วันพุธที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2556

พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ปาฐกถาที่ประชุม ACD ปลุกเอเชียร่วมสร้างเส้นทางสายไหมยุคใหม่


ปาฐกถาที่ประชุม ACD ปลุกเอเชียร่วมสร้างเส้นทางสายไหมยุคใหม่

พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ได้รับเชิญจากนายเอมอมาลี ราห์มอน ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐทาจิกิสถาน เป็นแขกเกียรติยศปาฐกถาในพิธีเปิดการประชุมระดับรัฐมนตรีกรอบความร่วมมืออา เซีย (ACD) ครั้งที่ 11 ณ กรุงดูชานเบ สาธารณรัฐทาจิกิสถาน เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2556

รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเชิญมาร่วมการประชุม ACD ครั้งที่ 11 ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรก ณ สาธารณรัฐทาจิกิสถาน ประเทศซึ่งเปี่ยมล้นไปด้วยแหล่งอารยธรรมและศิลปวัฒนธรรมอันเลอค่า และขอขอบคุณรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐทาจิกิสถานที่ให้เกียรติเชิญมาปาฐกถาใน วันนี้ ซึ่งในโอกาสที่ได้กลับมาเมืองดูชานเบ ในครั้งนี้ทำให้อดหวนคิดถึงอดีตไม่ได้ โดยเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2549 เป็นวันที่ผมเดินทางมาเยี่ยมเยียน สาธารณรัฐทาจิกิสถานอย่างเป็นทางการประเทศสุดท้าย ขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งสิบวันหลังจากนั้นก็เกิดการรัฐประหารขึ้นในประเทศไทยขณะที่ผมยังปฏิบัติ ราชการในต่างประเทศ

ACD ถือกำเนิดที่ประเทศไทย ในเดือนมิถุนายน 2545 ซึ่งในครั้งนั้นมีประเทศผู้ร่วมก่อตั้ง ACD 18 ประเทศมาร่วมประชุมด้วยกัน ทำให้บรรยากาศอบอุ่นมากสำหรับความตั้งใจในการที่จะรวมตัวเป็นอันหนึ่งอัน เดียวกัน หากมองย้อนกลับไปเกือบ 10 ปีก่อน ที่เป็นช่วงเวลาที่ท้าทาย เพื่อผลักดันให้เกิดความร่วมมือกันในภูมิภาคแห่งนี้ ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน ในเวลานั้นประเทศต่างๆ ในทวีปอื่นเริ่มมีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มแล้ว แต่ประเทศในทวีปเอเชียยังไม่ได้คิดถึงการรวมตัว โชคดีที่ว่ากลุ่มประเทศอาเซียนมีการรวมศูนย์กันอยู่แล้ว ประกอบกับการยอมรับและได้รับการสนับสนุนจากมิตรประเทศในแถบเอเชียตะวันออก เอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกกลาง ทำให้เอเชียของเราสามารถหลอมรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้จากทุกมุมทวีป จากเหนือจรดใต้ จากตะวันออกจรดตะวันตก และนั่น จึงก่อเกิด ACD ขึ้นมา

นับตั้งแต่วันที่มีความหมายนั้นเป็นต้นมา ผมยินดีที่จะบอกว่าองค์กรของพวกเราเติบโตขึ้นด้วยความมั่นคงและทรงพลัง นับตั้งแต่ปี 2545 มีประเทศสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว โดยในเวลานี้มีประเทศสมาชิกแล้ว 32 ประเทศ ซึ่งได้แก่ประเทศสมาชิกจากโซนเอเชียตะวันออกกลางและเอเชียใต้ ซึ่งเป็นการรวมตัวกันเป็นกลุ่มที่มีขนาดครอบคลุมไปทั้งทวีป

ซึ่งการรวมตัวเป็นกลุ่มประเทศ อย่าง ACD มีความจำเป็น สำหรับภูมิภาคของเรา และผมเชื่อว่ามีความสำคัญไม่มากก็น้อยจึงขออนุญาตนำมาพูดซ้ำอีกครั้งใน วันนี้

ทวีปเอเชีย มีประชากรมากกว่าสี่พันล้านคน นับเป็น 60% จากจำนวนประชากรทั้งโลก มีตลาดการค้าขายที่ใหญ่ มหึมาและเป็นแหล่งรวมทรัพยากรมนุษย์อันมีค่า ที่นี่คือที่ที่มีดินแดนกว้างใหญ่ ขนาดราว 30% ของเปลือกโลก และที่นี่มีความหลากหลายของทรัพยากรธรรมชาติปริมาณมหาศาล และยังเป็นดินแดนที่เศรษฐกิจเติบโตสูงที่สุดในโลก เป็นภูมิภาคหลักที่ผลักดันความเจริญของโลกในตลอดหลายสิบปีมานี้ ปริมาณการส่งสินค้าของออกของภูมิภาคนี้ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอด หลายสิบปีมานี้ และปัจจุบันมูลค่าการค้าขายของเอเชียมีปริมาณ30% ของการค้าขายทั้งโลก

ในระยะเริ่มต้นของการก่อตั้ง ACD เอเชียมีทุนสำรอง สะสมรวมกันประมาณหนึ่งล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณครึ่งหนึ่งของทุนแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ แต่วันนี้เปอร์เซ็นต์ของจำนวนดังกล่าวสูงขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ

ไม่เพียงแต่ขนาดของเศรษฐกิจในเอเชียที่มีการขยายตัวอย่างมาก แต่การขยายตัวยังรวมไปถึงการขยายตัวในมิติอื่นๆ เช่น ศาสนาและศิลปวัฒนธรรม เอเชียเป็นแหล่งกำเนิดของศาสนาสำคัญ รวมไปถึงมีสิ่งมหัศจรรย์ของโลกโบราณ สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่หลายสิ่ง และเอเชียก็ยังเป็นหนึ่งในดินแดนที่เป็นต้นกำเนิดของอารยธรรมโบราณนับย้อน หลังได้หลายพันปี

หากมองข้ามฉากหลังของความมั่งคั่ง เราก็ต้องยอมรับว่าในอีกหลายๆ พื้นที่ในเอเชีย ประชากรของเรายังคงมีฐานะยากจนอยู่ และมันรบกวนความรู้สึกของผมที่ว่าจำนวนประชากรที่ยากจนนั้นมีอยู่จำนวนมาก และไม่ได้รับการเอาใจใส่ แม้ว่าเรามีการแลกเปลี่ยนอารยธรรมระหว่างกันและกันมาตั้งแต่โบราณกาล แต่เอเชียก็ยังคงแข่งขันระหว่างกัน และหลายครั้งที่พาให้ประเทศพัวพันกับความขัดแย้งระหว่างกัน ซึ่งน่าเสียดายเพราะเราน่าจะทำให้เกิดความพยายามที่จะร่วมมือกัน และนำพาความเข้มแข็งมาสู่ภูมิภาคนี้

ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น ผมเล็งเห็นว่าการรวมตัวเป็นกลุ่มลักษณะนี้จะช่วยทำให้เกิดการเจรจาต่อรองและ ร่วมมือระหว่างกัน เป็นเครื่องมือในการเปลี่ยนแปลงความขัดแย้ง ความแตกต่างไปสู่ผลประโยชน์ที่ต่างฝ่ายต่างยอมรับได้ ซึ่งจะเป็นหนทางสร้างความเข้มแข็งในหมู่ประเทศสมาชิกและขยายฐานพันธมิตรต่อ ไปยังภูมิภาคอื่น

ท่านผู้มีเกียรติทั้งหลาย ผมมีความภาคภูมิใจที่ได้เห็นการเติบโตก้าวหน้าและการเพิ่มจำนวนประเทศสมาชิก ใน ACD ตลอดระยะเวลาที่ผมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย อย่างไรก็ตามหลังจากที่พ้นตำแหน่งในปี 2549 ผมพบว่ามีความกระตือรือร้นลดลงและมีประเทศสมาชิกมาเพิ่มใหม่เพียง 2 ประเทศ ดังนั้นในวันนี้จึงขอให้พวกท่านทั้งหลายหันมาฟื้นฟู ACDให้เป็นพลวัตใหม่ให้กับทุกชีวิต

ในช่วงเวลานี้ จะเห็นว่าประเทศหลายๆ ประเทศในภูมิภาคอื่นของโลกประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจและการเงินอย่างหนัก แต่เอเชียของเรายังคงมีความแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพดีอยู่มาก ดังที่เห็นว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นผลมาจากการขยายตัวของเศรษฐกิจจาก เอเชีย แต่ถึงแม้ว่าการขยายตัวในภูมิภาคนี้ของเรายังเป็นไปด้วยดีอยู่ ก็ยิ่งควรที่จะรวมกลุ่มกัน เพราะช่วยกันเสริมสร้างความแข็งแกร่งระหว่างกัน จะได้เป็นการเพิ่มโอกาสในการแข่งขันต่อภูมิภาคอื่นด้วย

พวกเราส่วนใหญ่ล้วนเป็นผู้ผลิตสินค้าหลักให้กับผู้บริโภคในภูมิภาคอื่น แต่ก็ต้องยอมรับว่าเรายังอ่อนด้อยเรื่องการสร้างมูลค่าเพิ่มในสินค้าที่ส่ง ออก ดังนั้นแทนที่เราจะต้องมาแข่งขันตัดราคากันเอง การรวมตัวเป็น ACD จะช่วยทำให้ลดการแข่งขันและลดความขัดแย้งในหมู่ประเทศสมาชิกได้

เอกอัครราชทูต ผู้มีเกียรติ สุภาพสตรีและสุภาพบุรุษทุกท่าน สองพันปีก่อน บรรพบุรุษของพวกเราได้ทำการค้าขายตามเส้นทางโบราณอันเลื่องชื่อ เส้นทางสายไหม บนถนนแห่งประวัติศาสตร์ที่มีความยาวกว่า 8,000 กิโลเมตรสายนี้ เริ่มต้นจากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนทอดผ่านบางส่วนของสาธารณรัฐทาจิกิสถาน ไปสู่ตะวันออกกลาง เมดิเตอร์เรเนียน ยุโรป และแอฟริกา เส้นทางการค้านานาประเทศสายนี้เป็นถนนสำคัญของการแลกเปลี่ยนสินค้า ความรู้และเทคโนโลยี รวมไปถึงศาสนา ปรัชญาและศิลปวัฒนธรรม

การที่เรามีโอกาสพูดคุยเชื่อมโยงกันในภูมิภาคในวันนี้ เปรียบได้กับว่าพวกเรากำลังสร้างเส้นทางสายไหมยุคใหม่ โดยการเชื่อมโยงประเทศสมาชิก ACD แล้วโยงต่อไปยังภูมิภาคอื่น ผ่านระบบถนน ระบบทางรถไฟ การเดินเรือและการเดินทางทางอากาศ ซึ่งถือเป็นฮาร์ดแวร์หลัก อย่างไรก็ตาม ก็ต้องไม่ละเลย ซอฟต์แวร์ ซึ่งมีความสำคัญระดับเดียวกัน คำว่าซอฟต์แวร์ก็หมายถึง วัฒนธรรม ศาสนา อารยธรรมที่สืบเนื่องมาอย่างยาวนานของหมู่ประเทศสมาชิก ซึ่งทั้งสององค์ประกอบนี้จะช่วยสร้างให้เราได้เส้นไหมที่สุดพิเศษ ที่มีความยืดหยุ่นสูง สง่าและประเมินค่าได้ยาก

และขอถือโอกาสนี้เรียนเชิญทุกท่านร่วมเดินทางบนเส้นทางสายไหมยุคใหม่ ร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งบนถนนแห่งความเกียรติยศ ยิ่งใหญ่ และเจริญรุ่งโรจน์ตลอดไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น