จากการที่ผมคลุกคลีถ่ายภาพแนวหน้า มากับคนเสื้อแดงมานาน ผมก็พอจะมองเห็นอะไรๆ ที่จะทำให้
คนเสื้อแดง สามารถต่อสู้กับพวกทหาร โดยสันติและปราศจากอาวุธ (หมายถึงเอามือเปล่าไปสู้กับปืน)
แล้วได้ชัยชนะแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด โดยผมจะขอยกเหตุการณ์ที่สำคัญ สองเหตุการณ์ คือเหตุการณ์ที่
ลาดหลุมแก้ว และ ที่อนุสรณ์สถานถนนวิภาวดี เอามาเปรียบเทียบให้เพื่อนๆ ได้เห็นพร้อมภาพประกอบ
ดังนี้ครับ
เหตุการณ์แรกผมจะขอเรียกว่า ยุทธการยึดลาดหลุมแก้ว โมเดล ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 เม.ย 53
หากท่านใดต้องการที่จะดู ภาคแรก ที่ผมเคย Post กระทู้ลาดหลุมแก้วไปแล้ว ก็ตาม Link นี้เลยครับ
(ผมการันตีว่าภาคแรกมันมาก เป็นกระทู้เคยปักมุดมาแล้ว ผู้ชมล้นหลาม)
http://www.internetfreedom.us/thread-9963.html
กระทู้นี้ผมขอเป็นลาดหลุมแก้วภาคสอง ก็แล้วกัน ผมจะ Post ภาพเหตุการณ์การบุกยึดสถานีไทยคม
ที่ลาดหลุมแก้วพร้อมกับ ยึดอาวุธของทหารและกักตัวทหารให้อยู่ในความสงบ ได้ พร้อมทั้งคำบรรยาย
เหตุการณ์และบทวิเคราะห์ให้เพื่อนๆ ได้เห็นและเข้าใจถึง วิธีการที่ว่า คนเสื้อแดงต่อสู้โดยสันติวิธีและ
ปราศจากอาวุธและได้รับชัยชนะ เขาทำกันอย่างไร
หัวใจของยุทธการนี้คือ จำนวนคนเสื้อแดงต้องมากพอครับ ยิ่งมากเท่าไร ก็ยิ่งดี เพราะพวกทหารมันมีอาวุธ
มันไม่กล้าที่จะยิงคนหมู่มากครับ พวกเขาจะปฏิบัติตามกฏการสลายม๊อบแบบสากล ที่ทั่วโลกเขาทำกันเริ่ม
ตั้งแต่การฉีดน้ำ ใช้แก๊สน้ำตา ไปจนถึงการใช้กระสุนยาง และกระสุนจริงในที่สุดครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นพวกทหาร
จะประเมินกำลังของพวกเราก่อนนะครับ หากกำลังน้อยเขาก็จะให้วิธีสุดท้ายเลยครับ คือยิงด้วยกระสุนยาง
และกระสุนจริง อันนี้ตายจริงนะครับ
ขอเล่าเรื่อง ว่าตอนนั้นคนเสื้อแดงยังมี 2 เวทีคือที่ราชประสงค์ กับที่ผ่านฟ้า เช้าวันที่ 9 เมษายน 53 แกนนำ
ประกาศบนเวทีที่ราชประสงค์ว่าวันนี้เราจะไปยังสถานที่ที่หนึ่ง แต่ไม่บอกว่าไปที่ใด เพื่อไม่ให้ ศอฉ. มันรู้
ขอให้คนเสื้อแดงขับรถตามธงนำไปก็แล้วกัน วันนี้รับรองว่าเราชนะแน่นอน ผมยอมรับว่าตอนนั้นผมก็
งงเหมือนกัน ตอนนั้นผมอยู่ที่เวทีราชประสงค์ ส่วนเวทีผ่านฟ้าก็ได้รับคำสั่งเช่นกัน แต่ไม่บอกว่าไปไหน
เหมือนกัน แต่แล้วในที่สุดทุกขบวนก็ไปพบกันที่สถานีไทยคม อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี เป็น
การเดินทางจากราชประสงค์ไปลาดหลุมแก้วไกลมาก ผมว่าประมาณซัก 60 กิโลเมตร ได้มั้ง แต่พวกเราก็
ไม่ย่อท้อครับ เชิญชมภาพพร้อมคำบรรยายเลยครับ
http://www.internetfreedom.us/thread-22385.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น