ที่มา เวบไซต์ Robert Amsterdam
คำแถลงการณ์ของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติกรณีอาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ
26 พฤษภาคม 2554—แกนนำกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยนปช.ได้ร้องขอให้สำนักงานกฎหมาย อัมสเตอร์ดัม แอนด์ พีรอฟฟ์ ยื่นคำร้องเพิ่มเติมต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ(ไอซีซี) ในนามของกลุ่ม เพื่อขอให้ศาลทำการไต่สวนเหตุการณ์ความรุนแรงต่อกลุ่มผู้ชุมนุมในระหว่าง เดือนเมษายนและพฤษภาคม ปี 2553 อย่างเป็นอิสระ
เนื่องมาจากปรากฏหลักฐานและคำให้การของพยานใหม่ คำร้องต่อศาลอาญา ระหว่างประเทศฉบับใหม่ จะผนวกรายงานล่าสุดของกลุ่มเอ็นจีโอองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน อย่างองค์กรฮิวแมนไรท์วอซซ์เข้าไปด้วย เพราะเนื่องจากองค์กรเห็นถึงความพยายามที่สำคัญในการทำความจริงให้ปรากฏ และสร้างความกระจ่างชัดต่อเหตุการณ์สังหารหมู่ที่กรุงเทพมหานคร
กลุ่มนปช.เชื่อว่า คำร้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศฉบับที่สองมีความจำเป็น เนื่องจากมีเหตุการณ์ใหม่หลายเหตุการณ์เกิดขึ้น และทั้งนี้เพื่อจะย้ำให้เห็นถึงเจตจำนงของรัฐบาลไทยที่เพิกเฉยต่อความคืบ หน้าในการสอบสวน หรือการดำเนินคดีต่อบุคคลที่มีส่วนรับผิดชอบ รวมถึงการที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะสั่งให้ปกปิดข้อเท็จจริง
หลายเดือนนับตั้งแต่การยื่นของร้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศครั้งแรก รัฐบาลใช้วิธีการหลบหลีกหลายวิธี โดยเปลี่ยนย้ายความรับผิดชอบภายในหน่วยงานรัฐหลายหน่วย รวมถึงการที่กองทัพยังเสวยสุยกับการไม่ต้องรับผิดใดๆอย่างชัดแจ้ง มีการร่างนโยบายองค์กรโดยการใช้การดำเนินงานแบบคาดเดา และไม่ให้ความร่วมมือกับการสอบสวนถึงกรณีของข้อกล่าวหาอาชญากรรมสงคราม ซ้ำยังแทรกแซงหน่วยงานที่แต่งตั้งโดยรัฐบาลเอง อย่างคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.)
สิ่งที่คนไทยทุกคนรับรู้คือกลุ่มอำมาตย์พยายามที่จะไม่เผชิญหน้ากับความจริง เรื่องเหตุการณ์สังหารหมู่ แม้ว่าจะมีคำแถลงการณ์จากกลุ่มพรรคการเมือง แต่ กลุ่มนปช.จะไม่ยอมรับการพูดคุยเรื่องการนิรโทษกรรมจนกว่าความจริงจะปรากฏ และจุดยืนที่หนักแน่นของเราคือ ไม่มีการปรองดองสมานฉันท์ใดที่สามารถเกิดขึ้นได้โดยปราศจากความรับผิด
ประชาชนชาวไทยจะต้องลุกขึ้นต่อต้านการใช้กฎหมายเผด็จการ และเรื่องสองมาตรฐานที่ทำลายการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตย และจำกัดเสรีภาพการแสดงออกอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือก ตั้ง ด้วยการยึดมั่นแนวทางแสดงหาความจริงและความเป็นธรรมในสังคม อคติอันหยั่งรากลึกและการเซ็นเซอร์ตนเองของสื่อที่จงรักภักดีต่อรัฐบาล ไม่ได้สามารถทำอะไร นอกจากสร้างความมุ่งมั่นให้แก่ที่ปรึกษากฎหมายของกลุ่มนปช.ในความพยายามที่ จะอธิบาย และเปิดโปงขวากนามแห่งความอยุติธรรมอย่างเป็นระบบที่ยังคงมีอยู่ในทุกซอก ทกมุมของประชาธิปไตยในประเทศไทย
แม้การเลือกตั้งกำลังจะมีขึ้น แต่แกนนำกลุ่มนปช.กลับถูกดำเนินคดีหลายคดี รวมถึง คดีก่อการร้าย ปลุกระดมและหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มี การสั่งให้ดำเนินคดีจากพรรคผู้นำรัฐบาลด้วยเหตุผลทางการเมือง ทั้งนี้เพื่อพยายามจำกัดกิจกรรมการเคลื่อนไหวของเรา และปฏิเสธสิทธิขั้นพื้นฐานของเราในฐานะพลเมือง ก่อนจะมีเหตุการณ์การกักขังตามอำเภอใจ และจำคุกนักกิจกรรมทางการเมืองที่เคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยโดยมิชอบ ด้วยกฎหมายอีกครั้ง กลุ่มนปช.ตั้งใจที่จะหาโอกาส แสดงความเห็น และนำเสนอข้อเท็จจริงที่ท้าทายต่อข้อกล่าวหาเรื่องก่อการร้ายของรัฐบาล
รายงานฉบับใหม่ทั้งสามฉบับที่สำนักงานกฎหมายอัมสเตอร์ดัม แอนด์ พีรอฟฟ์เผยแพร่ในวันนี้ ได้รวบรวมข้อมูลที่แสดงให้เห็นถึงระดับของโครงสร้างอคติที่มีอยู่ในระดับสูง รวมถึงการบิดเบือนการใช้ทรัพยากรรัฐของรัฐบาลอภิสิทธิ์เพื่อประกันว่าผลของ การเลือกตั้งตกอยู่ประโยชน์ของประชาชนส่วนน้อย
โปรดเข้าร่วมการต่อสู้กับการบิดเบือนการใช้อำนาจของรัฐที่ไร้ประชาธิปไตยและถูกหนุนหลังโดยทหาร
นปช.
*******
เรื่องเกี่ยวเนื่อง:
-รายงานของฮิวแมนไรต์ว็อท์ช:ความล้มเหลวในการเอาผิดเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของรัฐบาลตอกย้ำปัญหาการปล่อยให้คนผิดลอยนวล
แบรด อดัมส์ แห่งฮิวแมนไรท์วอทช์ล่าวว่า "แกนนำ นปช. ถูกตั้งข้อหาว่าก่ออาชญากรรมร้ายแรงไปแล้ว แต่ถึงแม้รัฐบาลจะให้สัญญาว่าจะเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงด้วย จนถึงขณะนี้ยังไม่มีทหาร หรือตำรวจซักนายที่ถูกดำเนินคดี"..เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของรัฐบาลอยู่ เหนือกฎหมาย "สภาพเช่นนี้เน้นให้เกิดความเข้าใจในหมู่ประชาชนไทยว่า ตาชั่งของกระบวนการยุติธรรมนั้นไม่เป็นกลาง"
Posted by นักข่าวชาวรากหญ้า at 5/27/2011 03:18:00 หลังเที่ยง Share on Facebook
http://thaienews.blogspot.com/2011/05/blog-post_27.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น