|
คอลัมน์ มติชน การเมือง 6 เมษายน 2556
|
ทั้งๆ
ที่พรรคประชาธิปัตย์เคลื่อนไหวเสนอวาทกรรม "แพงทั้งแผ่นดิน" ทั้งๆ
ที่ขุนนางนักวิชาการในทีดีอาร์ไอโหมประโคมความล้มเหลวในเรื่องจำนำข้าว
ทั้งที่การตีปี๊บเรื่อง "หนี้สาธารณะ" เพื่อต้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม
ประสานเข้ากับการชี้ให้เห็นความล้มเหลว เละเทะ ของการหว่านนโยบาย "ประชานิยม" ตั้งแต่ 30 บาทรักษาทุกโรคกระทั่งรถยนต์คันแรก
ดังอย่างอึกทึกครึกโครม ดังอย่างต่อเนื่องกว่า 1 ปีมาแล้ว
กระนั้น ผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอันศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กระทำอย่างต่อเนื่อง เป็นระบบ
ก็ "สวน" อย่างสิ้นเชิงกับ "ความรู้สึก" ข้างต้น ปรากฏว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคประจำเดือนมีนาคม 2556 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ระดับ 84.8 จากระดับ 84 ในเดือนกุมภาพันธ์
เป็นการปรับตัวสูงที่สุดในรอบ 7 ปี หรือ 85 เดือน เหตุผล
สำคัญคือ การบริโภคภาคประชาชนขยายตัวดีขึ้นเป็นลำดับ
จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นอันเนื่องมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจ
ไทย
รวมถึงนโยบายค่าแรง 300 บาท นโยบายการจำนำข้าว
ที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ การสำรวจของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กระทำตั้งแต่เมื่อเดือนมีนาคม 2548
ก่อนการรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549
ระดับ 84.8 ที่ปรากฏในเดือนมีนาคม 2556 ระบุว่าเป็นการปรับตัวสูงที่สุดในรอบ 7 ปี หรือ 85 เดือนที่ผ่านมา
สูงกว่ายุคปลายของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
สูงกว่ายุคของรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ อันมาพร้อมกับปากกระบอกปืนของการรัฐประหาร โดย คมช.
สูงกว่ายุคของรัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช และยุคของรัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ แน่
นอน สูงกว่ารัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
อันมาจากชัยชนะของกระบวนการตุลาการภิวัฒน์อันยืนยันความต่อเนื่องของรัฐ
ประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 อีกคำรบ 1
รัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช และ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ แทบไม่ต้องกล่าวถึง
เพราะ
เป็นรัฐบาลที่ทั้งไม่ได้ "บริหาร" ทั้งไม่ได้ "ปกครอง"
เพราะการต่อต้านโดยพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยประสานเข้ากับพรรคประชา
ธิปัตย์ และขบวนการตุลาการภิวัฒน์อันทำให้พังครืนในเดือนธันวาคม 2551
แล้วเหตุใดรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงได้รับความเชื่อมั่น
หากประเมินจากน้ำเสียง อันปรากฏจากพรรคประชาธิปัตย์ดัชนีความเชื่อมั่นอันปรากฏผ่านการสำรวจของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
น่าจะเป็นเรื่อง "ตลกร้าย" ยิ่งสายตาที่มองด้วยความหมิ่นแคลนจากบุคคลระดับ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล จากบุคคลระดับ นายสมชัย จิตสุชน
ต้องฟันธงว่า "เป็นไปไม่ได้"
กระนั้น
หากติดตามดูสถาบันจัดอันดับของโลก ไม่ว่าฟิตซ์เรตติ้ง
ไม่ว่าจากประเทศญี่ปุ่น กลับมิได้เป็นอย่างที่หลายคนในพรรคประชาธิปัตย์มอง
ความน่าเชื่อถือของไทยอยู่ในระดับ A การ
ออกโรงต้านร่าง
พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน
คมนาคมขนส่งของประเทศ ไม่ว่าโดยขุนนางนักวิชาการ
ไม่ว่าโดยกากเดนเก่าของขบวนการรัฐประหารทั้งในทางเศรษฐศาสตร์และในทาง
นิติศาสตร์
กลับกำลังเป็นหินลองทองคมแหลม
เป็นหินลองทองคม
แหลมเหมือนกับกรณีร่าง พ.ร.บ.รัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม 3
ฉบับผ่านความเห็นชอบวาระ 1 และกำลังถูกสกัด โดยพรรคประชาธิปัตย์ กลุ่ม 40
ส.ว.
ฝ่าย 1 ต้องการการพัฒนา ฝ่าย 1 ไม่ต้องการให้มีการพัฒนา
ทาง 1 มีความพยายามที่จะตรวจสอบรัฐบาล ทาง 1 การตรวจสอบนั้นก็เท่ากับตรวจสอบตนเอง เพราะสิ่งที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แสดงออกคือความต้องการการทำงาน เพราะสิ่งที่ขบวนการตรวจสอบแสดงออกคือ ความไม่ต้องการให้มีการทำงาน
ทั้งหมดนี้ล้วนอยู่ในสายตาของประชาชน
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น