ทำไมการออกมาขับไล่อำมาตย์ และรัฐบาลครั้งนี้ จึงต้องนองเลือด 1
โดย.. อ่างขาง
วันจันทร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ 2010 เวลา 14:44 น.
http://www.redthai.org/index.php?option=com_content&view=article&id=778
ตอนที่1. เหตุผลที่อำมาตย์ต้องออกมาฆ่าประชาชน
ภาพที่มองกัน ณตอนนี้ คนเสื้อแดงไม่ค่อยมีเอกภาพในการต่อสู้ ต่างคนต่างคิด เมื่อความคิดไม่ตรงกัน ก็แยกย้ายกันออกมาต่อสู้เพียงลำพัง ต่างคนต่างมีวิธีการของตนเอง ที่คิดว่าดีที่สุดแล้วนำเสนอแบบตัวใครตัวมัน แต่ข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร
เริ่มต้นจากแนวคิด
1. เพื่อล้มอำมาตย์ เอาความยุติธรรมคืนกลับมา อันนี้ทุกกลุ่มเห็นด้วย และคิดว่าเดินมาถูกทางแล้ว
2. จากข้อ1. บวกกับความต้องการที่จะเอาคุณทักษิณกลับมาเป็นผู้นำด้วย อันนี้เริ่มมีความคิดแตกออกไป สิ่งที่เห็นได้ชัดคือกลุ่มของ 19กย. ได้ถอนตัวออกไปนานแล้ว
3. เอาไหนเอาด้วยกับทุกฝ่าย รู้แต่เพียงว่า เกลียดการยึดอำนาจไม่เอาเปรม ไม่เอามาร์คแค่นั้นเป็นพอ
จากแนวความคิด มาเป็นยุทธศาสตร์ของการต่อสู้
• กลุ่มที่1: มีสามเกลอเป็นแกนนำ ต้องการสู้แบบอหิงสาอย่างเดียวโดยเอามวลชนจำนวนมากออกมาต่อสู้ เอาสังคมโลกเป็นตัวบีบคั้นรัฐบาล เอาตัวเองเป็นโล่ ยึดถือความปลอดภัยของผู้ชุมนุมเป็นหลัก
• กลุ่มที่2:มีเสธ.แดงเป็นแกนนำ ต้องการสู้แบบวิธีการรบตามทฤษฎีที่ได้เคยเล่าเรียนมา ในความเชื่อที่ว่า “ไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงครั้งไหน ที่จะได้มาเปล่าๆ โดยไม่เสียเลือดเนื้อ” ทุกคนเป็นผู้เสียสละทั้งสิ้นแพ้ก็คือคุกหรือตาย ชนะก็คืออำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
• กลุ่มที่ 3:มีกลุ่ม สส. เพื่อไทยที่ยังไม่ออกมาต่อสู้เป็นแกนนำด้วย ต้องการสู้ในระบอบรัฐสภาฯ เปลี่ยนรัฐธรรมนูญให้ได้ และต้องเปลี่ยนขั้วการเมืองใหม่
จากยุทธศาสตร์เปลี่ยนเป็นยุทธวิธี
• กลุ่มที่1: สะสมมวลชนโดยการให้ความจริงกับประชาชน แสวงหาแนวร่วมเดินสายออกไปเรื่อยๆ เผยแพร่ข่าวสารออกไปทุกทิศทุกทาง เพื่อให้ถึงประชาชนให้ได้มากที่สุด มีทีวี เว็บไซด์ หนังสือพิมพ์ วิทยุชุมชน เป็นเครื่องมือ ใช้เวลาเพาะบ่ม1 ปีหลังจากพ่ายแพ้ไปในสงกรานต์เลือด ซึ่งกลุ่มนี้ทำงานได้ผลเป็นที่น่าพอใจ และคาดว่ามีแนวร่วมอย่างมหาศาลแล้ว
• กลุ่มที่2: หน่วยกำลังรบหลักมืออาชีพเข้ามาเสริม สร้างเครดิตให้กับผู้นำกลุ่มเช่น มีวิวาทะกับผู้นำกองทัพหลักของรัฐบาล แสดงผลงานให้เห็นเป็นประจักษ์ด้วยวาจาศักดิ์สิทธิ์พูดคำไหนคำนั้น กลุ่มนี้แอบอิงกับกลุ่มที่ 1 เพื่อดึงแนวร่วมที่มีความคิดใกล้เคียงกันออกมา มีแนวร่วมจากภาคเหนือแอบเข้ามาสมทบมากมาย สู้ในรูปแบบสะใจ ความอดกลั้นน้อย
• กลุ่มที่3: การเอาข้อมูลของฝ่ายตรงข้ามออกมาเปิดเผย สร้างจุดบอด ปมด้อย ความไม่ชอบมาพากล การช่อราษฎรบังหลวง ของฝ่ายศัตรูออกมาถล่ม และต้องการให้ยุบสภาฯ โดยเร็วหาทางแก้ไขรัฐธรรมนูญไปด้วย
จากยุทธวิธีไปสู่หนทางที่จะปฏิบัติให้เป็นจริงเพื่อเป็นยุทธการในการต่อสู้
ทั้ง3 กลุ่มรอฟังสัญญาณจากคณะผู้วางแผนที่มีคุณทักษิณเป็นตัวชี้ขาด วัน เวลา สถานที่
• กลุ่มที่1: เดินไปตามแผนที่วางไว้เป็นปกติ ที่คาดว่ามีประชาชนร่วมสนับสนุนเป็นล้านคนในกรุงเทพฯ
• กลุ่มที่2:เข้ามาร่วมในกลุ่มที่1ด้วย ในความสงบยังอดทนไม่ใช้ความรุนแรง ส่วนหนึ่งมาเป็นการ์ดคุ้มกันให้กับประชาชน แต่เมื่อเกิดเหตุจะใช้กำลังเข้ามาช่วยในภายหลัง
• กลุ่มที่3:สส. ในพื้นที่จะสนับสนุนด้านเงินเป็นบางส่วน นำคนเข้ามาตามที่ได้กะเกนกันไว้สส.1คนเอาคนมาร่วม อย่างน้อยห้าพันคน
การแสดงออกต่อหน้าสาธารณะชน
• กลุ่มที่1: ของสามเกลอแสดงออกอย่างแน่ชัด ไม่เอากลุ่ม2ที่มีเสธ.แดงเป็นแกนนำ และแยกกันขาด ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ดีมาก เพราะเป็นแนวทางที่เรียกความศรัทธาให้กับประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศได้มาก อีกทั้งเป็นที่ยอมรับในโลกสากล และเมื่อสงครามสิ้นสุดตัวคุณทักษิณก็จะไม่บอบช้ำจนเกินไป และยังสามารถกลับมาเป็นผู้นำของประเทศนี้ได้อีกครั้งอย่างสง่างาม
• กลุ่มที่2:เสธ. แดงเองก็อดทนพอที่จะยอมรับการบอบช้ำตัวเองในครั้งนี้อย่างหน้าชื่นตาบาน ทั้งที่ไม่ใช่วิสัยของ เสธ.แดงที่ควรจะเป็น ขนาดเจ้านายในสายงาน เสธ. แดงยังไม่ยอมได้ถึงขนาดนี้ ถือว่าด้านการแสดงออกในครั้งนี้ ทำงานได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม
• กลุ่มที่3:สส. ในพื้นที่จัดเวทีปราศรัยให้ความรู้กับประชาชน และตรวจสอบจำนวนผู้คนที่จะลงมาที่กรุงเทพฯ
มาดูฝ่ายอำมาตย์กันบ้าง
ภาพที่ออกมาตอนนี้ก็ขัดแย้งกันเองมิใช่น้อย เริ่มจากมหาอำมาตย์ใหญ่เริ่มแสดงออกถึงการไม่พอใจทั้งรัฐบาล และกองทัพ ทั้งเรื่องที่ให้ความสำคัญกับรองผบ.ทบ.มากว่าผบ.ทบ. และการออกมาให้สัมภาษณ์ของพล.อ.สุรยุทธ์ ที่ตำหนิรัฐบาลเรื่องเขายายเที่ยง และเขาสอยดาว รัฐบาลไม่สามารถปกป้องพวกเขาได้ทั้งที่พวกเขาส่งเสริม และแต่งตั้งรัฐบาลชุดนี้มากับมือ
กองทัพเองก็มีปัญหากับรัฐบาลเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง “ไม้จิ้มอึ” มีการตอบโต้กันพอสมควรถึงขนาดเปิดทีวีแถลงข่าวกันเลย แต่เมื่อถึงเวลา ทั้งหมดจะร่วมจับมือกันอีกครั้ง ด้วยความตั้งใจ แต่นัยของเรื่องนี้ ที่จะออกมาในอนาคตจะต่างกัน กล่าวคือฝ่ายที่เป็นทหารอาจจะเปลี่ยนตัวผู้นำรัฐบาลใหม่หรือถ้าใจถึงอาจจะถึงการ ยึดอำนาจเลยก็ได้ ส่วนหัวหน้ารัฐบาลเพียงแต่ขอให้ทหารช่วยหน่อย และขอเป็นรัฐบาลต่อเท่านั้น จะเอาอะไรก็ยอม
คาดการว่า การวางแผน ใช้ความรุนแรง เข่นฆ่า อำพรางศพ ประชาชนในครั้งที่จะมาถึงนี้มีแน่นอน แต่ต้องเปลี่ยนรูปลักษณ์ใหม่ ให้กลายเป็นว่าประชาชนรบกันเอง รัฐบาล และกลไกของรัฐไม่เกี่ยวข้องด้วย สื่อทุกสื่อที่เป็นของรัฐจะนำออกมาใช้ ช่วยกันประโคมข่าวว่าประชาชนฆ่ากันเอง เหตุเพราะในทางการต่างประเทศ รัฐบาลติดลบเป็นอย่างมาก สิ่งที่เห็นได้ชัดเป็นรูปธรรมคือการประชุมอาเชี่ยนที่หัวหิน มีผู้นำหลายประเทศแสดงออกเรื่องนี้อย่างเห็นได้ชัด และองค์กรสิทธิ์มนุษย์ชนระหว่างประเทศ ออกมาประณามรัฐบาลเรื่องนี้ในเวลาต่อมา
คำถามที่ตามมา รู้ได้อย่างไร พวกอำมาตย์ และทาสผู้ซื่อสัตย์จะใช้กำลัง และอาวุธออกมาปราบปรามประชาชน
คำตอบมีให้เห็นเมื่อครั้งเมย.เลือดที่ผ่านมาแล้ว ณ.ตอนนั้นประชาชนยังไม่ได้เอาความเลว ความคดโกงของพล.อ.เปรมออกมาแฉเสียด้วยซ้ำ เพียงแต่ประณามท่านในการทำรัฐประหารเท่านั้น ท่านเองยังทนไม่ได้ แล้วในขณะนี้เกิดอะไรขึ้น คนเสื้อแดงออกมาตราหน้าว่าอยู่เบื้องหลังการเอาสมชาติที่เป็นป่าสงวนมาเป็นสมบัติส่วนตัว รับเงินมีรายได้แต่ไม่ยอมเสียภาษี ตั้งมูลนิธิบังหน้าแล้วหาเงินเข้าตัวเอง ทุกอย่างที่ยังไม่รู้ กำลังถูกผู้หวังดีส่งข้อมูลมาให้อีกเรื่อยๆ จะออกมาเปิดเผยไม่รู้จบ ถ้าพล.อ.เปรมไม่จัดการเรื่องนี้ให้สิ้นซากไป ตัวท่านเองอาจจะไม่เหลืออะไรอีกเลย สูญเสียทุกอย่างในชีวิตไปจนหมดสิ้น เกียรติยศ เชื่อเสียง บารมี เงิน รายได้ หรือแม้กระทั้งแผ่นดินก็อาจจะไม่มีให้เป็นที่ฝังศพ ท่านไม่ทำไม่ได้จริงๆ ถ้าทำอาจจะมีทางรอด
นักการเมืองเลวๆ ที่เอาแต่กัดกินประเทศนี้อยู่ ขณะนี้เป็นนาทีทอง ที่จะกอบโกย หลังจากนี้ต่อไปคิดว่าไม่มีโอกาสทองแบบนี้อีกแล้ว พวกเขาไม่ต้องลงมือทำเองเพียงแต่อาศัยกลไกของรัฐที่พล.อ.เปรมสั่งการได้ให้ทำแค่นั้น แล้วพวกเขาจะไม่ทำเชียวหรือ
ทหารใหญ่ที่หวังความก้าวหน้าในชีวิต ถ้าวันนี้ประชาชนประท้วงแล้วชนะ พวกเขาเองก็จบสิ้นในชีวิตของการรับราชการ เหล่านี้เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนเองทั้งสิ้น ต่อให้เมียน้อยหลังบ้านห้ามปรามไว้ จะเอาช้างมาฉุด พวกเขาไม่ฟังแน่ งานนี้อย่างไรก็ต้องออกมาสังหารประชาชนแน่นอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น