บทความ "มี 2 สัญชาติเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้ "
โดย: จาตุรนต์ ฉายแสง
ใน ระยะหลังนี้ ดูเหมือนคุณอภิสิทธิ์จะอยู่ในสภาพโรคซ้ำกรรมซัด ต้องพบกับปัญหาใหญ่ๆที่ตนเองจัดการอะไรไม่ได้และไม่สามารถใช้ความสามารถใน การพูดเอาตัวรอดไปได้ง่ายๆเหมือนระยะก่อนๆ
คุณ อภิสิทธิ์ถูกพันธมิตรโจมตีอย่างสาดเสียเทเสียและในหลายเรื่องก็เป็นเรื่อง ที่แก้ตัวไม่ได้เสียด้วยขณะเดียวกันก็เดินแนวทางที่ผิดพลาดในกรณีความขัด แย้งกับกัมพูชาที่มีแต่จะนำไปสู่ความล้มเหลวเสียหายมากยิ่งขึ้นทุกที ส่วนปัญหาน้ำมันปาล์มที่ทำให้คนเดือดร้อนกันไปทั่วประเทศและใครที่ติดตาม เรื่องพอสมควรก็คงจะรู้ว่าผลประโยชน์มหาศาลตกอยู่กับคนของพรรคประชาธิปัตย์ เสียเป็นส่วนใหญ่นั้น คุณอภิสิทธิ์ก็กลับทำอะไรไม่ได้หรืออาจจะต้องใช้คำพูดว่าไม่คิดทำอะไรเลย
เรื่อง เหล่านี้รวมทั้งกรณีทุจริตหรือความล้มเหลวในการบริหารของคุณอภิสิทธิ์อีก จำนวนมาก ประชาชนทั่วประเทศคงจะรอฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมีขึ้นในเร็วๆนี้ อย่างใจจดใจจ่อมากกว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลปัจจุบันในครั้งก่อนๆ และน่าจะพอคาดการณ์ได้ว่าถ้าฝ่ายค้านเตรียมการได้ดีพอสมควรคุณอภิสิทธิ์และ รัฐบาลนี้คงอยู่ในสภาพย่ำแย่เต็มทีแน่ๆ
มี เรื่องหนึ่งที่ผมคิดว่าเป็นเรื่องใหญ่ของคุณอภิสิทธิ์และว่าไปแล้วก็ต้องถือ ว่าเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศไทยเราเสียมากกว่าที่ควรจะนำมาพูดกันให้เกิดความ ชัดเจนไปเสียโดยไม่ต้องรอจนถึงวันที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้ใจก็คือเรื่องที่ คุณอภิสิทธิ์มี 2 สัญชาติ
เรื่อง นี้เริ่มมาจากมีคนนำเรื่องกรณีการสังหารประชาชนเมื่อเดือนเมษา-พฤษภา ปีที่แล้วไปฟ้องศาลคดีอาญาระหว่างประเทศซึ่งหลายคนเชื่อว่าศาลคงไม่รับฟ้อง เพราะรัฐบาลไทยไม่ได้ลงสัตยาบันรับรองอำนาจของศาล แต่ต่อมาก็มีการอธิบายว่าสามารถฟ้องคุณอภิสิทธิ์ได้เนื่องจากคุณอภิสิทธิ์ ถือสัญชาติอังกฤษด้วย
เมื่อ มีการไปถามคุณอภิสิทธิ์ในตอนแรกๆ คุณอภิสิทธิ์ตอบบ่ายเบี่ยงว่าเลือกที่เกิดไม่ได้และในระหว่างที่อยู่ใน ประเทศอังกฤษไม่เคยใช้สิทธิของพลเมืองอังกฤษเช่นเวลาเรียนหนังสือก็จ่ายค่า เล่าเรียนอย่างชาวต่างประเทศ แต่ไม่บอกว่ายังมีสัญชาติอังกฤษหรือไม่
