แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันอังคารที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2554

ทนายประเวศ ฟันธง มาตรา 112 ถูกใช้เป็นเครื่องมือของรัฐทำลายฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง


โดย ประเวศ ประภานุกูล
6 มีนาคม 2554

ประเวศ ประภานุกูล คือทนายความอาวุโสที่ดูแลคดี "หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ" โดยเฉพาะคดีของดารณี ชาญเชิงศิลปกุล ถือได้ว่าเป็นทนายที่ศึกษาและเข้าใจเกี่ยวกับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 อย่างลึกซึ้งมากที่สุดคนหนึ่งของเมืองไทย


เป็น ที่ชัดเจนแล้วว่า ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ได้ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ทำลายล้างผู้มีความคิดเห็นต่างจากผู้มีอำนาจรัฐ

ที่สำคัญได้ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการปิดปากประชาชนผู้มีความเห็นต่างจากผู้กุมอำนาจรัฐไม่ให้แสดงความคิดเห็น

การ ใช้ถ้อยคำที่กำกวม คลุมเคลือ อย่างเช่น "ดูหมิ่น" ทำให้ง่ายต่อการขยายความกฎหมาย เป็นการขยายความกฎหมายทั้งๆที่หลักกฎหมายอาญาต้อง "ตีความโดยเคร่งครัด"

หลัก กฎหมายอาญาได้ถูกทำลายลงอย่างสิ้นเชิงจากการขยายความกฎหมายมาตรานี้ ตัวอย่างที่เห็นชัดของการขยายความ คือ การไม่ลุกขึ้นยืนขณะมีการเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมี เป็นความผิดตามมาตรานี้เป็นการยืนยันความผิดโดยคำพิพากษาศาลฎีกา ศาลซึ่งได้ชื่อว่า ทำงานในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์

การ ขยายความให้การ ไม่ลุกขึ้นยืนขณะมีการเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมี เป็นความผิดตามมาตรานี้ เท่ากับการขยายความมาตรานี้ให้มีความหมายว่า การไม่แสดงความเคารพ เท่ากับ ดูหมิ่น จะตีความหมายเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากว่า เป็นหน้าที่ของประชาชนทุกคนที่ต้องแสดงความเคารพให้กับ "เพลงสรรเสริญพระบารมี" โดยการฝ่าฝืนไม่แสดงความเคารพมีโทษสูงถึงจำคุก 15 ปี


สิ่งที่ตามมาและน่าสนใจกว่าในความเห็นของผม คือ ทำไมถึงต้องเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมี ในโรงภาพยนต์ ทำไมต้องเปิดเพลงนี้พร้อมกับฉายภาพพระบรมฉายาลักษณ์ ก่อนทำการฉายภาพยนต์

โรง ภาพยนต์ คือ สถานที่ที่คนเข้าไปพักผ่อน หาความสำราญ หาความบันเทิง การเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมี แล้วบังคับทุกคนที่เข้าไปชมภาพยนต์ให้ต้องลุกขึ้นยืน ไม่ใช่การละเมิดสิทธิ์ของผู้ที่ต้องการชมภาพยนต์??

เคยมีการถามความความเห็นประชาชนก่อนมั้ยว่า เขาต้องการให้เปิดเพลงก่อนดูภาพยนต์หรือไม่

นี่คือสิ่งที่สมควรมีและเกิดขึ้นในประเทศที่ประกาศตนว่า มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย??


*************

รายละเอียดเพิ่มเติม
กรณีดารณี ชาญเชิงศิลปกุล LM Watch

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

นิติธรรมร่ำไห้ แม้ศาลอุทธรณ์ชี้ขาดไม่มีโทษติดตัว แต่ไม่ให้ประกัน ไม่ปรานี คดีประหลาดดา ตอร์ปิโด
ทนายดา ตอร์ปิโด:คำพิพากษาที่สร้างความประหลาดใจ และคาดไม่ถึง
กาหลิบ:เหตุประหลาดในคดีดา ตอร์ปิโด

Posted by TTT at 3/06/2011 06:03:00 ก่อนเที่ยง Share on Facebook

http://thaienews.blogspot.com/2011/03/112.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน