Somying
ดี เอสไอสั่งฟ้องคดีภาษีบุหรี่ฟิลลิป มอร์ริส โยนอัยการสูงสุดชี้ขาด อ้างค่าเงินผันผวนแต่ขายราคาคงที่มาตลอด ปัดไม่เคยถูกการเมืองแทรกแซง
นาย ธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และพ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีดีเอสไอ ร่วมกันแถลงข่าวกรณีที่ดีเอสไอมีความเห็นสมควรสั่งฟ้องคดีสำแดงภาษีนำเข้า บุหรี่อันเป็นเท็จ ว่า หลังจากกรมศุลกากรมีหนังสือร้องทุกข์กล่าวโทษขอให้ดีเอสไอดำเนินคดีกับ บริษัทฟิลลิป มอร์ริส(ไทยแลนด์) ลิมิเต็ด พร้อมนายจรณชัย ศัลยพงษ์ กับพวกรวม 14 คน กล่าวหาร่วมกันสำแดงราคาอันเป็นเท็จในการนำเข้าบุหรี่ยี่ห้อมาร์ลโบโร และแอลแอนด์เอ็ม เพื่อหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงค่าภาษีอากร ทำให้ค่าภาษีอากรต่ำกว่าประมาณ 68,000ล้านบาทเศษ
โดยได้สอบสวนรวบ รวมหลักฐานตั้งแต่ปี 2549 กระทั่งสรุปสำนวนการสอบสวน มีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด และส่งสำนวนการสอบสวนไปยังสำนักงานอัยการฝ่ายพิเศษเพื่อพิจารณาตามกฎหมาย
ต่อ มาอธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ ได้พิจารณาแล้วมีความเห็นต่าง คือสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทุกข้อหา และได้ส่งสำนวนสอบสวนกลับมายังดีเอสไอพิจารณา ล่าสุดกลุ่มงานความเห็นแย้งของดีเอสไอ เห็นสมควรสั่งฟ้องคดี และได้ส่งสำนวนคดีพร้อมความเห็นไปให้อัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณาชี้ขาดแล้ว หากอัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดีถือว่ายุติ แต่ถ้ามีความเห็นสั่งฟ้องคดีก็จะถูกนำขึ้นสู่การพิจารณาของศาลต่อไป
พ.ต.อ. ณรัชต์ กล่าวว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีสำคัญที่มีผลเกี่ยวพันต่อระบบการค้าระหว่างประเทศ เนื่องจากรัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ยื่นฟ้องรัฐบาลไทย ซึ่งองค์การการค้าโลก (WTO) ซึ่งคณะกรรมการวินิจฉัยข้อพิพาทของ องค์การการค้าโลก ได้วินิจฉัยว่าไทยปฏิบัติไม่สอดคล้องตามความตกลงว่าด้วยการประเมินราคา ศุลกากร (GATT) ซึ่งคดีนี้หากมีความเห็นไม่แย้งกับคำสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการ อาจกระทบต่อความมั่นคงของชาติ หรือต่อผลประโยชน์ของไทย
นายธาริต กล่าวว่า จากการตรวจสอบพยานหลักฐานในการนำเข้าสินค้าบุหรี่ของบริษัทฟิลลิป มอร์ริสฯ โดยการสำแดงราคาสินค้าบุหรี่เป็นเงินสกุลดอลล่าร์สหรัฐในราคาคงที่ และเป็นราคาตายตัวมาตั้งแต่ ปี พ.ศ 2546จนปัจจุบัน ทั้งที่อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรามีการเปลี่ยนแปลงไม่คงที่ และยังมีปัจจัยอื่นที่เกี่ยวกับต้นทุนราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น เมื่อพิจารณาประกอบถึงความสัมพันธ์กันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายมีความเกี่ยว ข้องกัน ซึ่งพฤติการณ์ต่างๆ เป็นเหตุสนับสนุนให้น่าเชื่อว่าราคาที่สำแดงไม่ใช่ราคาที่ซื้อขายกันจริง
ส่วนกรณีที่กรมศุลกากรยืนยันว่าฟิลลิปมอริสฯเสียภาษีถูกต้องแล้วนั้น นายธาริต กล่าวว่า กรมศุลกากรเป็นหน่วยงานหนึ่งที่มีหน้าที่เรื่องการประเมินภาษีแต่กฎหมายไม่ ได้ตัดสิทธิ์หน่วยบังคับใช้กฎหมายอื่นไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือดีเอสไอให้ใช้ ดุลยพินิจในการตรวจสอบหรือการสั่งคดี แต่เมื่อดีเอสไอเห็นต่างก็จำเป็นต้องส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดให้ชี้ขาด
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการสำแดงภาษีอันเป็นเท็จผิดจริง เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรจะต้องรับผิดชอบหรือไม่ นายธาริต กล่าวว่า ต้องดูเป็นเรื่องๆไปเพราะภาระการพิสูจน์อยู่ที่ผู้สำแดง กฎหมายอาญาจะดูจากเจตนาเป็นหลัก
ผู้สื่อข่าวถามว่า การสั่งฟ้องครั้งนี้เพื่อต้องการเอาใจรัฐบาลใหม่หรือไม่ นายธาริต กล่าวว่า ไม่จำเป็นว่าเปลี่ยนรัฐบาลแล้วค่อยมาเห็นแย้ง คดีนี้ถ้าดีเอสไออยากเอาใจรัฐบาลประชาธิปัตย์ก็คงจะสั่งไม่ฟ้องตามความเห็น ของอัยการฝ่ายคดีพิเศษไปนานแล้ว แต่เมื่อกลุ่มงานความเห็นแย้งตรวจสอบหลักฐานในสำนวนพบว่า ผู้ต้องหากระทำผิดจริงจึงมีความเห็นสั่งฟ้อง ที่ผ่านมาคนในรัฐบาลประชาธิปัตย์ก็ไม่ได้เห็นตรงกันทั้งหมด นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็มีความเห็นควรสั่งฟ้อง แต่คนในรัฐบาลบางคนก็เห็นอีกอย่างหนึ่ง คดีนี้หากดีเอสไอจะเอาใจก็เห็นชอบตามอัยการก็ได้ แต่เราทำงานตามหน้าที่และไม่เคยมีการเมืองเข้าแทรกแซงหรือสั่งการใดๆ
Credit: http://www.bangkokbiznews.com/home/deta ... 17/405299/ดีเอสไอสั่งฟ้องคดีภาษีบุหรี่ฟิลลิป-มอร์ริสโยนอสส.ชี้ขาด.html
มาทายกันดีกว่าว่า "นายธาริต เพ็งดิษฐ์ จะหลุดจากตำแหน่ง อธิบดี กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ ) หรือไม่"
มาร์ค ปัญญาอ่อน จะหลุดจากคดีนี้ หรือไม่
http://www.internetfreedom.us/forum/viewtopic.php?f=2&t=6207
http://www.facebook.com/#!/photo.php?fbid=184542751615022&set=a.113791572023474.15857.100001778963097&type=1&theater
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น