โดย...ทีมข่าวการเมือง
ดูเหมือนจะเป็นแค่ “เรื่องเล็กๆ” ไม่สลักสำคัญอะไร ต่อการที่คนไทยไม่ได้เห็นภาพ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าพบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เพื่ออวยพรวันเกิด 91 ปี เมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา
ทว่าในทางการเมืองและกองทัพแล้ว ถือว่า “มีนัยสำคัญ” บางประการ ที่ทำให้ไม่อาจสบายใจต่อสถานะ การเปลี่ยนขั้วอำนาจ จากรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ จากยุค “อำมาตย์” มาสู่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่เรียกตัวเองว่า “ไพร่”
ยิ่งลักษณ์ ให้เหตุผลสั้นๆ ว่า “ป๋าท่านไม่ได้เปิดบ้าน” จึงทำให้ไม่ได้ไปพบ ไปอวยพรวันเกิด
ท่ามกลางข่าวลือที่ออกมาจากพรรคเพื่อไทยว่า นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ขอเข้าพบแล้ว แต่ป๋าเปรมไม่ให้เข้าพบ โดยอ้างว่าไม่ได้เปิดบ้าน
แต่แหล่งข่าวใกล้ชิด พล.อ.เปรม ยืนยันว่า นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้ทำเรื่องหรือประสานงานติดต่อมาเพื่อขอเข้าพบ พล.อ.เปรม แต่อย่างใด ทั้งๆ ที่เคยให้สัมภาษณ์มาก่อนหน้านี้ว่าจะมาพบ
“ถ้านายกฯ ขอมาพบ พล.อ.เปรม ท่านก็ต้องให้พบอยู่แล้ว หากไม่ได้มาเพื่อหวังผลทางการเมืองใดๆ มาแสดงความปรารถนาดีต่อกัน” ลูกป๋าคนหนึ่ง กล่าว
ทั้งนี้ ก็เป็นที่รู้กันดีว่า นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ถูกตำหนิอย่างแรงจากหลายกลุ่มที่สนับสนุนเธอ สนับสนุนพรรคเพื่อไทย และคนเสื้อแดง ที่ไม่ต้องการให้เธอไปพบ พล.อ.เปรม ซึ่งพวกเขามองว่าเป็น “มือที่มองไม่เห็น” และมีส่วนเกี่ยวข้องกับการล้มล้างอำนาจ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของพวกเขา ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ให้สัมภาษณ์พาดพิง พล.อ.เปรม มาตลอด
ในขณะที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้เข้าพบ พล.อ.เปรม แต่กลับมีทั้งขุนทหารและตำรวจตบเท้าเข้าอวยพรวันเกิดป๋าเปรมกันคึกคัก ทั้ง พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม ที่นำ ผบ.เหล่าทัพพร้อมหน้าเข้าอวยพรตั้งแต่เช้าวันที่ 25 ส.ค. จากนั้นตอนบ่าย พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สส. ก็นำทหารเหล่าม้าทั่วประเทศเข้าอวยพรวันเกิดที่บ้านสี่เสาเทเวศร์
“สิ่งที่ พล.อ.เปรม เน้นก็คือ การให้ทหารจงรักภักดีและปกป้องสถาบัน โดยเน้นคำว่า “ด้วยชีวิต” และให้ทหารรักกันไว้ สามัคคีกันไว้ ก็จะไม่มีใครมาทำอะไรกองทัพได้” แหล่งข่าวระบุ
จากนั้นในวันจันทร์ที่ 29 ส.ค. ประตูบ้านสี่เสาเทเวศร์ ก็เปิดต้อนรับ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. และบิ๊กตำรวจ ที่เข้าอวยพรวันเกิด
ท่ามกลางข่าวการเปลี่ยนตัว ผบ.ตร. จาก พล.ต.อ.วิเชียร ไปเป็น พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ พี่ชายคุณหญิงพจมาน อดีตภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งๆ ที่ พล.ต.อ.วิเชียร มีอายุราชการถึงปี 2556 รวมถึงข่าวการถูกกดดันจากฝ่ายการเมืองเสนอให้ หรือตัวเขาเองขอย้ายสังกัดจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปเป็นปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อหลีกทางให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ แต่ พล.ต.อ.วิเชียร ปฏิเสธข่าวนี้ว่าไม่เคยอยู่ในความคิด และไม่เคยทำหนังสือลาออกใดๆ
โดยเฉพาะท่าทีของ พล.ต.อ.วิเชียร หลังเข้าพบ พล.อ.เปรม ที่บ้านสี่เสาฯ โดยมีรายงานว่า พล.อ.เปรม ให้กำลังใจ ผบ.ตร. ในการทำงานต่อไป
“ไม่มีใครมากดดันให้ผมลาออกจาก ผบ.ตร.ได้” พล.ต.อ.วิเชียร กล่าว
การแข็งขืนในการต่อสู้กับการเมือง ไม่ใช่แค่ พล.ต.อ.วิเชียร คนเดียว แต่ยังรวมถึงกองทัพบก ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 12 ของ พล.ต.อ.วิเชียร ด้วย “อย่าไปยอมการเมือง” แหล่งข่าวใน ตท.12 กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ ทบ.นั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์ พยายามต่อรองเพื่อวางตัวตำแหน่งสำคัญต่างๆ แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็แข็งขืนในการปกป้องศักดิ์ศรีของกองทัพ ทั้งการต่อรองในตำแหน่ง ห้าเสือ ทบ. ที่ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องการให้ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ เสนาธิการทหารบก เพื่อน ตท.12 ขึ้นเป็นรอง ผบ.ทบ. ครองอัตราจอมพล เพื่อหวังให้เป็น “อะไหล่” หากในปีหน้าถูกเด้งจาก ผบ.ทบ.ไปเป็น ผบ.สส. เพราะ พล.อ.ดาว์พงษ์ เกษียณปี 2556
ทว่าฝ่ายการเมืองต้องการให้ พล.อ.ดาว์พงษ์ ข้ามไปเป็นรอง ผบ.สส. เพื่อที่จะเปิดทางให้ พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ที่ปรึกษาพิเศษ ทบ. ซึ่งมีความสนิทสนมกับแกนนำพรรคเพื่อไทยในภาคเหนือ ขึ้นเป็นรอง ผบ.ทบ. ครองอัตราจอมพล เพื่อจ่อคิวเป็น ผบ.ทบ.ในปีหน้า หาก พล.อ.ประยุทธ์ ถูกย้าย โดย พล.อ.ทนงศักดิ์ มีอายุราชการถึงปี 2556 แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ให้ พล.อ.ทนงศักดิ์ เป็น ผช.ผบ.ทบ. ตามที่ได้เคยให้สัญญาไว้เท่านั้น โดยให้ พล.อ.ดาว์พงษ์ เพื่อนรัก เป็นรอง ผบ.ทบ.
ขณะเดียวกัน การขอตั้ง พล.ท.ศิริชัย ดิษฐกุล รองเสนาธิการทหารบก บูรพาพยัคฆ์ เป็น พล.อ.ในตำแหน่งเสนาธิการทหารบกคู่ใจ เพราะทำงานกันมาตลอด ในฐานะที่เป็นน้องรักของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เมื่อครั้งเป็น รมว.กลาโหม มาด้วยกันและการเสนอตั้ง พล.ท.โปฎก บุนนาค ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ เพื่อน ตท.12 ขึ้นเป็น ผช.ผบ.ทบ. อีกตำแหน่งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายการเมืองไม่ต้องการให้ พล.ท.โปฎก ขึ้นห้าเสือ ทบ. เนื่องจากในช่วงการปราบเสื้อแดงนั้น ทหารรบพิเศษ เป็นหน่วยที่ถูกมองว่าใช้ความรุนแรงที่สุด ทั้งที่อยู่บนรางรถไฟลอยฟ้า เหตุการณ์ 6 ศพที่วัดปทุมวนาราม และกรณีการเสียชีวิตของ เสธ.แดง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิ ทบ. แม่ทัพของคนเสื้อแดง
“พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ยอมฝ่ายการเมือง เพราะท่านจัดกองทัพตามอาวุโส และความเหมาะสม ไม่ได้เอาแต่เพื่อน เอาแต่ ตท.12 เพราะทุกคนขยับขึ้นมาจ่อในตำแหน่งสำคัญอยู่แล้ว มันเป็นจังหวะของรุ่นนี้” แหล่งข่าวใน ตท.12 กล่าว
แม้แต่ตำแหน่ง ผบ.สส.คนใหม่ พล.อ.ทรงกิตติ ที่กำลังจะเกษียณ เสนอชื่อ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร เสนาธิการทหาร บก.ทัพไทย เป็น ผบ.สส.คนใหม่ ซึ่งมีอายุราชการนานถึงปี 2557 และเป็นแกนนำ ตท.12 ตามที แต่ฝ่ายการเมืองต้องการให้ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ประธานที่ปรึกษา บก.ทัพไทย แกนนำ ตท.11 ขึ้นเป็น ผบ.สส. ขัดตาทัพไปก่อน 1 ปี เพื่อเอาไว้ข่มขู่ พล.อ.ประยุทธ์ ที่จะนั่งเป็น ผบ.ทบ.ต่อไปอีกอย่างน้อย 1 ปี ว่า ถ้ามีปัญหา ปีหน้าอาจถูกเด้งไปเป็น ผบ.สส. เพราะ พล.อ.เสถียร เหลืออายุราชการแค่ปีเดียวเท่านั้น
งานนี้จึงต้องชิงไหวชิงพริบให้ทันเกมอำนาจกันในการวางตัวนายทหารใน ตำแหน่งต่างๆ ท่ามกลางเมาท์วงในกองทัพว่า “กูไม่กลัวมึง” ไม่สนใจว่าการเมืองจะมีอำนาจ จะโยกย้ายหรือจะข่มขู่อย่างไร
แม้แต่เสียงนี้จากบ้านสี่เสาเทเวศร์เองก็ตาม “แต่ตอนนี้ป๋าเปรมจะต้องนิ่งเงียบให้ศัตรูตายใจก่อน ให้ศัตรูเหลิงอำนาจและชัยชนะก่อน แล้วให้รอดู” ลูกป๋าคนหนึ่งกล่าว
ทั้งหมดต้องติดตามเกมโยกย้ายทหารตำรวจ จะบานปลายแค่ไหน การเมืองจะเข้าสู่ยุคตึงเครียดอย่างไร น่าสนใจยิ่ง
http://www.internetfreedom.us/forum/viewtopic.php?f=2&t=7381
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น