แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ฮา!พธม.ฉุนตร.เร่งรัดคดียึดสนามบินหลังดองเค็ม2ปี




โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
12 พฤศจิกายน 2553

25พ.ย.ครบรอบ2ปีดองคดีพันธมิตรยึดสนามบิน

พนักงานสอบสวนส่งสำนวนคดียึดสนามบินถึงมือ "วิเชียร" คาดฟ้องพันธมิตรฯ 114 รายในทิศทางเดียวกัน เผยสัปดาห์นี้ได้ข้อสรุป

พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวว่า พนักงานสอบสวนส่งสำนวนสรุปคดีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยยึดสนามบิน สุวรรณภูมิและดอนเมือง ได้รับสำนวนสรุปดังกล่าวแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาความเห็นในระดับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยคาดว่าจะสรุปความเห็นไปในทิศทางเดียวกับพนักงานสอบสวนคือ ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 114 ราย แต่ต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อน ซึ่งน่าจะเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้

โทษก่อการร้ายหนักถึงประหาร

ทั้งนี้ตำรวจได้ดำเนินคดีผู้ก่อการร้ายกับพันธมิตรมาแต่ต้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 135/1 ที่กำหนดไว้ว่า

ผู้ ใดกระทำการอันเป็นความผิดอาญาเกี่ยวกับการก่อการร้าย ดังต่อไปนี้ (2) กระทำการใดอันก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ ระบบการขนส่งสาธารณะ ระบบโทรคมนาคม หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะ

ถ้าการ กระทำนั้นได้กระทำโดยมีความมุ่งหมายเพื่อขู่เข็ญหรือบังคับรัฐบาลไทย รัฐบาลต่างประเทศ หรือองค์การระหว่างประเทศ ให้กระทำหรือไม่กระทำการใดอันจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง หรือเพื่อสร้างความปั่นป่วนเพื่อให้เกิดความหวาดกลัวในหมู่ประชาชน ผู้นั้นกระทำความผิดฐานก่อการร้าย ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สามปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงหนึ่งล้านบาท



ทั้ง นี้พันธมิตรสู้มาตลอดว่าพวกตนเป็นผู้ก่อการดี และได้ยกข้อยกเว้นของกฎหมายนี้ที่ระบุไว้ว่า "การกระทำในการเดินขบวน ชุมนุม ประท้วง โต้แย้ง หรือเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องให้รัฐช่วยเหลือ หรือให้ได้รับความเป็นธรรมอันเป็นการใช้เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ไม่เป็นการกระทำความผิดฐานก่อการร้าย"มาต่อสู้โดยตลอด

ดองคดีมาราธอน2ปี ทนายโจรยังมีหน้าว่าโดนเร่งรัดคดี

นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายความพันธมิตรฯ กล่าวถึงกรณีพนักงานสอบสวนคดีบุกยึดสนามบินส่งสำนวนคดีพร้อมมีความเห็นสั่ง ฟ้องไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้พิจาณาว่า เป็นกระบวนการของพนักงานสอบสวน ที่จะส่งสำนวนคดีไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนยังไม่ได้สอบถ้อยคำพยานของฝ่ายผู้ต้องหา ถือเป็นการเร่งรัดดำเนินคดีโดยไม่ดำเนินการตามสิทธิของผู้ต้องหา

นายนิติธรกล่าวต่อว่า ตนได้ไปขอตรวจสอบพยานหลักฐาน ซึ่งเป็นสิทธิของทนายความฝ่ายผู้ต้องหาที่สามารถตรวจสอบได้ว่าพนักงานสอบสวน ใช้พยานหลักฐานอะไรให้การกล่าวหาผู้ต้องหา แต่จากการตรวจสอบพบว่า พนักงานสอบสวนไม่มีพยานหลักฐานอะไรเลยที่จะชี้ให้เห็นว่าผู้ต้องหากระทำความ ผิด รวมทั้งได้มีการร้องขอให้พนักงานสอบสวนส่งวีซีดีที่อ้างว่ามีการบันทึกไว้ นั้น พนักงานสอบสวนก็ไม่อนุญาตให้ตรวจสอบและส่งมอบหลักฐานให้

"ดังนั้นเมื่อพนักงานสอบสวนส่งสำนวนคดีให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณา แล้ว ผมก็จะทำหนังสือส่งถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ทบทวนความเห็นของพนักงานสอบสวน รวมทั้งจะชี้ประเด็นให้เห็นว่าพนักงานสอบสวนในคดีไม่ได้ให้ความเป็นธรรมกับ ผู้ต้องหาภายในสัปดาห์นี้ต่อไป" นายนิติธรกล่าว

ย้อนรอย2ปีดองคดียึดสนามบิน

คดี ยึดสนามบิน ซึ่งมีผู้ต้องหามากถึง 114 ราย โดยพล.ต.ท.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้ช่วยผบ.ตร. หัวหน้าพนักงานสอบสวน สรุปสำนวนส่งให้พิจารณาแล้ว พร้อมแนบความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด

มีรายงานว่าภายในกลางเดือนนี้พล.ต.อ. วิเชียรน่าจะพิจารณาสำนวนและมีคำสั่งออกมา

หากดูจากพยานหลักฐานและพฤติการณ์ของกลุ่มพันธมิตรฯ แล้ว ไม่แคล้วว่ากลุ่มพันธมิตรฯจะโดนส่งฟ้องอีกคดี

สำหรับคดียึดสนามบินเป็นผลต่อเนื่องจากการปิดล้อมรัฐสภา ซึ่งไม่สามารถขับไล่นายสมชาย ให้พ้นจากเก้าอี้นายกฯ ได้

แถมนายสมชายยังไม่สนใจปล่อยให้ยึดทำเนียบไป ส่วนตัวเองและ ครม.ไปใช้พื้นที่สนามบินดอนเมืองเป็นทำเนียบชั่วคราว ทำงานไปตามปกติ

กระทั่ง ในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2551 กลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งชุมนุมอยู่ภายในทำเนียบรัฐบาล ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 26/2551 สั่งปิดสนามบินสุวรรณภูมิ ข้อความตอนหนึ่งระบุว่า

"พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจึงมีความจำเป็นที่จะต้องยกระดับการชุมนุม และเพิ่มมาตรการอารยะขัดขืนโดยการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อ ยื่นคำขาดผ่านพี่น้องประชาชนทั่วประเทศและทั่วโลกไปยังนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และคณะรัฐบาลให้ลาออกจากตำแหน่งโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไข"



สาเหตุ หนึ่งของการเคลื่อนไหวดังกล่าวมาจากนายสมชายเดินทางไปประชุมที่ต่างประเทศ และมีกำหนดกลับเมืองไทยในวันที่ 25 พฤศจิ กายน ประกอบกับก่อนหน้านั้นพันธมิตรฯ ยึดทำเนียบอยู่นานหลายเดือน แต่ก็ยังไม่สามารถขับไล่รัฐบาลนายสมชาย

จึงยกระดับการชุมนุมด้วยการ ยึดสนามบินดอนเมือง ซึ่งเป็นที่ทำงานชั่วคราวของครม. และสนามบินสุวรรณภูมิเพื่อกดดันรัฐบาลหนักขึ้นกลุ่มพันธมิตรฯ ยึดสนามบินได้อย่างเบ็ดเสร็จ

ผอ.ท่าอากาศยานฯ ต้องประกาศงดการให้บริการ ผลก็คือทำให้มีผู้โดยสารและสินค้าที่ต้องส่งออกตกค้างจำนวนมาก

ส่วน กลุ่มพันธมิตรฯ หลังยึดพื้นที่ได้ก็ตั้งเวทีปราศรัย เชื่อมสัญญาณถ่ายทอดการชุมนุมระหว่างสนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ และทำเนียบรัฐบาล

การปิดสนามบินยืดเยื้อถึงวันที่ 2 ธันวาคม 2551 ก็ยุติ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคพลังประชาชน พรรคชาติไทย และพรรคมัชฌิมาธิปไตย

กลุ่มพันธมิตรฯ รีบประกาศชัยชนะ และยุติการชุมนุม พร้อมทำพิธีส่งมอบคืนพื้นที่ให้กับท่าอากาศยานฯ ในวันที่ 3 ธันวาคม 2551

Posted by นักข่าวชาวรากหญ้า at 11/12/2010 08:39:00 ก่อนเที่ยง Share on Facebook

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน