แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันพุธที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2554

โจรใต้ตบหน้ารัฐบาล หรือรัฐบาลร่วมมือกับโจรใต้

โดย ปาแด งา มูกอ
26 เมษายน 2554

วันนี้ผมขอนำข่าวที่อ้างถึงแหล่งข่าว กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า มาให้ท่านผู้อ่านได้ร่วมกันพิจารณาดูว่า ข่าวประเภทนี้ เหมาะสมหรือไม่ที่จะเป็นหน่วยงานของรัฐ

เหมาะสมหรือไม่ที่จะเป็นหน่วยงานหลักในการแก้ไขปัญหาเหตุการณ์ความไม่สงบใน สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และเหมาะสมหรือไม่ที่เงินภาษีทุกบาททุกสตางค์ของประชาชนทั้งประเทศที่ให้ เป็นค่าเงินเดือน ค่าเสี่ยงภัย ค่าเบี้ยเลี้ยงพิเศษ ค่าทวีคูณ กับเจ้าหน้าที่เหล่านี้ ผมว่าทางที่ดี กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า

น่าจะไปรับเงินเดือน กับกลุ่มขบวนการ BRN ให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย



กลุ่ม'บีอาร์เอ็น'เคลื่อนไหวป่วนใต้ปี 53ใช้เงิน 85 ล้าน ( โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ )

แหล่งข่าวจากหน่วยข่าวกรอง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า จากการเก็บข้อมูลภายในปี 2553 พบว่า ขบวนการก่อการร้ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายใต้การนำของกลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็นได้ใช้เงินในการก่อเหตุการณ์จำนวนมาก ถึง 85 ล้านบาท โดยได้รับการสนับสนุนจากทุกทาง ทั้งขบวนการค้ายาเสพติด การเรียกค่าคุ้มครองจากบริษัทห้างร้าน เก็บภาษีบุคคล เก็บภาษีการค้า ซึ่งเป็นเงินทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย กระทั่งมีการเรียกเก็บค่าคุ้มครองจากหน่วยงานรัฐในพื้นที่ด้วย

ตัวเลขนี้เท่านี้หน่วยข่าวกรองตรวจสอบพบ ที่เหลือไม่ทราบว่าเท่าไหร่ ซึ่งกลุ่มบีอาร์เอ็นจะมีฝ่าย การคลังทำหน้าที่หารายได้นำเงินส่งโครงสร้างขบวนการ โดยการหารายได้ในระดับเขตปกครองข้างล่าง อาทิ การรับเหมาทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โครงการของรัฐในหมู่บ้านโดยจะเรียกเก็บ 10 - 15% จากจำนวนเงินทั้งหมดเข้ากองกลางภาษีบุคคลวันละบาท สวนยางเก็บสวนละ 3,000 ต่อเดือน หรือของรัฐก็จะเก็บจากเจ้าหน้าที่รัฐที่อยู่โดดเดี่ยวและต้องการความคุ้ม ครอง เช่น จ่ายเดือนละ 500 บาท หรือชุดรักษาความปลอดภัยเก็บคนละ 50 บาท แต่จากการตรวจสอบพบปรากฎว่า แหล่งทุนใหญ่อยู่ในกลุ่มโครงการของรัฐและเงินสนับสนุนจากองค์กรพัฒนาเอกชน รวมถึงผู้มีรายได้มากที่พร้อมจ่ายให้

สำหรับขั้นตอนการหารายได้ของ กลุ่มบีอาร์เอ็น จะมีหน่วย สรรพากรพื้นที่ของขบวนการ แบ่งเงินส่วนหนึ่งสำหรับเป็นใช้จ่ายในการดำเนินงานในพื้นที่หรือระดับ จังหวัด ก่อนส่งเข้าส่วนกลาง ขณะที่ระดับแกนนำใหญ่จะไปขอรับการสนับสนุนจากองค์กรพัฒนาเอกชนจากประเทศใน ยุโรป และประเทศอื่นๆ ที่พร้อมบริจาค เพื่อช่วยการทำกิจกรรม เช่น เพื่อสนับสนุนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาบางแห่ง แต่ก็ถูก กลุ่มบีอาร์เอ็นไปตัดแบ่งมาเพื่อใช้เคลื่อนไหว ขณะที่ขบวนการพูโล ซึ่งเป็นองค์กรหนึ่งในพื้นที่จะสนับสนุนในแนวสังคมตามที่ขบวนการบีอาร์เอ็น ขอการสนับสนุน แต่กลุ่มนี้ไม่มีบทบาทมากนัก