ต่อ มามีการยกประเด็นขึ้นว่าเนื่องจากคุณอภิสิทธิ์เกิดในประเทศอังกฤษ คุณอภิสิทธ์จึงได้สัญชาติโดยอัตโนมัติตามกฎหมายอังกฤษและตราบใดที่คุณอภิ สิทธ์ยังไม่สละสัญชาติอังกฤษ คุณอภิสิทธิ์ก็ยังคงมีสัญชาติอังกฤษด้วยซึ่งก็คือมี 2 สัญชาตินั่นเอง
คุณ อภิสิทธิ์บ่ายเบี่ยงไม่ยอมตอบเรื่องนี้ให้กระจ่างอยู่นานจนกระทั่งถูกจี้ถาม ในสภาฯซึ่งตอนแรกๆก็ยังใช้สำนวนโวหารบ่ายเบี่ยงประเด็นตามที่ถนัดเช่น"อยาก ถามท่านว่าเป็นคนแจ้งเกิดตัวเองหรือไม่" แต่ในที่สุดก็ยอมรับว่าไม่เคยทำเรื่องสละสัญชาติอังกฤษด้วยเหตุเพราะตนเข้า ใจว่าถ้าเป็นกฎหมายที่ขัดกันก็ให้ถือกฎหมายไทยเป็นหลักและตนได้แสดงเจตนามา ตลอดว่าใช้สัญชาติไทย
คุณ อภิสิทธิ์บอกว่าจะให้สละสัญชาติอังกฤษ สละได้ แต่ถ้าสละตอนนี้ก็อาจถูกหาว่ากลัวจะไปขึ้นศาลโลก คุณอภิสิทธิ์ยังอธิบายต่อไปว่าไม่เคยคิดจะไปหาผลประโยชน์ในประเทศอื่น ที่ทำอยู่คิดถึงแต่ผลประโยชน์ของประเทศไทย และยังบอกด้วยว่าจะให้สละให้เหลือสัญชาติไทยสัญชาติเดียวก็ได้ แต่ถามว่าให้ปฏิบัติอย่างเสมอกันทุกคนเอาไหม
ฟัง คุณอภิสิทธิ์อธิบายมาถึงตรงนี้ ผมคิดว่าคุณอภิสิทธิ์เสียศูนย์และผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งแล้ว ผิดพลาดอย่างไม่น่าเชื่อ จะเป็นเพราะกำลังมีเรื่องหนักๆประเดประดังเข้ามาหรือว่าถนัดแต่การใช้โวหาร แบบฉาบฉวยเป็นคราวๆไป พอมาเจอเรื่องยากจริงๆเข้าก็เลยหาคำอธิบายที่เป็นเหตุเป็นผลไม่ได้หรืออย่าง ไรก็ไม่ทราบ
ผม ไม่ได้ต้องการวิเคราะห์เรื่องคุณอภิสิทธิ์จะถูกดำเนินคดีในศาลคดีอาญา ระหว่างประเทศหรือไม่และก็ไม่ได้สนใจว่าคุณอภิสิทธิ์ควรสละสัญชาติอังกฤษ หรือไม่ แต่ผมกำลังสนใจกลับเป็นประเด็นว่าเมื่อคุณอภิสิทธิ์เองก็ยอมรับแล้วว่าตนมี 2 สัญชาติและยังยอมรับด้วยว่าจะสละสัญชาติอังกฤษก็ได้แต่ต้องมีเงื่อนไขอย่าง นั้นอย่างนี้อย่างที่คุณอภิสิทธิ์ชี้แจงไปนั้น คุณอภิสิทธิ์ยังควรเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยอยู่ต่อไปอีกหรือไม่ หรือถ้าจะพูดให้ถูกต้องยิ่งกว่านั้นก็คือคุณอภิสิทธิ์ควรเป็นนายกรัฐมนตรีมา ตั้งแต่ต้นหรือไม่
เข้า ใจว่ามีประชาชนไทยจำนวนหนึ่งที่มี 2 สัญชาติอยู่เหมือนกันแต่ก็ดูเหมือนจะไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่โตอะไร การจะไปไล่หาทางบังคับให้คนเหล่านั้นสละสัญชาติให้เหลือสัญชาติไทยอย่าง เดียวบางทีอาจจะเป็นปัญหากับบ้านเมืองและทำให้ประชาชนเหล่านั้นเดือดร้อนกัน เสียเปล่าๆ
แต่ คุณอภิสิทธิ์ไม่ใช่ประชาชนทั่วไปแต่เป็นนายกรัฐมนตรี จะอ้างว่าทีคนอื่นถือสัญชาติ 2 สัญชาติได้ ทำไมจะมาให้ตนสละสัญชาติอยู่คนเดียวคงจะอ้างไม่ได้ ส่วนที่บอกว่าไม่ได้เคยคิดหรือทำอะไรเพื่อผลประโยชน์ของประเทศอื่นนั้นก็ไม่ ใช่ประเด็นและไม่มีใครกล่าวหาคุณอภิสิทธิ์ในเรื่องนี้ อย่างน้อยก็ในตอนนี้
ประเด็น อยู่ที่ว่าคนจะเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยต้องมีความรับผิดเท่ากับคนไทย ทั่วไปไม่ใช่มีอภิสิทธิ์หรือมีภูมิคุ้มกันมากกว่าคนอื่นๆ มิฉะนั้นเวลาที่ทำหน้าที่นายกฯก็อาจจะคิดหรือทำอะไรให้เกิดความเสียหายแก่ ประชานหรือแก่บ้านเมืองได้เนื่องจากในใจอาจคิดว่าตนเองมีภูมิต้านทานมากกว่า คนไทยทั่วไปก็ได้
การ ที่คุณอภิสิทธิ์บอกว่าจะสละสัญชาติอังกฤษก็ได้แต่ไม่สละนั้นมีความหมายว่า ไม่ว่าที่ผ่านมาคุณอภิสิทธิ์จะเคยใช้สิทธิของการมีสัญชาติอังกฤษหรือไม่ก็ ตาม แต่วันหนึ่งข้างหน้าคุณอภิสิทธิ์อาจจะใช้สิทธิของการมีสัญชาติอังกฤษก็ได้ เช่นถ้าในอนาคตจะมีการดำเนินคดีกับคุณอภิสิทธิ์ในข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับ รัฐมนตรีในรัฐบาลของตนทุจิตประพฤติมิชอบ หรือสั่งการให้สังหารประชาชนจำนวนมากเป็นต้น แล้วคุณอภิสิทธิ์เกิดเดินทางไปอยู่เสียที่ประเทศอังกฤษแล้วก็ขอใช้สิทธิใน ฐานะที่มีสัญชาติอังกฤษคุณอภิสิทธิ์ก็ย่อมจะได้รับการคุ้มครองอย่างพลเมือง อังกฤษขึ้นมาทันที เมื่อถึงตอนนั้นข้อตกลงว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดนจะใช้ได้กับคุณอภิสิทธิ์ ผู้ถือสัญชาติอังกฤษหรือไม่ ถ้ารัฐบาลไทยหรือประชาชนไทยจะไปร้องต่อศาลอังกฤษเพื่อให้ส่งตัวคุณอภิสิทธิ์ มาขึ้นศาลไทยจะทำได้หรือไม่และต้องรออีกเป็นสิบๆปีหรือไม่
กลาย เป็นว่าคุณอภิสิทธิ์จะต้องไปขึ้นศาลคดีอาญาระหว่างประเทศหรือไม่ก็น่าสนใจ แต่ตอนนี้กลับมีประเด็นที่น่าเป็นห่วงไม่น้อยเหมือนกันก็คือถึงเวลาที่มีใคร จะดำเนินคดีคุณอภิสิทธิ์ในประเทศไทย คุณอภิสิทธิ์อาจจะไม่ต้องขึ้นศาลไทยก็ได้
คุณ อภิสิทธิ์อาจจะได้รับการคุ้มครองมากกว่าที่ยกมานี้อีกก็ได้ รายละเอียดคงต้องให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยกันศึกษาดู แต่ก็คงไม่ใช่ประเด็นสำคัญในเฉพาะหน้านี้
ประเด็น สำคัญก็คือเชื่อได้แน่ว่าตลอดเวลาที่คุณอภิสิทธิ์เป็นนายกฯมาจนถึงปัจจุบัน รวมถึงในอนาคตข้างหน้าไม่ว่าจะยังเป็นนายกฯอยู่หรือไม่ก็ตาม คุณอภิสิทธิ์มีภูมิคุ้มกันต่อกฎหมายไทยมากว่าคนอื่นๆ
ผมอธิบายมาถึงตรงนี้ อาจมีบางท่านแย้งว่าถึงแม้จะเป็นเหตุเป็นผลแต่ก็คงไม่เกิดขึ้นในทางปฏิบัติได้ง่ายๆหรอก
กรณี ทำนองนี้ไม่ใช่ไม่เคยเกิดมาก่อน เมื่อไม่นานมานี้มีกรณีของประเทศเปรูเป็นตัวอย่าง ประธานาธิบดีของเปรูชื่อนายอัลเบอร์โต ฟูจิมูริ ก็เป็นคนสองสัญชาติ คือสัญชาติเปรูและสัญชาติญี่ปุ่น นายฟูจิมูริถูกรัฐบาลเปรูในเวลาต่อมาดำเนินคดีทั้งเรื่องทุจริตและเรืองการ ใช้อำนาจโดยมิชอบเป็นข้อหาร้ายแรง มีอยู่ช่วงหนึ่งนายฟูจิมูริได้หนีไปอยู่ในประเทศญี่ปุ่น และในระหว่างนั้นก็ได้รับการคุ้มครองในฐานะเป็นคนญี่ปุ่นจนรัฐบาลเปรูทำอะไร ไม่ได้ ต้องรอจนกระทั่งนายฟูจิมูริ ไปวางแฟนยึดอำนาจคืนอยู่ที่ชิลีจึงถูกจับในชิลีและถูกส่งตัวไปดำเนินคดีใน เปรู
นาย ฟูจิมูริกับรัฐบาลเปรูใครผิดใครถูกอย่างไรผมไม่ขอวิจารณ์ แต่เห็นว่ากรณีนี้เป็นตัวอย่างได้อย่างดีว่าการที่นายกรัฐมนตรีของไทยมีสอง สัญชาตินั้นเป็นสิ่งที่ไม่ควรให้เกิดขึ้นแน่ด้วยเหตุผลดังที่ได้กล่าวมาแล้ว
มี คนไปถามกกต.ซึ่งเข้าใจว่ายังไม่ทันหาข้อมูลให้ชัดเจนและยังไม่ได้ประชุม หารือกันก็ด่วนออกมาชี้แจงเสียแล้วว่าการที่คุณอภิสิทธ์มีสองสัญชาติไม่ทำ ให้ขาดคุณสมบัติเพราะมีคุณสมบัติครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ
เรื่อง การมีสองสัญชาตินี้ รัฐธรรมนูญไม่ได้ระบุไว้ แต่โดยสามัญสำนึกก็น่าจะเข้าใจได้ไม่ยากว่าระบบกฎหมายของไทยเราไม่น่ายินยอม ให้นายกรัฐมนตรีเป็นบุคคลสองสัญชาติไปได้ และถ้าเรื่องนี้ไปสูการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญด้วยวิธีใดก็ตาม หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าไม่เป็นไรแล้วละก็ คงจะสนุกกันใหญ่ละประเทศไทย
แต่ในขั้นนี้ผมคิดว่ายังไม่น่าใส่ใจกับการไปร้องกับกกต.หรือศาลรัฐธรรมนูญให้มานักเพราะอาจต้องใช้เวลาและไม่เกิดประโยชน์อะไรมากนัก
คงต้องใช้หลักว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาทางการเมืองของประเทศ และเมื่อเป็นเรื่องการเมือง ก็ต้องแก้ด้วยการเมือง ฟ้องประชาชนกันดีกว่า
ขอ ย้ำครับว่าผมไม่ได้กำลังบอกว่าคุณอภิสิทธิ์ควรสละสัญชาติอังกฤษเสีย แต่กำลังบอกว่าคุณอภิสิทธิ์ซึ่งรู้อยู่แก่ใจมาตลอดว่าตนเองมี 2 สัญชาติ จะสละสัญชาติก็ได้แต่ไม่สละนั้น ไม่ควรเป็นนายกฯมาตั้งแต่ต้นและไม่ควรเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไป
เขียนโดย Go6 TV
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น