ภาพจากเว็บไซต์ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ
อันเนื่องมาจากอีเมล์ของวิม รุ่งวัฒนจินดา กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ที่ทำให้ต้องสงสัยว่าให้สินบนกับผู้สื่อข่าวของหนังสือพิมพ์หลายฉบับ คณะกรรมการแห่งสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติจึงตั้งอนุกรรมการตรวจสอบ ไม่พบว่ามีการทุจริต แต่ต้องการตรวจสอบว่า หนังสือพิมพ์มติชน มีการเสนอข่าวเอนเอียงสนับสนุนพรรคเพื่อไทย
มติชนจึงแถลงข่าวตอบโต้ ทำให้สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติแถลงข่าวโต้กลับ สวนหมัดกันไปมา จนนำไปสู่การลาออกของมติชนจากสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ
โดยนายปิยะชาติ มงคลไชยสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นหนังสือจำนวน 2 ฉบับ ให้แก่ ประธานคณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ และ คณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ โดยเป็นหนังสือ “แจ้งลาออกจากการเป็นภาคีสมาชิกสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ”และ “ชี้แจงข้อเท็จจริง อ้างถึง หนังสือสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ที่ สนช.129/13/2554 วันที่ 19 สิงหาคม 2554″ ตามลำดับ ซึ่งมีเนื้อหาโดยละเอียด ดังนี้
ฉบับแรกถึงประธานคณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ
7 กันยายน 2554
เรียน ประธานคณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ
เรื่อง แจ้งลาออกจากการเป็นภาคีสมาชิกสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ
สิ่งที่ส่งมาด้วย หนังสือชี้แจงสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ
ในฐานะภาคีสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ และให้ความร่วมมือกับการทำหน้าที่และกิจกรรมของสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ด้วยดีตลอดมา
กระผม ในฐานะตัวแทนของภาคีสมาชิกอันประกอบด้วยหนังสือพิมพ์มติชน หนังสือพิมพ์ข่าวสด และหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ขอแจ้งต่อคณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ว่า หนังสือพิมพ์ทั้ง 3 ฉบับขอลาออกจากการเป็นภาคีสมาชิกของสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 7 กันยายน 2554
สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติจัดตั้งขึ้นด้วยเจตนารมณ์เพื่อเป็นองค์กรควบ คุมกันเอง และส่งเสริมเสรีภาพและความรับผิดชอบยกระดับผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์และ กิจการหนังสือพิมพ์ให้ดียิ่งขึ้น แต่ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในกรณีล่าสุดกับภาคีสมาชิกอย่างหนังสือพิมพ์มติ ชนและหนังสือพิมพ์ข่าวสด สะท้อนว่าหลักการข้างต้นมิได้รับการธำรงรักษา ซ้ำยังถูกบิดเบือนด้วยอิทธิพลการเมืองจากภายนอก
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเป็นที่ประจักษ์ว่ามีอิทธิพลการเมืองภายนอกเข้าแทรกแซง และมีภาคีสมาชิกตกเป็นเหยื่อของการต่อสู้ทางการเมืองนั้น คณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติยังมิได้แสดงความกระตือรือล้นจะจัดการ แก้ไข รวมไปถึงดำเนินการระงับความเสียหายผู้ได้รับผลกระทบ ที่เสื่อมเสียชื่อเสียงเกียรติยศศักดิ์ศรีไปแล้วดังที่ควรปฏิบัติ กลับแสดงท่าทีเหมือนเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มการเมืองบางกลุ่ม
ตลอดเวลากว่า 30 ปี เครือมติชนได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความหนักแน่นมั่นคงในวิชาชีพ เป็นองค์กรที่ได้รับการยอมรับอย่างสูงจากประชาชน ด้วยความเป็นมืออาชีพและวัตรปฏิบัติที่ซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา ไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสียด้านจรรยาบรรณ จนกระทั่งประสบกับข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอยไร้สาระเช่นนี้
ด้วยเหตุนี้ กระผมในฐานะตัวแทนของภาคีสมาชิกทั้ง 3 จึงขอเรียนย้ำอีกครั้งว่า หนังสือพิมพ์มติชน หนังสือพิมพ์ข่าวสด และหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ขอลาออกจากการเป็นภาคีสมาชิกของสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ โดยหวังว่าการแสดงออกเช่นนี้จะทำให้เกิดการตรวจสอบ วิพากษ์วิจารณ์ และการเปลี่ยนแปลงที่จะนำสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติกลับไปสู่มาตรฐานของ เจตนารมณ์เมื่อครั้งก่อตั้งได้
หนังสือพิมพ์มติชน หนังสือพิมพ์ข่าวสด และหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ ขอยืนยันว่า แม้จะมิได้เป็นภาคีสมาชิกของสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติแล้ว แต่หนังสือพิมพ์ทั้ง 3 ฉบับไปจนถึงกิจการอื่นๆในเครือ จะยังคงธำรงรักษาซึ่งมาตรฐานจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ ดังเช่นที่ยึดถือปฏิบัติมาตั้งแต่ก่อนสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติจะถือ กำเนิด พร้อมจะให้สังคมตรวจสอบความสุจริตโปร่งใสในการปฏิบัติงานได้ทุกเวลา และพร้อมให้ความร่วมมือกระทำการในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประชาชน ส่วนใหญ่ ไปจนถึงการการทบทวนสถานภาพและท่าที หากเจตนาและมาตรฐานเมื่อครั้งก่อตั้งสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติได้รับการ ฟื้นฟูกลับมาสู่ความเป็นปกติดังเดิม
จึงเรียนมาด้วยความเคารพ
ปิยะชาติ มงคลไชยสิทธิ์
กรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด(มหาชน)
ภาพจากเว็บไซต์ มติชนออนไลน์
ฉบับที่สองถึงคณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ
7 กันยายน 2554
เรียน คณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ
เรื่อง ชี้แจงข้อเท็จจริง
อ้างถึง หนังสือสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ที่ สนช.129/13/2554 วันที่ 19 สิงหาคม 2554
หนังสือพิมพ์มติชนและข่าวสด ซึ่งเป็นภาคีสมาชิกของสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ขอเรียนชี้แจงคณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติว่า ตามที่ คณะกรรมการมีมติเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2554 ให้ตั้งคณะอนุกรรมการเฉพาะเรื่องสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีข่าวอีเมลที่อ้างว่าเป็นของบุคคลในพรรคเพื่อไทยระบุว่ามีการจ่ายสินบน ให้กับสื่อมวลชน และแถลงผลการสอบสวนไปเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2554
หนังสือพิมพ์มติชน-ข่าวสด ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อสาธารณะ เพื่อชี้ให้เห็นความผิดปกติและความไม่ชอบมาพากลของการสอบสวนดังกล่าว ว่า
1.ดำเนินการไปโดยผิดหลักการ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งหัวข้อสอบสวนตามชอบใจ เมื่อบุคคลไม่ผิดก็ขยายไปที่องค์กร ไปจนถึงการสอบสวนลับหลังโดยไม่เปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจงข้อเท็จ จริง
2.วิธีการสอบสวนและการสรุปผลสอบสวน ขาดตรรกะและความรู้ความเข้าใจในการประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์
3.พฤติกรรมแห่งการสอบสวนและผู้สอบสวนมีเจตนาน่าเคลือบแคลง โดยเฉพาะความพยายามในการใช้ผลการสอบสวนนี้เพื่อประโยชน์ทางการเมืองของคน บางกลุ่ม
หนังสือพิมพ์มติชน-ข่าวสดเรียนย้ำว่าจะไม่ขอใช้สิทธิ์ในการอุทธรณ์ต่อสภา การหนังสือพิมพ์แห่งชาติ เพราะยืนยันมาแต่ต้นแล้วว่าไม่ยอมรับผลการสอบสวนที่ผิดปกติของคณะอนุกรรมการ ได้ แต่การชี้แจงครั้งนี้เนื่องจากการสอบสวนพาดพิงถึงองค์กรหนังสือพิมพ์ ซึ่งคณะอนุกรรมการและสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติมิได้เปิดโอกาสให้ได้แสดง ข้อเท็จจริงมาก่อน
ในฐานะภาคีสมาชิกของสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ หนังสือพิมพ์มติชน-ข่าวสดขอยืนยันว่า ทั้งองค์กรและผู้ปฏิบัติงานของหนังสือพิมพ์ทั้งสอง ได้ประพฤติปฏิบัติตามกรอบจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพและข้อบังคับด้านจริยธรรมของ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติอย่างซื่อสัตย์สุจริตมาโดยตลอด
หนังสือพิมพ์มติชน-ข่าวสดหวังว่าคณะกรรมการสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ที่ประกอบไปด้วยผู้อาวุโสในวิชาชีพสื่อมวลชนและผู้ทรงคุณวุฒิจากวิชาชีพ อื่นๆ จะพิจารณาเหตุที่เกิดขึ้นด้วยใจเป็นธรรม และแก้ไขความเสียหายให้กับภาคีสมาชิกที่ได้รับความเสื่อมเสียทั้งที่มิได้ ประพฤติตามที่ถูกกล่าวหา
จึงเรียนมาด้วยความเคารพ
ปิยะชาติ มงคลไชยสิทธิ์
กรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด(มหาชน)
http://www.siamintelligence.com/matichon-resign-from-the-national-press-council-of-thailand/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น