แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันจันทร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2553

4พยานให้การมัด ยิงสื่อยุ่น ตร.สอบชัดนาทีฆ่า

redronin

4พยานให้การมัด ยิงสื่อยุ่น ตร.สอบชัดนาทีฆ่า
ลูกปืนสาดมาจากแนวทหาร ส่งให้ดีเอสไอทำต่อ-คดีเงียบ

คลี่คดียิงนักข่าวญี่ปุ่น ที่ตายในวันที่ 10 เม.ย. เผยตร.สอบไว้หมดแล้ว
4 พยานในเหตุการณ์สลด แต่ละคนระบุชัดปืนมาจากแนวทหาร และไม่เห็นมีชายชุดดำปรากฏแต่อย่างใด พยานอีกรายระบุปิดไฟถนนแล้วระดมยิงผู้ชุมนุมที่ร่วมกันออกไปผลักดันทหาร เผยพนักงานสอบสวนส่งให้ดีเอสไอแต่เรื่องเงียบ

เผยพยาน 10 เม.ย.ยันทหารยิง
เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในขณะที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศและญาติๆได้รวมตัว กันออกมาเ
รียกร้องให้รัฐบาลทำความจริงให้ปรากฏ กรณีผู้สื่อข่าวต่างประเทศ 2 คน คือนายฮิโรยูกิ มิราโมโตะ ผู้สื่อข่าวชาวญี่ปุ่นของสำนักข่าวรอยเตอร์ ถูกทหารยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่บริเวณสี่แยกคอกวัว และนายฟาบิโอ โพเลญญี ผู้สื่อข่าวชาวอิตาลี ซึ่งถูกทหารยิงตายที่ราชประสงค์ เมื่อวันที่ 19 พ.ค.นั้น

รายงานข่าวเปิดเผยว่าผลการสอบสวนพยานและผู้เห็นเหตุการณ์ในช่วงค่ำวันที่ 10 เม.ย.ที่ทหารปะทะกับผู้ชุมนุม จำนวน 4 ปาก ซึ่งพนักงานสอบสวนสน.ชนะสงครามท้องที่ที่เกิดเหตุได้สอบปากคำนั้น
พบ ว่าพยานปากที่ 1 ซึ่งมีชื่อและนามสกุลชัดเจน อายุ 54 ปี ให้การว่าในวันที่ 10 เม.ย.เวลา 19.00 น. ขณะร่วมชุมนุมที่หน้าร.ร.สตรีวิทยา ได้รับคำสั่งจากแกนนำบนเวทีให้ไปขัดขวางทหารที่จะเข้ามาสลายการชุมนุม จึงร่วมกับผู้ชุมนุมเข้าไปผลักดันทหารที่อยู่บริเวณสี่แยกคอกวัว ขณะที่เดินเข้าไปนั้น มีผู้สื่อข่าวชาวญี่ปุ่นที่เสียชีวิตในเวลาต่อมา เดินแซงหน้าไปที่บริเวณด้านหน้าของกลุ่มผู้ชุมนุมเสื้อแดงจนประชิดกับแนว ทหาร จากนั้นก็ได้เหตุ การณ์ระเบิดในกลุ่มทหาร 1 ครั้ง หลัง จากเกิดเหตุระเบิดทหารก็ยิงปืนใส่กลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนหลายนัด เป็นเหตุให้ผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บ และเห็นผู้สื่อข่าวชาวญี่ปุ่นคนดังกล่าวที่ด้านหน้าประมาณ 1 เมตรถูกกระสุนปืนที่ยิงมาจากฝ่ายทหาร แต่ไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นคนลงมือ

ไฟส่องถนนถูกปิด-ทหารระดมยิง
พยานปากที่ 2 อายุ 55 ปี ซึ่งมีชื่อ-นามสกุลระบุชัดเจน ให้การว่าระหว่างไปร่วมผลักดันทหารที่บริเวณหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ขณะนั้นผู้ชุมนุมกำลังผลักดันกับกำลังทหาร แล้วก็ได้ยินเสียงปืน มาจากบริเวณสี่แยกคอกวัว ซึ่งผู้ชุมนุมก็ผลักดันทหารจนล่าถอยไป จากนั้นก็ปรากฏว่าไฟส่องถูกดับลงแล้วก็มีเสียงปืนหลายนัดยิงมาจากฝ่ายทหาร เข้ามายังผ
ู้ชุมนุม ซึ่งพยานรายเดียวกันนี้ก็ถูกยิงที่หน้าอกด้านขวา บริเวณใต้ราวนมจำนวน 1 นัด ก่อนจะมีผู้มาช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาล

พยานปากนี้ยังระบุว่า ไม่สามารถระบุคนยิงได้ เนื่องจากไฟมืด แต่ยืนยันว่ามาจากฝ่ายทหารบนอาคารโรงเรียนสตรีวิทยา และหลายจุดในบริเวณเดียวกัน

พนักงานสอบสวนยังสอบปากคำพยานรายนี้ด้วยว่าเห็นชายชุดดำหรือไม่ ซึ่งพยานระบุว่าไม่พบเห็นชายชุดดำแต่อย่างใด

ยืนยันปืนยิงมาจากแนวทหาร

พยานปากที่ 3 เป็นชายอายุ 40 ปี มีชื่อ-นามสกุล และเป็นข้าราชการทหารสังกัดชัดเจน ที่เข้าไปร่วมชุมนุม ซึ่งพยานยืนยันว่ามาด้วยตัวเอง ไม่มีใครชักชวนมา ให้การว่าได้เดินทางไปร่วมสนับสนุนกับผู้ชุมนุมที่บริเวณสี่แยกคอกวัว โดยยืนอยู่แนวหน้าปะทะผลักดดันกับกำลังทหารที่บริเวณถนนตะนาว ดันกันอยู่ประมาณ 5 นาที จนกระทั่งแนวทหารได้เริ่มถอยหลัง จากนั้นก็มีเสียงปืนดังมาจากด้านหลังของแนวทหารยิงเข้ามาใส่ผู้ชุมนุม ซึ่งพยานคนเดียวกันนี้ได้รับบาดเจ็บถูกยิงที่บริเวณด้านหลังมือขวาแตกได้รับ บาดเจ็บ จากนั้นการ์ดของเสื้อแดงก็นำตัวส่งโรงพยาบาล

พยานยังยืนยันว่าระหว่างเกิดเหตุมีเพียงแสงไฟจากบ้านเรือนชาวบ้านเท่านั้น หลอดไฟส่องสว่างทางถูกปิด และยืนยันว่าอาวุธปืนที่ยังใส่ผู้ชุมนุมมาจากฝ่ายทหาร


จนท.กู้ภัย-รับนักข่าวยุ่นส่งร.พ.

พยานปากที่ 4 อายุ 42 ปี มีชื่อและนามสกุลชัดเจน เป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัย ให้การว่าร่วมกับเพื่อนจำนวน 3 คน เข้ามายังบริเวณแยกคอกวัว เนื่องจากได้รับแจ้งว่ามีผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ผู้ชุมนุมปะทะกับทหาร เมื่อ มาถึงก็พบว่ามีผู้ชุมนุมพยุงชายไทยจำนวน 3 คน ซึ่งได้รับบาดเจ็บมาส่งที่รถ จึงนำขึ้นรถและปฐมพยาบาลเบื้องต้น ระหว่างจะขับรถออกไปนั้น ก็มีผู้ชุมนุมอีกกลุ่มเข้ามาขวางและแจ้งว่ายังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 คน จึงหยุดรถ จากนั้นก็เห็นผู้ชุมนุมหิ้วร่างของชายคนหนึ่งเข้ามา ทราบภายหลังว่าเป็นผู้สื่อข่าวชาวญี่ปุ่น ซึ่งขณะที่ถูกหิ้วมาไม่รู้สึกตัวแล้ว จึงรีบรับตัวมานำส่งโรงพยาบาลกลาง ระหว่างทางได้พยายามปฐมพยาบาล ซึ่งผู้บาดเจ็บไม่รู้สึกตัว เมื่อจับชีพจรดูปรากฏว่าไม่เต้นแล้ว จึงพยายบามปั๊มหัวใจแต่ก็ไม่สำเร็จ เมื่อมาถึงโรงพยาบาลจึงได้นำร่างของผู้ตายส่งมอบให้เจ้าหน้าที่แพทย์และ พยาบาล

พยานคนเดียวกันนี้ ยังให้การระบุว่าทราบว่าเป็นผู้สื่อข่าวจากบัตรที่คล้องคอ สภาพบาดแผลถูกยิงเป็นรูเล็กประมาณนิ้วก้อย จำนวน 1 แผล ที่บริเวณเหนือราวนมซ้าย ด้านหลังด้านขวาเป็นรูประมาณนิ้วหัวแม่มือ และมีโลหิตไหลออกมาจำนวนมาก คาดว่าน่าจะถูกอาวุธปืน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเอกสารการสอบสวนพยานทั้ง 4 ปาก พนักงานสอบสวนสน.ชนะสงครามได้ส่งมอบให้ดีเอสไอหมดแล้ว แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าแม้ญาติพี่น้องผู้ตายจะเรียกร้องตามจี้คดี แต่ก็ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนจากรัฐบาล

http://www.khaosod.co.th/view_news.php?n...B3TWc9PQ==

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน