แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2554

ด่วนอีกแล้ว DSI ร่วมมือกองทัพ กลบความอับอายจากชายแดน "บุก-ค้น-ยึด" สถานีวิทยุคนเสื้อแดง



ภาพล่าสุด ตำรวจหน้า วิทยุ 102.75

โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
26 เมษายน 2554

ณ เวลา 19.50 น. วันที่ 26 เมษายน 2554 มติชนรายงานรายละเอียดการจับกุมครั้งนี้

พล.ต.ต .ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ( ตร.) กล่าวถึงกรณีกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับวิทยุชุมชน 12 คลื่นความถี่ ที่นำเทปการปราศรัยเข้าข่ายผิดกฎหมายของนายจุตพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ไปเผยแพร่ว่า หลังจากรับเรื่องจาก กอ.รมน. พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.สั่งหน่วยที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบและติดตามจับกุมดำเนินคดีแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 27 เมษายน เจ้าหน้าที่ กอ.รมน. เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการ โทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) พร้อมกำลังตำรวจชุดกองปราบปราม และตำรวจ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี กว่า 40 นาย บุกเข้าตรวจยึดสถานีคลื่นวิทยุ 105.40 MHz ถนนเลียบคลองสามธัญ ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยยึดเครื่องกระจายเสียง เครื่องคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ในการกระจายเสียงของเครื่องส่ง ที่อาคารออกอากาศของสถานี อีกทั้งอายัดเสาอากาศของสถานี และควบคุมตัวดีเจ ลัคกี้ หัวหน้าสถานีวิทยุ 105.40 MHz มาสอบสวนที่ สภ.คูคต

ขณะที่ กำลังอีกจำนวนหนึ่งบุกเข้าค้นที่สถานีเรดสกิว คลื่นวิทยุ 96.35 MHz ถนนลำลูกกา คลองสี่ ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา แต่มีกลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงกว่า 300 คน รวมตัวกันอยู่หน้าสถานี ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจยึดอุปกรณ์ภายในสถานี จากนั้นจึงเจรจาและควบคุมตัวดีเจคม ลาดพร้าว หัวหน้าดูแลสถานี มาสอบสวนที่ สภ.คูคต โดยมี พ.ต.ท.กรณ์เสฎฐ์ วงศ์สีชิน รอง ผกก.สส.สอบสวนและดำเนินคดีข้อหามีใช้ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคม และตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต จากเจ้าพนักงานความผิดตาม พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ.2498 ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ให้การปฏิเสธข้อกล่าว ขอให้การในชั้นศาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ตำรวจกำลังสอบสวนดีเจ 2 คนอยู่นั้น กลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงปทุมธานีมารวมตัวกันที่หน้า สภ.คูคต กว่า 300 คน เรียกร้องให้ปล่อยตัว พร้อมต่อว่าถึงระบบการทำงานของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมที่ไม่ยอมดำเนินคดีกับ สถานีวิทยุชุมชนรายอื่นอีกหลายสิบสถานีในจังหวัดปทุมธานี ล้วนไม่ได้รับอนุญาตเช่นกัน ถือเป็นการปฏิบัติ 2 มาตรฐาน

จากนั้น กลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงได้ประสานทางโทรศัพท์ติดต่อให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี มายื่นหลักทรัพย์ประกันตัว ทั้ง 2 ดีเจ ต่อ พนักงานสอบสวน ด้วยเงินสดรายละ 50,000 บาท

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำกำลังเข้าดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยภายในโรง พัก โดย พ.ต.อ.นราเดช ทิพย์รักษ์ ผกก.สภ.คูคต ได้เข้าเจรจากับกลุ่มมวลชนให้อยู่ในความเรียบร้อย ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จากนั้นบรรดากลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงจึงยินยอมเดินทางกลับไปยังสถานีคลองสี่ โดยไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น

* * * * * * * * *

ด่วนอีกครั้ง!! บ่าย 2 นี้สถานีวิทยุ ชุมชน 7 แห่งตำรวจจะเข้ากระจายข่าวด่วน!!!!!!!!!!!!!

ขอความร่วมมือพ่อแม่พี่น้องกระจายด่วน

เก็บเอกสาร ซีดี ฮาดดิส ที่หมิ่นเหม่ทั้งหมด!!!

โชคชัย 4 แยก 3 อาคารพานิชหลังโรงหนังเก่า บ่าย 2

สายไหม 19

ร้านสมุนไพร ชัยมงคลโคกคาม

หมู่บ้านเฟรชิบ 13 ถนนประเสริฐมนูญกิจ

วัดวิมุด จรัญ 98

อาคารวังหินเพลส ลาดพร้าววังหิน 79

ไทย เฟรนชิบเฮ้า ลาดพร้าว 18

ด่วนสถานีคลอง4ลำลูกกาโดนปิดแล้วโดยDSI แหลงข่าวเชื่อถือได้100% ตอนนี้ คลอง4 , คลอง2ลำลูกกา , สมุดปราการ ปิดแล้ว

ประกาศกระจายข่าวให้เตียมตัวมาอิมพิเรียนถ้าสัญญาณดับหรือเฝ้าระวังอย่าให้จอหายครับจอหามาทันที่นะครับ

...อยากประกาศขอมวลชนมาที่สถานี asia update ด่วนที่สุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อยากประกาศขอมวลชนมาที่สถานีวิทยุชุมชน คลอง4 ด่วนที่สุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อยากประกาศขอมวลชนมาที่สถานี วิทยุชุมชน บ้านเรือนไทย ด่วนที่สุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อยากประกาศขอมวลชนมาที่สถานี สมุดปราการ ด่วนที่สุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

//แหล่งข่าว.
วีระชัย อรินใจ ประธานกลุ่มมหาลัยสีแดง ทำงานประจำอยู่ที่ asia update.

* * * * * * * * *

DSI บุกสถานีบ้านเรือนไทยลำลูกกาคลองสาม/สถานีลำลูกกาคอลอง๔/สถานีสำโรงตึกโจนาทานอิมพีเรียลสำโรงสงสัยติดต่อ 085 212 9083 คุณวรชัยเหมะ

ด่วน! ขณะนี้มีการพยายามยึดสถานีวิทยุเสื้อแดง และยึดได้ไปหลายสถานีแล้ว ตอนนี้มีความพยายามจากฝ่ายอันธพาลอย่างหนักที่จะยึดอิมพีเรียลลาดพร้าวไว้ แต่พวกเราได้ตรึงกำลังอยู่ อีกสถานีคือสถานีวิทยุแถวตลาดวงศกร กำลังชิงดำกันอยู่ หากพ่อแม่พี่น้องท่านใดอยู่ใกล้สถานีวิทยุเสื้อแดง จุดใด ขอกำลังช่วยปกป้องและโปรดระวังตัวด้วยครับ สงครามเริ่มขึ้นแล้ว

* * * * * * * * *



ประชาไท รายงาน

เมื่อ เวลาประมาณ 13.00น. ช่องเอเชียอัพเดท เผยแพร่ตัววิ่ง ระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอเข้าตรวจค้นสถานีวิทยุชุมชนเสื้อแดง 13 แห่งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล อาทิ วิทยุชุมชนสื่อบ้านเรือนไทย ลำลูกกา คลอง3 คลื่น 105.40 วิทยุชุมชนคนลำลูกกา คลอง4 คลื่น 96.35 คลื่นวิทยุชุมชนเพื่อประชาธิปไตย สำโรง คลื่น 97.25 โดยระบุว่า ขอกำลังไปช่วยปกป้องวิทยุชุมชนดังกล่าว

จากการโทรศัพท์สัมภาษณ์ นายพลท เฉลิมแสน หนึ่งในทีมดูแลสถานีวิทยุชุมชนย่านลำลูกกา คลื่น 105.40 ระบุว่า มีกำลังเจ้าหน้าที่ประมาณ 20-30 นายจากดีเอสไอ กสทช. กองปราบฯ สน.คูคต เข้ามาที่สำนักงานเมื่อเวลาประมาณ 12.00น. พร้อมหมายศาล โดยเข้ายึดเครื่องส่ง ไมโครโฟน คอมพิวเตอร์ มิกเซอร์และตัวแปลงสัญญาณของสถานี ไปไว้ที่ สน.คตตู

นายพลท กล่าวว่า สำหรับสถานีวิทยุชุมชน 105.40 เคยเปิดทำการมาช่วงหนึ่ง และปิดซ่อมไป ก่อนจะกลับมาเปิดอีกครั้งเมื่อประมาณหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ไม่มีผังรายการที่ชัดเจน

นายพลท แสดงความกังวลว่า การบุกสถานีวิทยุชุมชนเสื้อแดง 13 แห่งในครั้งนี้ อาจเป็นสัญญาณการยึดอำนาจ โดยเริ่มจากการปิดสื่อเสื้อแดงก่อน

ทั้งนี้ เบื้องต้นทราบว่ามีการแจ้งข้อหา มีเครื่องมือสื่อสารและตั้งสถานีโดยไม่ได้รับอนุญาต

* * * * * * * * *


รุ่งโรจน์ วรรณศูทร ฝากอ่านด่วน
นักรบข้อมูลข่าวสาร : รุกไปข้างหน้าอย่างสูญเสียให้น้อยที่สุด


โพสต์ครั้งแรก 3 พฤศจิกายน 2009, 08:20:13
http://www.newskythailand.us/board/index.php?topic=8362.msg26141#msg26141
http://arinwan.redthai.org/index.php?topic=124.0

ขอแสดงความเห็นในประเด็นที่พวกอำมาตย์-อภิชน ตั้งธงไว้ว่าล่อแหลม หรือจำพวกเป็นภัยต่อความมั่นคง โดยมีแนวโน้มไปสู่การกวาดล้าง-จับกุมหรือเชือดไก่ให้ลิงดูด้วยการคุกคาม-จับกุมเป็นรายๆไป

ย้อนไปในช่วงการเคลื่อนไหวประชาชาติ-ประชาธิปไตย ก่อน 14 ตุลา 2516 ในยุคที่โลกเรายังหาได้อยู่ในยุคไร้พรมแดนเช่นปัจจุบัน

จำได้ว่า ช่วงก่อน 14 ตุลาฯ นั้น การพูดคุยเรื่องการเมืองทั่วไป หรือการที่นิสิตนักศึกษา เดินเข้าไปหานักเคลื่อนไหวในอดีตบางคนที่หลงเหลือมาจากยุคเผด็จการเข้มข้น เพื่อพูดคุยถึงเรื่องราวการต่อสู้ในอดีต ที่คนรุ่นเรา (ในสัมยนั้น) ยังรับรู้ไปไม่ถึง หรือการค้นคว้าเอกสาร-หนังสือ-สิ่งตีพิมพ์ จะผิดกฎหมายไปเต็มๆ หรือแค่ล่อแหลม ก็ดี คนรุ่นนั้นตกอยู่ในภาวะระมัดระวังจนตัวลีบ

ถัดมาในช่วงประชาธิปไตยเบ่งบานหลัง 14 ตุลาฯ การนำเสนอในเรื่องราวทำนองเดียวกันนั้น เริ่มมีโอกาสมากขึ้น โดยที่กฎหมายเปิดโอกาสสำหรับเสรีภาพค่อนข้างสูงกว่าช่วงก่อนหน้านั้น ส่วนหนึ่งก็ด้วย "รัฐธรรมนูญ 2517" และอีกส่วนหนึ่งขึ้นต่อภาวะกระแสสูงของการเคลื่อนไหว ทำให้คนรุ่นนั้นกล้าที่จะแสดงความเห็น ทั้งโดยการพูดและโดยการเขียนมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ต้องยอมรับว่า ก็โดยเหตุที่อาศัยสภาพการณ์ที่มีลักษณะค่อนข้างจะเปิดกว้างนั้นเอง ที่นำไปสู่การตื่นตระหนกของฝ่ายปฏิปักษ์ประชาธิปไตย ที่มีองค์ประกอบ 3 ส่วน คือ อำมาตย์-อภิชน-ขุนศึกฟาสซิสต์ และในที่สุดนำไปสู่กรณีล้อมสังหาร 6 ตุลาคม 2519 ซึ่งเป็นฉากเลวร้ายฉากหนึ่งในประวัติอารยธรรมของมนุษยชาติ

โดย ข้อเท็จจริง ความเร่าร้อนเอาการเอางานของนักเรียน-นิสิต-นักศึกษา ที่ตื่นตัวมีส่วนร่วมทางการเมืองทั้งโดยตรงและโดยอ้อมในช่วงรอยต่อ 14 ตุลาฯ กับช่วงประชาธิปไตยเบ่งบานในหมู่ประชาชน โดยเฉพาะเน้นไปที่กรรมกร-ชาวนา เนื่องจากเป็นทิศทางของขบวนนักศึกษาที่ถือว่าก้าวหน้าทางการเมืองที่สุดในเวลานั้น ก่อให้เกิดการค้นคว้าข้อมูลที่ไม่เคยรู้ ปรัชญาและทฤษฎีการเมืองที่ถูกนำไปซุกแอบไว้ และอื่นๆในทำนองเดียวกัน

สิ่งพิมพ์และเอกสารใต้ดินจำนวน มากจึงถูกผลิตขึ้น ที่จำกัดวงที่สุดที่เอาการพิมพ์ดีดด้วยกระดาษจดหมายอากาศ (airmail) ที่จัดทำขึ้นได้คราวละไม่เกิน 5-6 สำเนา ทำเป็นรูปเล่มขนาดพ็อคเก็ตบุ๊ค; ถัดมาก็ด้วยกรรมวิธีโรเนียวและเก็บเล่ม ซึ่งจะได้จำนวนมากขึ้น เหมาะสำหรับใช้ในการเผยแพร่ในกลุ่มขนาดใหญ่ขึ้นเช่นในโรงงานอุตสาหกรรม หรือที่พักรวมของผู้ใช้แรงงานในเขตอุตสาหกรรมชานเมืองจังหวัดปริมณฑลของ กรุงเทพฯ; ส่วนลำดับสุดท้ายจัดพิมพ์เป็นรูปเล่มหนังสือใต้ดิน คือไม่แจ้งชื่อ-ที่อยู่ผู้พิมพ์ผู้โฆษณาตาม พรบ.การพิมพ์ บางคราวบางปก อาจจะมียอดสูง 2 ถึง 3,000 เล่มทีเดียว และหนังสือประเภทนี้ ถูกนำไปคุมขังด้วยคำสั่งกระทรวงมหาดไทยในปี 2520 ที่ห้ามมีไว้ในครอบครอง นั่นเอง

ในประเทศที่เสรีภาพเป็นเพียงเป้าหมาย ความระมัดระวังไม่ไปละเมิดสิ่งที่ยอมรับกันแพร่หลายแล้วว่าเป็น "กฎโจร" นั้น ควรยึดถือเป็นหลักปฏิบัติอย่างเคร่งครัด สำหรับประชาชนผู้รักประชาธิปไตยและรักความเป็นธรรม ที่มีบทบาทเคลื่อนไหวเป็นกองหน้าอยู่ในขอบเขตปริมณฑลต่างๆ แม้แต่ในโลกไซเบอร์ การหลีกเลี่ยงความสูญเสียบุคลากรที่มีคุณค่า มีความหาญกล้าเหล่านั้น ถือเป็นภารกิจสำคัญที่ควรยึดถือเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนโลกแห่งข้อมูล ข่าวสารไปสู่พี่น้องประชาชนฝ่ายประชาธิปไตยอันไพศาล

ตราบใดที่กระบวนการสืบสวน-สอบสวนในปัจจุบันยังใช้ระบบ "กล่าวหา" หรือ ระบบ "ผู้ถูกกล่าวหามีความผิด จนกว่าจะมีข้อพิสูจน์มาหักล้างว่าไม่ได้ทำความผิด" ซึ่งแตกต่างอย่างตรงกันข้ามกับระบบที่ใช่ในอารยะประเทศสมัยใหม่ทั้งหลาย ซึ่งเลือกที่จะใช้ระบบ "รวบรวมพยานหลักฐาน" เพื่อนำตัวผู้ต้องหาหรือจำเลย เข้าสู่การพิจารณากระบวนในกระบวนการยุติธรรมที่ "ผู้ถูกกล่าวเป็นผู้บริสุทธิ์ จนกว่าจะมีข้อพิสูจน์มาหักล้างว่าทำความผิด"

ตราบนั้น อันตรายของ "กระบวนการยุติธรรมสองมาตรฐาน" ก็จะยังคงเป็นอันตรายคุกคามการเคลื่อนไหวเพื่อ "สร้างประชาธิปไตยสมบูรณ์ สร้างรัฐธรรมนูญประชาชน" อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้.

Posted by TTT at 4/26/2011 02:52:00 หลังเที่ยง Share on Facebook

http://thaienews.blogspot.com/2011/04/dsi_26.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน