กลุ่มคนเสื้อแดงนำช่อดอกไม้เข้าให้กำลังใจนายมิตร ใจอินทร์
โดย นพ
28 กันยายน 2554
วันที่ 28 กันยายน 2554 บริเวณลานลั่นทม หอนิทรรศการศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ “ปฏิบัติการอดอาหารท้วงประเทียด 112 ชั่วโมง” (112 Hunger Strike) ของนายมิตร ใจอินทร์ยังคงดำเนินต่อไปเป็นวันที่สาม และโดยในวันนี้กลุ่มคนเสื้อแดงหลายกลุ่มในจังหวัดเชียงใหม่ เยี่ยมมอบดอกไม้ให้กำลังใจนายมิตร
ในช่วงเช้าบริเวณหอศิลปวัฒนธรรม มีงานเสวนาในหัวข้อ “สังคม การเมือง วัฒนธรรม ของบ้าน live in บ้านพ่อ” โดยก่อนเริ่มงานเสวนา พิธีกรเสวนาได้สัมภาษณ์เปิดใจนายมิตร ใจอินทร์ถึงกิจกรรมอดอาหารของเขา นายมิตรเล่าว่าตนรู้สึกว่าศิลปินหรือนักวัฒนธรรมในเมืองไทยค่อนข้างถูกปิด ปากและไม่มีเสรีภาพในการแสดงออก แม้ตนจะไม่รู้เรื่องทางนิติศาสตร์ หรือมีความรู้ด้านกฎหมายในระดับชาวบ้าน แต่ในฐานะศิลปิน ก็เห็นปัญหาในเรื่องกฎหมายมาตรา 112 นี้ได้สร้างความไม่เป็นธรรมในสังคม
นาย มิตรกล่าวว่าตนเคยเข้าไปฟังงานเสวนาเรื่องกฎหมายฉบับนี้โดยนักวิชาการอย่าง อาจารย์ David Streckfuss ได้ชี้ให้เห็นว่าในปีเดียวมีคนโดนคดีในมาตรา 112 ถึง 400 กว่าคน ซึ่งมันสะท้อนความเป็นยุคที่บ้านป่าเมืองเถื่อนมาก ในภาวะแบบนี้ศิลปินไม่สามารถจะทำอะไรสร้างสรรค์ได้ภายใต้ร่มเงาของความมืด และการใช้อำนาจแบบนี้ อีกทั้งชาวบ้านจำนวนมากที่ตนได้สัมผัสและได้พูดคุยด้วย ก็เห็นถึงปัญหาของกฎหมายมาตรานี้ และมีอาการที่เรียกว่าตาสว่างกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งศิลปินก็เริ่มตาสว่างตามชาวบ้านไป
นายมิตรกล่าวว่าเมื่อมีโอกาส จากคณาจารย์และนักศึกษาที่จัดงาน madiFESTO ขึ้นและให้โอกาสได้แสดงออก ตนก็ใช้จังหวะนี้เอามาปฏิบัติการ มาเปิดประเด็น เพราะหน้าที่ของศิลปะสำหรับตนคือต้องช่วยในการเปิด ทั้งในแง่การเปิดประเด็น และในแง่การเปิดหูเปิดตาผู้คน
สำหรับการอดอาหารในวันที่สามนี้ นายมิตรยังคงปักหลักนั่งอยู่กับที่ ไม่เคลื่อนย้ายไปไหนเพื่อไม่ให้สิ้นเปลืองพลังงาน และในวันนี้ยังมีกลุ่มคนเสื้อแดงจากหลายกลุ่มในจังหวัดเชียงใหม่ เช่นจากอำเภอสันกำแพง และอำเภอดอยสะเก็ด ส่งตัวแทนเข้าเยี่ยมและให้กำลังใจนายมิตร พร้อมนำช่อดอกไม้และน้ำดื่มมามอบให้ หลายคนชื่นชมในความกล้าหาญในการทำกิจกรรมของนายมิตร
หญิงเสื้อแดงจาก อำเภอดอยสะเก็ด เล่าว่าตนรู้สึกเห็นใจนายมิตรที่ออกมาช่วยกันผลักดันในเรื่องกฎหมายมาตรา 112 โดยการอดข้าว และรู้สึกว่านายมิตรคนเดียวหรือศิลปินอีก 4-5 คนทำแบบนี้ก็ยังน้อยไป ทั้งที่มีคนที่โดนคดีจากกฎหมายมาตรา 112 อีกเยอะ จึงอยากให้ทางรัฐบาลใส่ใจกับปัญหาจากกฎหมายฉบับนี้ หรือมีการทบทวนแก้ไขกฎหมาย ไม่ใช่ใครทำหรือพูดอะไรก็สามารถถูกหาว่าละเมิดสถาบันไปหมด ซึ่งแบบนี้ทำให้บ้านเมืองแตกแยกมากกว่า อีกทั้งข่าวสารในเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายมาตรา 112 ก็ไม่มีการออกในสื่อโทรทัศน์ช่องปกติ คนที่พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็แทบไม่มีใครรู้ใครเห็น ตนจึงเห็นด้วยว่าควรทำให้เรื่องนี้เป็นที่รับรู้มากขึ้น และอยากให้นักศึกษาหรือใครก็ตามได้ช่วยกันผลักดันเรื่องนี้ในด้านอื่นๆ ด้วย
นอก จากนั้นในวันนี้ ผู้มาเยี่ยมให้กำลังใจยังมีการนำข้อความไม่เห็นด้วยกับการใช้ประมวลกฎหมาย อาญามาตรา 112 ในภาษาต่างๆ รวมทั้งสติ๊กเกอร์ที่มีข้อความ “NO FREEDOM HERE” พร้อมภาพคนถูกจับมัดเชือก มาติดไว้ในบริเวณที่ปฏิบัติการของนายมิตรด้วย ทั้งนี้จนถึงในวันที่สาม ยังมีศิลปินอิสระที่อดอาหารเป็นเพื่อนนายมิตรอีก 1 คน
นายมิตรติดข้อความภาษาญี่ปุ่นและภาษาล้านนา
แสดงความไม่เห็นด้วยกับกฎหมายมาตรา 112 ที่มีผู้นำมามอบให้
http://thaienews.blogspot.com/2011/09/112_28.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น