แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันเสาร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2553

สืบทอดอุดมการณ์ นวมทอง ไพรวัลย์ รวมพลังกันสร้างประชาธิปไตยให้สมบูรณ์




โดย เปลวเทียน ส่องทาง
30 ตุลาคม 2553


คนจำนวนมากใช้ชีวิตเพียงเพื่อเอาตัวรอดในสังคมไปวัน ๆ หรือไหลไปตามกระแสนิยมก่อนจะหมดลมหายใจ ……

หลายคนยอมจำนนสวามิภักดิ์ต่ออำนาจนิยม หลงใหลกับอำนาจ แสวงหาประโยชน์ เงินตรา แม้อำนาจนั้นเป็นอำนาจที่ฉ้อฉล หรือ มีชีวิตเพียงเพื่อหาผลประโยชน์ที่ได้มาเป็นการเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น

แต่คนบางคนใช้ชีวิต มีชีวิตอยู่ได้ก็เพราะการได้ต่อสู้ ต่อต้านอำนาจที่ไม่ชอบธรรม มีชีวิตอยู่ได้เพราะความฝันใฝ่ ชีวิตที่มีอุดมคติ ปรารถนาในสังคมมีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน

และบางคนไม่อาจมีชีวิตอยู่ได้ ถ้าตราบที่เขาถูกรังแก ไม่ได้รับความยุติธรรม เขาพร้อมที่จะสละแม้กระทั่งชีวิต ซึ่งการเสียสละนั้นย่อมได้ปลุกให้ผู้คนตื่นจากการหลับใหลมาเนิ่นนาน………

เมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2549 นายนวมทอง ซึ่งเป็นอดีตพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย บางกรวย ได้ขับรถยนต์แท็กซี่ โตโยต้า โคโรลล่า สีม่วง ทะเบียน ทน 345 กรุงเทพมหานคร ของบริษัท สหกรณ์แหลมทองแท็กซี่ จำกัด พุ่งเข้าชนรถถังเบา M41A2 Walker Bulldog ป้ายทะเบียนตรากงจักร 71116 ของคณะปฏิรูปฯ (คณะรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 )และได้รับบาดเจ็บสาหัส

ต่อมาในคืนวันที่ 31 ตุลาคม 2549 นายนวมทองผูกคอตายกับราวสะพานลอย บริเวณถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาออก เยื้องกับที่ตั้งสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ (บริษัท วัชรพล จำกัด)

โดยในจดหมายลาตายระบุว่า ต้องการลบคำสบประมาทของ พันเอก อัคร ทิพโรจน์ รองโฆษก คปค. ที่ว่า ไม่มีใครมีอุดมการณ์มากขนาดยอมพลีชีพได้

ในคืนที่นายนวมทองแขวนคอตาย เขาตั้งใจสวมเสื้อยืดสีดำ สกรีนข้อความเป็นบทกวี ที่เคยใช้ในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย โดยด้านหน้าเป็นบทกวีของรวี โดมพระจันทร์ ที่ว่า



ตื่นเถิดเสรีชน

อย่ายอมทนก้มหน้าฝืน

ดาบหอกกระบอกปืน

หรือทนคลื่นกระแสเรา


แผ่นดินมีหินชาติ

ที่ดาดาษความโฉดเขลา

ปลิ้นปล้อนตะลอนเอา

ประโยชน์เข้าเฉพาะตน



นวมทอง ไพรวัลย์ ได้สละชีพกระทำอัตวินิบาตรกรรม เพื่อให้คนได้ตระหนักถึงคุณค่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และความหมายสำคัญของระบอบประชาธิปไตย ความอัปยศอัปลักษณ์ของอำนาจรัฐประหาร


นวมทอง ไพรวัลย์ จึงเป็นสัญญลักษ์แห่งอุดมการณ์ประชาธิปไตย ที่ปรารถนาถึงสังคมไทยเป็นสังคมที่มี “เสรีภาพ เสมอภาคและภราดรภาพ” ไม่ต่างไปจากความใฝ่ฝันของคณะราษฎร เมื่อปี2475 แต่อย่างใดเลย

อุดมการณ์ความคิดของ นวมทอง ไพรวัลย์ บอกให้สังคมไทยและทั่วโลกได้รู้ว่า การรัฐประหารเป็นสิ่งที่ทำลายพัฒนาการของประชาธิปไตยในสังคมไทย และไม่ใช่เป็นหนทางในการพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้า

การรัฐประหาร เป็นการที่กองทัพ แทรกแซงครอบงำทางการเมือง กีดกันสิทธิเสรีภาพของประชาชน ทำลายระบบหนึ่งสิทธิ์หนึ่งเสียง ทำลายความเชื่อที่ว่า “คนเราทุกคนเท่ากัน”

การรัฐประหาร 2549 โดยกองทัพ เป็นความรุนแรงที่สุดของความรุนแรงทางการเมืองทั้งปวง ซึ่งได้ฉีกทำลายรัฐธรรมนูญปี 40 ที่ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุดในการสร้างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

อุดมการณ์ความคิดของ นวมทอง ไพรวัลย์ บอกให้สังคมไทยและทั่วโลกเข้าใจว่า อำนาจนอกระบอบประชาธิปไตย เป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาประชาธิปไตยให้สมบูณ์ อำนาจนอกระบบเป็นอำนาจที่ครอบงำสังคมไทยมานมนาน

อำนาจนอกระบบชวนเชื่อให้ผู้คนเข้าใจผิดมาตลอดว่า ประชาชนเป็นเพียงไพร่ทาส หาใช่พลเมืองไทยที่มีสิทธิเท่าเทียมอำมาตย์ศักดินา แต่อย่างใดไม่

อุดมการณ์ความคิดของ นวทอง ไพรวัลย์ บอกให้สังคมไทยและทั่วโลก พึงตระหนักว่า มีแต่ระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น ที่จะทำให้สังคมไทยเป็นดั่งอารยประเทศ ไม่ป่าเถื่อนล้าหลัง มีวัฒนธรรมที่ก้าวหน้าที่เคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

อุดมการณ์ความคิดของนวมทอง ไพรวัลย์ บอกให้สังคมไทยและทั่วโลก ว่า “ประชาธิปไตย เป็นอนาคต เผด็จการ รัฐประหาร อำนาจนอกระบบ เป็นอดีต ” ซึ่งเป็นภารกิจของผู้รักประชาธิปไตยทุกคนที่ต้องรวมพลังสร้างประชาธิปไตยให้ สมบูรณ์

และไม่มีใครใหญ่จากไหน ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า
เพราะทุกคนเป็นมนุษย์ย่อมมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน

“อำมาตยาธิปไตย จงพินาศ ประชาธิปไตย จงเจริญ”

.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน