไว้ที่วัดพลับพลาไชย สถานที่เดียวกับนายเทิดศักดิ์ ฟุ้งกลิ่นจันทร์ ที่เพิ่งเผาไปไม่นานมานี้ ทราบว่ายังมีอีก 7 ศพ ที่ยังถูกเก็บไว้อยู่ตามวัดต่างๆ
"ส่วน กำหนดการฌาปนกิจศพลูกชาย ขณะนี้ได้หารือกับบรรดาญาติแล้ว สรุปว่าจะนำศพออกมาตั้งบำเพ็ญกุศลในวันที่ 16 พ.ค.2554 นำออกจากวัดพลับพลาไชย ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดบำเพ็ญเหนือ ย่านมีนบุรี มีกำหนดสวดพระอภิธรรมศพ 1 คืน ส่วนคืนวันที่ 17 เป็นวัดหยุดราชการ จึงเลื่อนกำหนดการเผาไปเป็นวันที่ 18 พ.ค.เวลา 17.00 น." บิดาเหยื่อสไนเปอร์รายแรกกล่าว และว่า ฝากรัฐบาลให้หาตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษโดยเร็ว และรัฐบาลต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย เพราะทั้งหมดเกิดจากการสั่งการของรัฐบาลชุดนี้ ที่สั่งทหารใช้อาวุธจริงฆ่าประชาชนที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย และในวันที่ 10 เม.ย.นี้ ก็ขอให้คนที่รักประชาธิปไตยช่วยออกมากันเยอะๆ ส่วนตนและครอบครัวยืน ยันว่าจะขอออกมาต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตยร่วมกับคนเสื้อแดงตลอดไปจนกว่าจะ ได้รับชัย ชนะ
เขียนโดย Go6 TV
http://www.go6tv.com/2011/04/10-53.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น