จากการประเมินของหน่วยข่าวกรองทหาร พบข้อมูลได้มีการเตรียมก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นกรณีพิเศษในช่วงกลางเดือนเม.ย.-พ.ค. ซึ่งเป็นช่วงใกล้การเลือกตั้ง เนื่องจากช่วงการเมืองจะอ่อนแอและไม่มีความชัดเจนด้านนโยบาย ซึ่งจะเปิดช่องให้กลุ่มแบ่งแยกดินแดนฮึกเหิมและฉวยใช้โอกาสนี้เพื่อเคลื่อน ไหวยกระดับความไม่สงบสู่สากล อีกประเด็นก็คือนักการเมืองที่จะลงเลือกตั้งจำเป็นต้องอิงกระแสมลายูเพื่อ ให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียงในพื้นที่ ดังนั้นนโยบายการหาเสียงในเขตที่มีกลุ่มแบ่งแยกดินแดน จึงอาจเป็นไปในลักษณะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการหรืออาจจะหลับตาข้างหนึ่ง ขณะที่มีการก่อเหตุ


ข้อมูลข่าวในลักษณะนี้ (ถ้าเป็นจริงอย่างที่สื่อนำมาลงเสนอ ) ก็ถือเป็นการถีบหน้ารัฐบาล และถีบหน้าหน่วยงานตัวเอง นี่แสดงว่าหมดน้ำยา ในการแก้ไขปัญหาไฟใต้อย่างสิ้นเชิงแล้วจริงๆ

ข้อมูลข่าวสารในลักษณะที่มีการระบุว่า เป็นข่าวจากหน่วยข่าวด้านความมั่นคง หน่วยข่าวกรอง กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เช่นนี้ มิใช่เพิ่งจะมี หากท่านผู้อ่านที่เคยติดตามในบทความ
โอละพ่อ ไม่รู้ว่าใครหลอกใคร ที่ มีการเสนอข่าวว่า สามจังหวัดชายแดนใต้ มีการจัดส่งหญิงไทยมุสลิมไปทำการฝึกอาวุธในประเทศเพื่อนบ้านเพื่อกลับมา ปฏิบัติการก่อความไม่สงบในพื้นที่

ข่าวชิ้นนี้เล่นเอาหน่วยงานด้านความมั่นคง กอ.รมน.ภาค 4 ต้องออกมาชี้แจงกันจ้าละหวั่นว่าเป็นข่าวของผู้ไม่หวังดีกุข่าวเรื่องนี้ ขึ้นมา ผมขอถามว่า แล้วทำไม พวกมึง..!! ถึงไม่ถามไอ้หัวข่าวออนไลน์ที่มันลงข่าวนี้ว่า มันเอาข่าวนี้มาจากไอ้บ้าคนไหน ไอ้หน่วยงานห่วยๆหน่วยงานไหนที่ให้ข่าวมันมา แค่นี้ก็จบ ไม่เห็นมันจะยากเย็นอะไรเลย

ความผิดพลาดของหน่วยงานที่ได้ชื่อว่า เป็นหัวใจหลักของการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และใช้งบประมาณเพื่อปฏิบัติภารกิจอย่างมหาศาล มากกว่าหน่วยงานอื่นๆ อย่าง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนหน้า นี้ ขอถามว่า มันคุ้มมั้ย…???

บทเรียนของความผิดพลาดที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เมื่อ พ.ศ. 2538 กอ.รมน.ภาค 4 ได้ขออนุมัติ เปลี่ยนชื่อขบวนการโจรก่อการร้ายเป็น โจรก่อการร้าย และลดระดับการป้องกันและปราบปรามการก่อการร้ายของฝ่ายรัฐบาลลง และจากปี พ.ศ. 2538 ถึง พ.ศ. 2546 การดำเนินการด้านการข่าว ได้พัฒนากลายเป็น ไม่มีขบวนการโจรก่อการร้ายหรือโจรก่อการร้าย กลายเป็นโจรธรรมดา และมากลายเป็นกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในรัฐบาลชุดเทพประทาน ขอถามว่า มันห่วยมั้ย...???

เรื่องนี้ผมวิเคราะห์ดูแล้ว หากเป็นการรายงานข่าวของหน่วยข่าว กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้าจริง แสดงว่ารายงานฉบับนี้มีอะไรซ่อนเร้นอยู่ 2 นัยยะ

1.ถล่มพรรคการเมืองที่อยู่ตรงข้ามกับรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ที่ พ่อใหญ่จิ๋วชูธงสนับสนุน นครปัตตานีในการเลือกตั้งที่จะมาถึง

2.ตบหน้ารัฐบาลพร้อมกับเสียดสีพรรคประชาธิปัตย์

แต่เมื่อมาวิเคราะห์อีกครั้งหนึ่ง ผมชักไม่แน่ใจขึ้นมาเสียดื้อๆ ว่า นี่คือฝีมือของนักการข่าวระดับเซียนของประเทศไทยแน่หรือ หรือเป็นเพียงนักรายงานข่าวชั้นสวะที่ไม่เอาไหนเสียเลย ไอ้กระจอก......

Posted by นักข่าวชาวรากหญ้า at 4/26/2011 08:32:00 ก่อนเที่ยง Share on Facebook Links to this post

http://thaienews.blogspot.com/2011/04/blog-post_26.html


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน