แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2554

พ่อวัย 82 หอบที่ดินผืนสุดท้ายประกันลูกชาย เหยื่อคดีหมิ่น 112


Friend-of-Red


17 มีนาคม 2554

เช้าวันนี้อากาศหนาว มีฝนตกโปรยปราย สายลมหอบเอาสองตายายวัยกว่า 82 ปีมาที่ศาลอาญาตามการนัดหมายของทนายความสำนักกฎหมายราษฎรประสงค์

รถเข็น นั่นรถเข็น ! ชายแก่ค่อยๆเข็นภรรยาซึ่งพิการเข้ามาภายในรั้ว ศาลอาญา ศาลยุติธรรมอันศักดิ์สิทธิ์ เราเข้าไปพูดคุยจึงทราบแน่ชัดว่า อากงได้พาภรรยามาด้วย เพราะมีกันอยู่เพียง 2 คนเท่านั้นภายหลังจากที่นายเอกชัย ลูกชายถูกจับกุมในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ชนะสงครามกล่าวหาว่า เป็นผู้จำหน่าย VCD …

เราต้องเข็นอาม่าไปขึ้นข้างหลังศาล เพราะบันไดด้านหน้านั้นสูงลิ่ว

มีปัญหาการสื่อสารเล็กน้อย เพราะทั้งสองเป็นคนไทยเชื้อสายจีน แต่การกรอกเอกสาร การเตรียมหลักประกันก็เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เราสี่คนแทบไม่ได้ยินเสียงอะไร แม้ในห้องที่วุ่นวายด้วยคนที่มาติดต่อราชการ ความหวังลูกชายเสรีภาพ

เข็มนาฬิกาตะโกนบออกว่าเป็นเวลาห้าโมงเย็น เจ้าหน้าที่เรียกชื่ออากง และนั่น แทบจะหิ้วอากงลอยไปที่หน้าเค้าเตอร์ ความหวังความหวัง

เจ้าหน้าที่อ่านคำสั่งศาลว่า หลักทรัพย์นายประกันไม่เพียงพอตามเกณฑ์ ให้หาหลักทรัพย์มาให้ครบ 5 แสนบาทจึงจะพิจารณาสั่งต่อไป

ผมประคองร่างอากงออกจากเค้าเตอร์ และรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของท่าน มันเลวร้าย มันเลวร้ายมากสำหรับพ่อคนหนึ่ง มันเลวร้ายมากสำหรับนักเรียนกฎหมายอย่างผม

เราออกจากศาลอาญา เหมือนร่างที่ไร้ความรู้สึก ลมหนาวเริ่มทวีความรุนแรง และคงหนาวไปถึงเรือนจำ

ไม่เป็นไร พรุ่งนี้มาใหม่ ค่อยไปหายืมเงินมาเพิ่ม อีกสามหมื่นเองไม่เป็นไร…”

เสียงอันสั่นเครือแทรกออกจากปากชายชราวัย 82 ปี

เราอาสาไปส่งอากงกับอาม่าที่บ้าน ก่อนกลับอากงขอบคุณยกใหญ่ ยัดเงินจำนวน 7 ร้อยบาทเป็นค่ารถและค่าเสียเวลาใส่มือผม

แน่นอนว่าผมปฏิเสธ ผมเป็นทนายความที่ได้รับเงินเดือนซึ่งเป็นเงินบริจาคผ่านทางสำนักกฎหมายอยู่ แล้ว และเป็นเงื่อนไขที่จะไม่รับเงิน และค่าตอบแทนอื่นใดจากลูกความ

อากงยังยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นเป็นน้ำใจที่มาช่วย ให้รับไว้ คนจีนเค้าถือ…”

ผมยกมือไหว้ และนัดแนะเวลาเจอกันอีกครั้งพรุ่งนี้เช้า ในมือกำเงิน 7 ร้อบบาทออกจากบ้านและเตรียมนำไปฝากให้พี่เอกชัยในเรือนจำ

นี่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในสังคมประชาธิปไตย สังคมที่คนถูกฉาบด้วยรอยยิ้มความเอื้ออาทร นานมาแล้วผมจำได้สมัยเรียนมหาลัย

พรุ่งนี้คงเป็นอีกวันที่ลมหนาวจะหอบอากง อาม่า มาที่ศาลพร้อมหลักทรัพย์ และความหวังผมจะรอที่นั่น !

: ทนายยุทธการ สำนักกฎหมายราษฎรประสงค์

http://rli.in.th/

http://www.internetfreedom.us/thread-17668.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน