แนวร่วมแดงสยามเพื่อประชาธิปไตย : แถลงการณ์ ปฏิเสธการปรองดองจอมปลอมและเสนอต้อง 5 ปฎิรูป 3 ปฎิวัติ เพื่อการเปลี่ยนแปลงไปสู่สังคมแห่งสันติภาพ
บรรยากาศทางการเมืองโดยรอบที่เกิดขึ้นในช่วงขณะเวลา แห่งการปรองดอง เพื่อปูทางไปสู่การเลือกตั้ง แม้จะมีการเปิดศึกจากหน่วยงานของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นการให้ DSI ยื่นถอนประกันตัวแกนนำ นปช. จนกระทั้งไล่ปิดวิทยุชุมชน ก็เป็นเพียงเกมแสดงแสนยานุภาพอำนาจของฝ่ายที่กุมอำนาจรัฐขณะนี้
แต่แล้วการตัดสินใจที่แท้จริงของทั้งสองฝ่าย คือผู้มีบารมีนอกรัฐสภา และเพื่ออะไรๆที่เกิดขึ้นในช่วงแห่งการประลองกำลังที่เหลืออยู่
แนวร่วมแดงสยามเพื่อประชาธิปไตย จึงได้ขอปฎิเสธเส้นทางเดินแห่งการปรองดองจอมปลอม แต่สนับสนุนแนวทางการเลือกตั้ง ซึ่งได้รวบรวมแนวคิดหลักแห่งการปฏิรูปและปฏิวัติ ซึ่งในแนวทางของเรามีดังนี้
1 สิทธิในการยกเลิก มาตรา 112 ซึ่งถือได้ว่าเป็นกฎหมายที่ฝ่ายการเมืองนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง มากที่สุด และทำให้การตีความของหน่วยงานยุติธรรมไม่ยืนอยู่บนหลักอุดมการณ์ประชาธิปไตย สูญเสียความชอบธรรมแห่งหลักการนิติรัฐ
2 สิทธิในการวิพากษ์วิจารณ์ตัวเองและกันเอง เพื่อยืนยันหลักการ รับผิดชอบตัวเองและสังคม ซึ่งเป็นหนึ่งในหลักแห่งการสร้างแนวทางปฏิบัติความเสมอภาค อันที่แท้ ความเสมอภาคต้องสร้างจากการเคารพในตนเองให้ได้ก่อน เป็นการสร้างจริยธรรมขั้นพื้นฐาน เละการสร้างหลักประกันแก่สังคมว่าจะไม่สร้างลัทธิกู ลัทธิผู้วิเศษ หรือลัทธิหลงตัวเอง จนเป็นเหตุให้สังคมตกอยู่ในโรคความล้มเหลว งมงายไร้เหตุผล ดังนั้นการวิพากษ์วิจารณ์กันเองอย่างสร้างสรรค์จึงเป็นเป้าหมายหนึ่ง ในงานการปฏิรูป
3 สิทธิในการป้องกันตัวเอง ในเวลาที่รัฐใช้ความรุนแรงกับประชาชน ซึ่งสิทธินี้อยู่ประมวลกฎหมายอาญา(ไทย)มาตรา๖๗มาตรา๖๘มตรา๖๙มาตรา๗๒ มาตรา ๓๗๔ ในปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน อาทิ สิทธิพื้นฐานของบุคคล สิทธิทางการเมือง ซึ่งประเทศไทยเข้าเป็นภาคีเมื่อวันที่27 กันยายน 2539 และเป็นการยืนยันหลักการสากล แห่งกฏบัตรสหประชาชาติ มาตรา 42 มาตรา43 มาตรา 45 มาตรา51
4 สิทธิ ในการป้องกันความหลากหลายทางชีวภาพ หมายถึง หลักการเคารพความหลากหลายในวิถีแห่งชีวิตแห่งชุมชน และท้องถิ่น ทางเชื้อชาติ ทางเพศ ทางวัฒนธรรม และการเลือกโอกาสช่องทางทำหากินอย่างสุจริตชน
5 สิทธิในไต่สวนถามหาผู้กระทำความผิดมาลงโทษไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็ตาม ในการล้อมปราบประชาชน ในปี2553 และเหตุการณ์ความรุนแรง 6 ตุลาคม2519 ซึ่งในเหตุการณ์การล้อมปราบ2553รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ หรือรัฐบาลในอนาคต ต้องมีหน้าที่ร่วมมือให้การสนับสนุน ในเฉพาะหน้าต้องให้งบประมาณ ชดเชยผู้ที่เสียชีวิตและหรือทุพพลภาพ 10 ล้านบาทขึ้นไปแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตและ5 ล้านบาทขึ้นไปแก่ผู้ทุพพลภาพ
ในแนวทางการปฎิวัติ มีดังนี้
1 ปฎิวัติการศึกษา สร้างองค์ความรู้วิทยาศาสตร์ทางสังคม ทางวัฒนธรรม ทางความคิด
2 ปฎิวัติเศรษฐกิจ สร้างระบบเศรษฐกิจ คู่ขนานระหว่างชาติกับภูมิภาคและสร้างฐานชนชั้นกลางใหม่เพิ่มขึ้น
3 ปฎิวัติการเมือง สร้างนักการเมืองรุ่นใหม่ที่มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยเสรี และสร้างการเมืองเพื่อคนรุ่นใหม่ที่ไม่จำเป็นต้องเป็นทายาทนักการเมือง เพื่อสร้างรากฐานสถาบันการเมืองเพื่อสังคมใหม่แห่งสันติภาพ
29 เมษายน2554
Posted by นักข่าวชาวรากหญ้า at 4/29/2011 04:47:00 หลังเที่ยง Share on Facebook
http://thaienews.blogspot.com/2011/04/5-3.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น