แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันพุธที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2553

สังคมไทยในสมัยโบราณ

สังคมไทยในสมัยโบราณ

สังคมไทยในสมัยโบราณ มีลักษณะที่อาจ จะบัญญัติศัพท์ขึ้นเรียก
ก็เห็นจะต้องเรียกว่าเป็น “สังคมหวงห้าม” (Prohibitive Society)
ขึ้นต้นด้วยภาษา ที่ใช้ในสังคมก็มีราชาศัพท์สำหรับใช้กับคนชนชั้นต่างๆ
ตั้งแต่ พระเจ้าแผ่นดิน เจ้านาย ขุนนาง ลงมาจนถึงพระภิกษุสงฆ์
จะพูดจาตามใจไม่ได้ การปลูกบ้านอยู่ การแต่งกาย เครื่องประดับก็มี
แบบแผนกำหนดไว้แน่นอนใครจะต้องทำอย่างไร เช่น
วังเจ้าจะต้องปลูกตำหนักแบบไหน มีท้องพระโรงขนาดไหน บ้านขุนนาง
ต้องปลูกเรือนอย่างไร บ้านราษฏรจะต้องปลูกขนาดไหน สูงต่ำเท่าใด
เครื่องแต่งกายก็กำหนดห้ามไว้แน่นอน ตัวอย่างเช่น ผ้าคาดที่ทอด้วยเงิน
ทองใช้ได้แต่ เจ้านาย ขุนนางใช้ไม่ได้ ราษฏรสามัญใช้ได้แต่ฝ้าย
เครื่องประดับที่ทำด้วยทองบางอย่างก็หวงห้ามไว้ใช้เฉพาะเจ้านาย
แม้แต่...บหมาก กระโถน ก็มีแบบแผนกำหนดไว้ว่าคนชั้นไหน จะต้องใช้อย่างไร
“สังคมหวงห้าม” ในเมืองไทยแล้ว ดูเหมือนจะ ฝังอยู่ลึกมาก
เพราะคนไทยทุกวันนี้ จะทำอะไรต้องคิดแล้ว คิดอีก ว่าจะเกินหน้าไป
หรือไม่ จะต้องเกรงใจผู้ใดหรือไม่ และ ...
การตัดสินผู้อื่น ในสังคมไทย ก็ ต้องอาศัย
กฏเกณฑ์แห่ง............. “สังคมหวงห้าม” นี้
เป็นเครื่องตัดสินว่า...... ใครดี ใครชั่ว ......
นักการเมือง หรือข้าราชการผู้ใด ปลูกบ้านช่องอยู่ใหญ่โตหรูหรา
ก็จะมีคนพูดว่า “ปลูกบ้านราวกับวังเจ้า” คำพูดเช่นนี้หมายความว่า
เจ้าของบ้านนั้นทำเกินตัว ผิดกติกาแห่ง “สังคมหวงห้าม” และ
....ส่อไปในทางทุจริต กติกา "
เหล่านั้นยังคงเป็นเครื่องควบคุมความประพฤติคนไทยอยู่มาก
แม้ในปัจจุบัน......
คนในเมืองไทยเรา มีความรู้สึกฝังอยู่ในส่วนลึกของหัวใจว่า
เราอยู่ในสังคมที่ยากจน นับถือศาสนาที่สอนให้เสียสละสมบัติทางโลก
กราบไหว้พระที่นุ่งห่มด้วยผ้าเพียง 3ผืน และรับอาหารบิณฑบาต
ความจนจึงเป็น อุดมการณ์ของคนไทย ....
ใครที่อยู่ในตำแหน่งที่พอจะรวยได้ ...แต่กลับยากจน ก็มีคนนับถือ...
คนไทยนั้นใครอวดมั่งอวดมีเข้า ก็ต้องถูกนินทา ..
ไม่ถูกหาว่าโกง.... ก็ต้องถูกหาว่าเห่อ”
...................................................................
หม่อมคึกฤทธิ์เขียนไว้ อ่านดูแล้วเห็นจริง เท่าที่เห็นเหนาะ ๆ
นายกแม้ว เจอข้อหา อมตะ จาก สังคมหวงห้าม นี้เข้าไปทุกประเด็นเลย
1. การตัดสินความประพฤติคนไทย ว่าใครดีเลว โดยใช้เกณฑ์ สังคมหวงห้าม มาตัดสิน
2. ท่าทางรวย ฐานะดี สังคมหวงห้าม จะบอก ทำเกินตัว ส่อไปทางทุจริต ถูกหาว่าโกง
3. สังคมหวงห้ามทำให้คนไทยชินกับความจนใครอยู่ในฐานะที่จะรวยได้ แต่ไม่รวย
สังคมหวงห้าม บอก เป็นคนน่านับถือ...

แล้วคนไทย จะทำอย่างไรต่อไปดี ที่ไม่ต่างจากคนทั้งโลก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน