แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

เมื่อหัวใจ .. แลกด้วยหัวใจ

เมื่อหัวใจ .. แลกด้วยหัวใจ
โดย คุณ big buffalo 4 eyes
ที่มา เวบไซต์ thaifreenews
27 มกราคม 2552

"ทักษิณ" เป็นเพียงประกายไฟ ที่ส่องสว่างให้ชนชั้นรากหญ้าได้มองเห็นว่า "ความเท่าเทียม" นั้นเป็นอย่างไร

ที่ผ่านมาจะเกือบร้อยปี ชนชั้นรากหญ้าก็ยังล้าหลัง ถูกจัดไว้เป็นกลุ่มคน "ที่ต้องช่วยเหลือ" ดูเป็นภาระของสังคม

ฝนแล้งก็ต้องร้องขอ หนาวไปก็ต้องร้องขอ พืชผลไม่ได้ราคา ก็ต้องทิ้งถิ่นฐานบ้านเกิดไปทำมาหากินต่างถิ่น ทอดทิ้งภาระครอบครัวไว้กับพ่อแก่แม่เฒ่าที่เฝ้าคอยอยู่ "บ้านนอก" ลูกหลานได้เรียนหนังสือบ้าง ไม่ได้เรียนบ้าง การอบรมสั่งสอนบุตรหลาน ขาดตกบกพร่อง เพราะพ่อแม่ต้องทำมาหากินสายตัวแทบขาด

ผลที่มองเห็นและสัมผัสได้ ในช่วงเกือบร้อยปีที่ผ่านมา คือ คนกลุ่มหนึ่ง เป็นผู้มีโอกาสและแย่งชิงฉกฉวยโอกาสเสมอมา เช่น กลุ่มที่เป็นใหญ่เป็นโตในวงราชการ กลุ่มพ่อค้านายทุน ฯลฯ ส่วนคนอีกกลุ่มหนึ่ง ด้อยโอกาสตลอดกาล เพราะเส้นสายไม่มี การส่งเสริมการเรียนการศึกษาน้อย ไม่ว่ากี่ยุคกี่สมัย ให้การช่วยเหลือกันเป็นรายปี (การช่วยเหลือเป็นรายปีแต่ละครั้ง ไม่ใช่ว่าไม่ดี ดีแต่ไม่ยั่งยืน) ไม่ได้สอนให้คนรู้จักคิดเป็น ไม่ให้โอกาสชั้นรากหญ้าเรียนรู้ที่จะช่วยเหลือตนเอง วางแผนชีวิตได้ ไม่กระตุ้นให้เกิดความภาคภูมิใจในความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกันในสังคม

ทักษิณเป็นคนแรก ที่บอกว่า คนจนก็มีสิทธิ์เดินเข้าโรงพยาบาล โดยไม่ต้องกังวลเรื่องไม่มีเงินค่าหมอค่ายา ด้วยการให้ใช้สิทธิบัตรทอง 30 บาท ใครจะว่าอย่างไรก็แล้วแต่ แต่ในปัจจุบัน พัฒนาขึ้น คนรอดตายเพราะบัตรทองก็มากมาย ลูกหลานคนไม่มีเงิน สามารถเดินทางไปเรียนเมืองกรุงจนถึงเมืองนอกได้ด้วยสารพัดโครงการสำหรับเด็กวัยเรียน พ่อแม่ไม่ต้องเดินทางจากบ้าน ไปทำมาหากินที่อื่น เพราะมีโครงการส่งเสริมอาชึพให้ สามารถเข้าถึงทุนทำมาหากินได้ ผ่านสถาบันการเงินของรัฐที่ทุ่มลงไปให้ เช่น กองทุนหมู่บ้าน

นี่คือตัวอย่างของความภาคภูมิใจ ที่เราก็สามารถทำงานทำเงินได้เอง ไม่ต้องรอความช่วยเหลือจากกองคาราวาน ที่จะมาเมื่อถึงวาระต่างๆ เช่น เมื่อแล้ง เมื่อหนาว เมื่อหิว หลุดพ้นจากการเป็นกลุ่มที่เป็นภาระของสังคม

นี่คือตัวอย่างส่วนน้อยที่พอนึกได้ และนี่เป็นเหตุให้ ชนชั้นรากหญ้า รักและเทิดทูนทักษิณ จนเกิดความระส่ำระสายในหมู่ชนชั้น อีกชนชั้นหนึ่ง การทำลายล้างและการไล่ล่าทักษิณจึงเกิดชึ้น

แต่การที่จะลบล้างความรักความศรัทธา ที่เขา (และเรา) มีต่อทักษิณ ดูเหมือนจะสายเกินไป เพราะนี่คือความรู้สึกที่รับรู้ได้ด้วยหัวใจ ของชนชั้นที่ถูกมองอย่างดูหมิ่นมาตลอด เขามีการรับรู้อย่างทั่วถึง ด้วยสารพัดสื่อที่ท่านทักษิณมอบให้ ติดอาวุธทางปัญญาให้ สอนให้คิดเป็น ปากท้องอิ่ม ลูกหลานมีความเจริญ มองเห็นอนาคต ไม่มีใครทิ้งบ้านเกิดอีกต่อไป ครอบครัวก็เป็นครอบครัวที่อบอุ่น

ยากนะ ที่จะทำลายความรู้สึกดีๆ เหล่านี้ ที่พวกเรามีต่อท่านทักษิณให้หมดสิ้นไปจากใจคนรากหญ้าในเร็ววัน นอกจาก ฆ่าเราให้ตาย

แต่ท่านฆ่าเราหนึ่ง เราจะเกิดอีกแสน ทุกอย่างนี้ ท่านเข้าใจหรือไม่ว่า เกิดอะไรขึ้นกับชนชั้นเรา


เราคิดได้แล้วว่า ความเท่าเทียมกันคืออะไร ความภาคภูมิใจของการเป็นมนุษย์คืออะไร ทุกสิ่งที่กล่าวมา เราจะได้มาด้วยความเป็นระบบประชาธิปไตยที่แท้จริงเท่านั้น ระบบอื่นไม่ใช่

คนที่จุดประกายความคิดนี้ให้แก่เรา คือท่านทักษิณ และไม่เกี่ยวกับว่า ท่านทักษิณจะมีเงินหรือไม่มี เพราะเราไม่ได้ใช้เงินของเขา


สิ่งเราได้จากท่านทักษิณคือ ความคิดอย่างที่กล่าวมาแล้วต่างหาก

หัวใจ แลกด้วยหัวใจ


.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน