คนละมาตรฐาน
วงค์ ตาวัน
วันที่ 01 สิงหาคม พ.ศ. 2556
ข่าวสดออนไลน์
ข้อเท็จจริงง่ายๆ ซึ่งประชาชนทั้งประเทศประจักษ์ชัดด้วยตาตัวเองก็คือ ในขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ยืนกราน ต่อต้านพ.ร.บ.นิรโทษกรรมอย่างหัวชนฝา
รวมทั้งยังพูดจาอย่างเลิศหรูว่า จะต่อสู้คดีอย่างถึงไหนถึงกัน จะไม่ขอนิรโทษกรรม
พร้อมจะยอมเข้าคุกถ้าผิดจริง
นั่นคือคำพูดของนักการเมืองที่ได้ชื่อว่า เก่งกาจด้านการพูดจา ดีแต่พูด
แต่ในความเป็นจริงก็คือ นักการเมืองทั้งสองตกเป็นผู้ต้องหาคดีร้ายแรงหลายคดี แต่ยังไม่เคยเข้าคุกแม้แต่วันเดียว!!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคดี 99 ศพ ซึ่งศาลมีคำสั่งผลไต่สวนออกมาหลายศพแล้วว่า ตายด้วยกระสุนของเจ้าหน้าที่ศอฉ.
จากนั้นกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้แจ้งข้อหาร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล ไปจนถึงร่วมกันก่อให้ผู้อื่นพยายามฆ่าคนตาย
นับจากเหตุการณ์สิ้นสุดลงพร้อมคนตายร่วมร้อยศพ ในเดือนพฤษภาคม ปี 2553
ในความจริงที่ประจักษ์ชัดต่อสายตาคนทั้งประเทศคือ คนทั้งสองไม่เคยต้องถูกคุมขังแม้แต่วันเดียว!?!
จริงอยู่ คดีทั้งหลายเป็นแค่ข้อกล่าวหา ยังถือว่าเป็น ผู้บริสุทธิ์
ขณะ ที่คนเสื้อแดงที่ถูกกวาดจับเมื่อช่วงเหตุการณ์ปี 2553 ยุคที่คนทั้งสองมีอำนาจในนามศอฉ.นั้น ก็ยังไม่ได้รับการตัดสินคดีเป็นส่วนใหญ่ แต่ต้องเข้าคุกกันมากมาย และหลายคนยังติดอยู่ในกรงขังจนบัดนี้
กระบวนการคดีที่ล่าช้า กระบวนการยื่นขอประกันตัวที่ไม่สำเร็จ
อีกพวกหนึ่งก็เช่นกัน แกนนำม็อบฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล ถูกดำเนินคดีร้ายแรง ก่อการร้าย ยึดสนามบิน ยึดทำเนียบรัฐบาล
ตั้งแต่ปี 2551 จนถึงบัดนี้ คดีไปไม่ถึงไหน
ที่สำคัญไม่เคยมีแกนนำฝ่ายนี้เดินเข้าคุกแม้แต่คดีเดียวเช่นกัน
จึงเป็นคำอธิบายอีกด้านหนึ่ง สำหรับท่าทีของนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ และแกนนำม็อบต้านรัฐบาล ที่ต่อต้านนิรโทษกรรม
เพราะคนเหล่านี้จะโดนกี่คดีก็ไม่เคยต้องเข้าคุก
ด้านหนึ่งเห็นด้วยว่า ผู้กระทำผิดในคดีทางการเมืองนั้น ไม่ควรนับเป็นอาชญากร และไม่ควรถูกคุมขัง
แต่อีกด้าน มาตรฐานนี้ กลับไม่อาจใช้ในหมู่ ผู้ถูกดำเนินคดีฝ่ายเสื้อแดง เพราะติดคุกกันระนาว
ฝ่ายพรรคเพื่อไทยจึงเลือกวิธีออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรม
อีกฝ่ายที่มีคดีมากมายแต่อยู่อีกมาตรฐาน โดดขวางเต็มที่!
|
|||
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น