จากหนังสือพิมพ์ข่าวสด
วันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7597 ข่าวสดรายวัน
เฉลิมผุดไอเดีย ให้ถือเป็นผู้ป่วย ปูเผายา2พันล. เพรียวพันธ์ลุย ตรวจด้านเหนือ
ลุยเหนือ - พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รรท.ผบ.ตร. ตรวจจุดสกัดยาเสพติดสภ.ห้วยไร่ อ.เด่น ชัย จ.แพร่ ตามแผนสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดเข้ากรุง เมื่อวันที่ 16 ก.ย.
เฉลิมผุดไอเดียเตรียมนำนักโทษเสพยาเสพติดที่เหลือโทษไม่เกิน 1 ปีมาบำบัด ให้มท.ติดตามพฤติกรรม สั่งศึกษากฎหมายรองรับให้ผู้ต้องหาคดียาเสพติดจำนวนไม่มาก ไม่ต้องเข้าคุก แก้ปัญหานัก โทษล้นคุก ขอความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้านร่วมป้องกัน วุฒิสภาตั้งอนุกมธ.ติดตามการแก้ปัญหายาบ้า นายกฯ ปู ประเดิมเผายาเสพติดมูลค่ากว่า 2 พันล. โฆษกรบ.เปิดสายด่วน 1386 ชี้เบาะแส
เมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เชิญชวนคนไทยทุกภาคส่วนน้อมนำพระราชเสาวนีย์สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อร่วมกันแสดงเจต นารมณ์เป็น "พลังแผ่นดิน เอาชนะยาเสพติด" ด้วยการดูแลลูกหลานเพื่อเฝ้าระวังร่วมเป็นหูเป็นตา หากพบเห็นปัญหายาเสพติด หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องยาเสพติด สามารถโทร.แจ้งที่หมายเลข 1386 หรือ http://www.oncb.go.th และหากมีลูกหลานติดยาเสพติด กรุณาชักจูงเข้าบำบัดหรือปรึกษาได้ที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่งทั่วประเทศหรือโทร.1165
โฆษกรัฐบาลกล่าวว่า ในวันเสาร์ที่ 17 ก.ย. นายกฯ จะเดินทางไปยังนิคมอุตสาห กรรมบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เวลา 10.00 น. เพื่อเป็นประธานพิธีเผาทำลายยาเสพติดของกลาง จำนวน 821 กิโลกรัม มูลค่า 2,455 ล้านบาท และกัญชาจากคลังบช.ปส.ร่วมเผาอีกจำนวน 941 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 4.7 ล้านบาท
ด้านพล.ต.อ.วงกต มณีรินทร์ ส.ว. สรรหา ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิ การเสริมสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน วุฒิสภา กล่าวถึงนโยบายแก้ปัญหายาเสพติดของรัฐบาลที่ประกาศเป็นวาระแห่งชาติ ว่า เห็นมาตรการของรัฐบาลแล้ว รู้สึกมีความหวังในการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะการร่วมมือกับประเทศต้นทางแหล่งผลิต คือ สหภาพพม่า ในการทำลายแหล่งผลิตและลำเลียง
ที่รัฐสภา น.พ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว. สรรหา กรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) กล่าวว่า ที่ประชุมวิปวุฒิมีมติเห็นชอบให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหายาเสพติด เพื่อติดตามการดำเนินการตามวาระแห่งชาติ นโยบายด้านยาเสพติดของรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลที่ผ่านมา ไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าที่ควร การประกาศใช้หลักนิติธรรมปราบปรามทั้งผู้ผลิต ผู้ค้า ผู้มีอิทธิพลและผู้ประพฤติมิชอบนั้น ต้องปราบปรามคนทุจริตคอร์รัปชั่นด้วย การยึดหลักผู้เสพคือผู้ป่วย รวมทั้งการป้องกันกลุ่มเสี่ยงและขยายความร่วมมือกับต่างประเทศ ถือเป็นหลักการที่ถูกต้อง แต่มีข้อกังวลฆ่าตัดตอนในอดีต ยังเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงอยู่ จึงอยากให้รัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจน
วันเดียวกัน ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี และผอ.ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ (ศพส.) พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผช. ผบ.ตร. ร่วมประชุมหารือการแก้ปัญหายาเสพติด ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงเสร็จสิ้น
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมา พบว่าปัญหายาเสพติดเกิดจากการนำเข้าจากนอกประเทศ นำเข้ามาในประเทศ โดยพื้นที่ที่พบการนำเข้ามากสุดคือ บริเวณ 8 จังหวัดภาคเหนือ พบการนำเข้ามากกว่า 87 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบการนำเข้ามากกว่า 13 เปอร์เซ็นต์ โดยนำเข้ามากสุดทางอำเภอเขมราฐ จ.อุบลราชธานี ดังนั้น ตนจึงมีแนวคิดอุดช่องโหว่การนำเข้าด้วยการปิดรอยตะเข็บชายแดน โดยต้องอาศัยกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร สนับสนุนการทำงาน รวมถึงประสานกับรมว.สาธารณสุข เพื่อควบคุมและสกัดกั้นสารตั้งต้นยาเสพติด ทั้งนี้ เชื่อว่าปัญหายาเสพติดของประเทศมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวต่อว่า ตนได้หารือกับรมว.ยุติธรรม เพื่อให้นักโทษคดียาเสพติดที่เหลือโทษไม่เกิน 1 ปี เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา และให้กระทรวงมหาดไทยติดตามพิสูจน์ทราบพฤติกรรมภายหลังการบำบัด ตลอดจนใช้วิธีการบำบัดที่บ้าน นอกจากนี้ ตนยังจะให้ศึกษาข้อกฎหมายเพื่อรองรับกรณีการจับกุมผู้ต้องหาที่มียาเสพติดจำนวนไม่มาก เช่น กรณีจับได้เพียง 1 เม็ด ไม่ให้ต้องรับโทษจำคุก เพื่อแก้ปัญหานักโทษล้นคุก ซึ่งรัฐบาลตั้งเป้าแก้ปัญหายาเสพติดภายใน 1 ปี นอกจากนี้ ได้เรียกเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) หารือเพื่อใช้มาตรการยึดทรัพย์กับกลุ่มผู้ต้องหาคดียาเสพติดควบคู่ไปด้วย
เย็นวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปมอบนโยบายด้านการปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ โดยตรวจดูงานในพื้นที่ จ.แพร่ เชียงใหม่ เชียงราย และจังหวัดติดแนวชายแดนในลำดับต่อไป ทั้งนี้ เพื่อให้ การปราบปรามยาเสพติดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น