ประกาศเครือข่ายประชาธิปไตย
พี่น้องประชาชนที่รักทั้งหลาย
เมื่ออำนาจโบราณเหนือรัฐ ได้ทำรัฐประหาร โค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งจากคะแนนเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนลง เมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ และได้ทำการฉีกรัฐธรรมนูญ พ.ศ.๒๕๔๐ พร้อมกับแต่งตั้งพรรคพวกของตนเองสวมแทน เข้าไปใช้อำนาจของประชาชนในทำเนียบรัฐบาล และองค์กรกลไกรัฐอื่นๆ เสียเอง อย่างไร้ยางอาย นั้น ในชั้นต้น ประชาชนได้หวังกันว่า รัฐประหารครั้งนี้จะสิ้นสุดลงในเวลาอันรวดเร็ว ด้วยการคืนอำนาจรัฐแก่ประชาชนโดยดี จากการต่อสู้ด้วยการร้องขอ และการสละชีวิตของคุณลุงนวมทอง ไพรวัลย์ ลุงณรงค์ศักดิ์ กรอบไธสงค์ และอีกหลายชีวิตที่บาดเจ็บล้มตายจากการต่อต้านรัฐประหารในเวลาต่อๆ มา แต่การณ์หาเป็นไปตามที่คิดไม่ ชนชั้นเผด็จการยังคงแข็งกร้าว ยึดเอาอำนาจ วางตนอยู่เหนือกฎหมายตามเดิม มิหนำซ้ำ ยังเหิมเกริมคุกคามท้าทายอำนาจของประชาชน จนถึงกับใช้กองทัพและอาวุธสงครามเข้าโอบล้อมระดมยิงสังหารหมู่ประชาชนในวันที่ ๑๐ เมษายน จนถึง ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ทำให้ประชาชนบาดเจ็บ ล้มตาย สูญหาย เสียชีวิต และทรัพย์สินจำนวนมาก เกียรติภูมิของประชาชนผู้เป็นต้นธารการผลิตหาเลี้ยงสังคม ถูกทำลายลงอย่างย่อยยับ พร้อมกับการถูกใส่ร้าย ป้ายสี จับกุม ไล่ล่าสังหารอย่างไม่ขาดสาย แทนที่ชนชั้นเผด็จการเหนือรัฐจะสำนึกผิดคืนอำนาจแก่ประชาชน กลับพากันก่อการฆาตกรรม และเข้าฮุบ สูบโกยเอาภาษีเงินกองกลางของส่วนรวมไปอีก จำนวนมหาศาล ทั้งยังก่อหนี้สิ้นไว้ให้ประชาชนชดใช้อีกด้วย ลูกหลาน และประชาชนคนรุ่นหลังต้องแบกรับภาระ จากการปล้นชิงสมบัติส่วนรวมของคณะรัฐประหารครั้งนี้ การกระทำของคณะรัฐประหารเป็นดุจดั่งมหาโจรที่ปล้นฆ่า ข่มขืน เจ้าทรัพย์ และจับเจ้าทรัพย์ให้เป็นเชลยทางชนชั้น หาเลี้ยงชนชั้นเผด็จการตลอดไป โดยผูกมัดด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๕๐ ที่พวกเขาทำขึ้น
เมื่อชนชั้นเผด็จการได้ปล้นชิงอำนาจประชาชน และเข้าปกครองอย่างโหดร้ายทารุณ และหลอกลวงต่อประชาชน เช่นนี้
เครือข่ายประชาธิปไตย (คปต.) ที่มีสมาชิกทั่วประเทศ ๓๓ องค์กร ได้ประชุมหารือ และพร้อมใจกันประกาศการต่อสู้กับคณะรัฐประหารทุกรูปแบบ รวมทั้งต่อต้าน การรัฐประหารที่ชนชั้นเผด็จการเหนือรัฐกำลังจะกระทำซ้ำอีก ไม่ว่าจะเป็น การรัฐประหารซ่อนรูปโดยตุลาการ โดยทหาร หรือโดยการฉ้อฉลทางรัฐสภาและองค์กรอิสระก็ตาม จึงขอประกาศให้ วันที่ ๑๙ กันยายน ของทุกปี เป็น “วันต้านรัฐประหารแห่งชาติ” สืบไป
พร้อมนี้ เครือข่ายประชาธิปไตย จะร่วมมือกับประชาชน องค์กร สมาชิกรัฐสภา นักวิชาการ นักศึกษา และผู้รักชาติรักประชาธิปไตยทุกสาขาอาชีพ ในการผลักดันให้เกิดการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๕๐ ซึ่งเปรียบได้กับกฎหมายโจร ฉบับนี้ ด้วยการต่อสู้ รณรงค์ อย่างถึงที่สุด จนกว่า จะมีรัฐธรรมนูญฉบับของประชาชนขึ้นมาใหม่
จึงขอให้ประชาชนทั้งหลาย จงพร้อมกันช่วยสนับสนุน เครือข่ายประชาธิปไตย ในการรวบรวมรายชื่อ ๒๐,๐๐๐ รายชื่อ เพื่อยื่นต่อรัฐสภาให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.๒๕๕๐ ทั้งฉบับ และโปรดเข้าร่วมชุมนุม รณรงค์ ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ สร้างมติมหาชนในการสร้างรัฐธรรมนูญของประชาชนฉบับใหม่ ให้สำเร็จสืบไป
เครือข่ายประชาธิปไตย
๑๙ กันยายน ๒๕๕๔
.....วาทะกรรม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น