วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2554

"วงศักดิ์แฉเหตุเด้ง! "ขัดคำสั่งไม่ส่งปืนลูกซองให้ ศอฉ.ฆ่าเสื้อแดง"


ที่มา มติชนรายสัปดาห์ ๑๙-๒๕ ส.ค.๒๕๕๔ ปีที่ ๓๑ ฉ.๑๖๑๘ หน้า ๔๐

"สัมภาษณ์ พิเศษ"อธิบดีกรมการปกครอง วงศ์ศักดิ์ สว้สดิ์พาณิชย์:เปิดเบื้องหลังไม่ส่งปืนลูกซองฆ่าเสื้อแดง สาปส่งนักการเมือง ทำชาติหายนะ

หลัง จากนายวงศ์ศักดิ์ ถูกคำสั่ง ครม.สมัยรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ โยกย้ายจากอธิบดีกรมการปกครองไปเป็นผู้ตรวจราชการ ก.มหาดไทยเมื่อวันที่ ๒๗ เม.ย.๕๓ ตามที่ก.มหาดไทย ที่มี นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล เป็น หน.ภท. รมว.มท. เป็นผู้เสนอ มีผลตั้งแต่วันรุ่งขึ้น ทั้งๆ ที่เพิ่งเป็นอธิบดีกรมการปกครองมาได้ ๑ ปี ๕ เดือน

ในที่สุด นายวงศ์ศักดิ์ ก็กลับมารับตำแหน่งเดิม ในวันที่ ๓ ส.ค.๕๔ รวมเวลาที่นายวงศ์ศักดิ์ ถูกดอง ๑ ปี กับ ๓ เดือนเศษ

การ ร้องทุกข์ต่อ คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) ว่าถูกไม่ชอบด้วยกฎหมาย ๔ เรื่อง ต่อมา ก.พ.ค. ก็มีคำวินิจฉัยให้ความเป็นธรรม ทำให้กลับมานั่งเก้าอี้เดิมอีกครั้ง เหลือเวลาแคเดือนเศษก็จะเกษียณ

สาเหตุ ประการหนึ่งที่ถูกย้ายเกี่ยวกับ "ปืนลูกซอง" และ "นักการเมือง" นั่นคือ กรณี นายสุเทพ ผอ.ศอฉ.สั่งการด้วยวาจาทางโทรศัพท์ให้ นายวงศ์ศักดิ์ (อธิบดีกรมการปกครอง) สนับสนุนอาวุธปืนลูกซอง ๕ นัด จำนวน๓,๐๐๐ กระบอก พร้อมกระสุน ส่งมอบให้ ศอฉ. แต่นายวงศ์ศักดิ์ ชี้แจงว่า ตนไม่มีอำนาจสั่งผู้ว่าฯ แต่ปลัด ก.มหาดไทย (นายวิเชียร ชวลิต-บักฮูขี) มีอำนาจบังคับบัญชาผู้ว่าฯ จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่นายสุเทพ ผอ.ศอฉ. ประสานงานมายัง ก.มหาดไทยให้มีการสั่งย้ายนายวงศ์สวัสดิ์

ต่อไปนี้คือการให้สัมภาษณ์ (ขอใช้สัญลักษณ์ตัวอักษร Q = คำถาม, A = คำตอบ)

Q : เรื่องปืนลูกซองยาว ๕ นัด จำนวน ๓,๐๐๐ กระบอกที่ไม่ส่งให้ ศอฉ. จึงถูกสั่งย้ายคนมีอำนาจตอนนั้นต้องการปืนไปปราบเสื้อแดงที่มาชุมนุม เม.ย.-พ.ค.๕๓

A เขา โทร.มาหาผมโดยตรง ผู้มีอำนาจใน ศอฉ. เป็นข้าราชการการเมือง มีตำแหน่งสำคัญใน ศอฉ. โทร.มาเอง เขาคงจะเอาไปใช้ปราบคนเสื้อแดง ผมก็บอกไปว่า ปืนนี้เป็นปืนที่ส่งไปให้ ชรบ. ชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน ตามชายแดน เป็นปืนราชการที่ส่งไปเพื่อใช้ป้องกันพวกยาเสพติด พวกรักษาความสงบตามชายแดน ผมไม่มีอำนาจที่จะไปเอาคืนมาได้ ก็พูดไปอย่างนี้ เราปฏิเสธไปเลย บอกว่า การที่จะสั่งการไปยังผู้ว่าฯ แล้วก็ส่งไปให้ ศอฉ. นั้นน่ะ เป็นการใช้ปืนผิดประเภท

- ใน ใจส่วนลึกของผมนั้น บอกตรงๆ ว่า การที่จะใช้ปืนลูกซองยาวไปปราบพี่น้องคนไทยนั้น ผมไม่เห็นด้วย ไม่ว่าจะเสื้อสีใดก็แล้วแต่ ปืนนี่ก็เอาไปใช้ยิงกันน่ะ ใช่ไหมฮะ ผมไม่เห็นด้วย มันเป็นเรื่องคุณธรรม เป็นเรื่องมนุษยธรรม ความคิดเห็นที่แตกต่างกันนั้น ควรจะคุยกันรู้เรื่อง แก้ไขทางการเมือง ไม่ใช่มาแก้ไขด้วยอำนาจ ด้วยกระบอกปืน นี่ก็เป็นส่วนลึกในจิตใจของผม

- ใน ทางกฎหมาย เราไม่สามารถสั่งปืนพวกนี้ไปใช้นอกวัตถุประสงค์นั้นได้ ปรากฏว่า ทางโน้นไม่พอใจ คล้ายกับว่า เราไม่ให้ความร่วมมือ แล้วเขาก็วางสายเลย

- ฝากสื่อมวลชนไปติดตามดูหน่อยว่า ปืนที่ทางจังหวัดส่งไปให้ ศอฉ. ช่วงที่ผมถูกย้าย ยังได้คืนไม่ครบ ๓,๐๐๐ กระบอก เป็นความรับผิดชอบของใคร ปืนของหลวง เมื่อเอาไปใช้แล้วก็ต้องเอากลับมาที่เดิม

...................................

Q : เหตุ จลาจลนองเลือดเดือนเมษายน-พฤษภาคม ๒๕๕๓ มีการสลายคนเสื้อแดง มีการเผาเมือง เผาศาลากลางจังหวัด คิดว่าเป็นความบกพร่อง ผิดพลาดของกรมการปกครองหรือทางจังหวัดด้วยหรือไม่

A : เอา เป็นว่า ที่เกี่ยวข้องนะ หนึ่ง รัฐบาล สอง กระทรวงมหาดไทยที่ชัดเจน สำหรับรัฐบาลนั้น ผมคิดว่า ถ้าเราใช้นโยบายการเมืองนำในการเจรจา พูดคุยกับกลุ่มคนเสื้อแดง เสื้อเหลือง หรือสีอะไรต่างๆ ที่เกิดม็อบ เจรจากับแกนนำในพื้นที่ และในกรุงเทพฯ ถ้าลงตัวกันตรงนั้น มันไม่น่ามีปัญหา

- ใคร จะใส่เสื้อสีอะไร เป็นสัญลักษณ์เฉยๆ แต่ดูสิว่า ม็อบเขาออกมาเพื่ออะไร เขาต้องการให้ยุบสภาแล้วเลือกตั้งใหม่ เพราะอะไร อย่างนี้ต้องว่ากันไปตามเกมการเมือง แต่ว่ามีการปราบปราม มีการฆ่า ผมไม่เห็นด้วย

...................................

Q : ช่วง หาเสียง คุณเฉลิม อยู่บำรุง ปราศรัยว่าจะย้ายผู้ว่าฯ ถือเป็นเรื่องผิดปกติของการเป็นข้าราชการหรือเปล่าที่นักการเมืองแสดงออก เช่นนี้

A : ถ้าผมเป็นท่านเฉลิม บางทีถ้าเกิดไปเห็นเหตุการณ์ ไปเห็นข้อเท็จจริง ถ้าเห็นนะ ผมอาจจะพูดมากกว่านั้น อาจจะย้ายมากกว่านั้น

- เรา มาดูว่า ผู้ว่าฯ นี่ วุฒิภาวะ และอำนาจหน้าที่หรือเกียรติศักดิ์ศรีของผู้ว่าฯ เป็นอย่างที่ท่านเฉลิมว่าหรือเปล่า ถ้าเป็นอย่างที่ท่านว่า นั่นก็คือ ทำตัวเข้าไปเป็นเด็กรับใช้ของฝ่ายการเมือง แล้วก็ไปปลุกปั่นประชาชน โดยไม่ได้สร้างความปรองดอง สร้างความแตกแยกแตกสามัคคีอยู่ตลอดเวลา ผมก็ว่า ไม่ควรเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด

- สรุปสั้นๆ ก็คือ ผู้ว่าฯ ทุกคนต้องวางตัวเป็นกลาง ส่วนตัวนั้นจะนิยมชมชอบใคร ก็อยู่ในครอบครัว ในตัวเอง อย่าเอามาเกี่ยวกับงาน

...................................

Q : การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการในมหาดไทยสมัยที่พรรคภูมิใจไทยมาคุมกระทรวงนี้เป็นอย่างไร เห็นมีข่าวอื้อฉาวอยู่ตลอด

A : ผม มีความรู้สึกว่า การโยกย้าย แต่งตั้ง มันเอาแต่พรรคพวกกันขึ้นมา แล้วก็ข้ามหัวข้ามหาง เพราะฉะนั้น คนที่เขาทำงานดีอยู่แล้ว ดูผมเป็นตัวอย่าง ไม่ใช่ว่าตัวเองทำดีหรอกนะ ก็ดูที่ผลงานที่ออกมานะ ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดแล้วถูกย้ายไปนี่ ยังมีข้าราชการอื่นๆ อีก เขาทำงานในพื้นที่ของเขาเป็นปกติดีอยู่แล้ว ก็ย้ายเขาออกไป ตั้งแต่ผู้ว่าฯ ลงมาถึงข้าราชการผู้น้อย รวมไปถึงอธิบดีกรมต่างๆ ในกระทรวงมหาดไทย

...................................

Q : ๑ เดือนครึ่งที่เหลือจะทำอะไร

A : ผม จะเยียวยาข้าราชการ โดยเฉพาะนายอำเภอที่ถูกกลั่นแกล้ง นายอำเภอเกรดเอ หรืออำเภอชั้นหนึ่ง ย้ายไปเป็นนายอำเภอชั้นสี่โดยไม่มีเหตุผลอะไร ย้ายไปดื้อๆ แล้วไปย้ายนายอำเภอเกรดสี่ ขึ้นมาเกรดเอ ผมคงจะโยกย้ายอีกครั้งเพื่อความเป็นธรรม

...................................

Q : การโยกย้ายนายอำเภอและผู้ว่าฯ ถามจริงๆ ว่ามีการซื้อเก้าอี้หรือเปล่า เขาซื้อกันเท่าไร

A : ก็ มีทั้งได้ยินข่าว มีทั้งคนมาบอกเล่า มีทั้งคนที่จ่ายเงินไปแล้วแต่ไม่ได้ มีคนมาเล่าให้ฟัง อย่างเข้าโรงเรียนนายอำเภอ บางคนก็บอก ๗ แสน, ๘ แสนมั่ง, ล้านมั่ง แต่ถ้า ขึ้นเป็นผู้ว่าฯ ก็ ๕ ล้าน, ๑๐ ล้านไปโน่น หนังสือพิมพ์ก็เคยลง รวมทั้งมีคนมาเล่าให้ผมฟัง

...................................

Q : นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แสดงภาวะผู้นำอย่างไรกรณีท่านถูกย้ายเข้ากรุมหาดไทย

A : ผม เองเคยไปคุยกับท่านครั้งหนึ่งหลังผมถูกย้ายไปเป็นผู้ตรวจฯ ผมไปชี้แจงท่านครั้งหนึ่งปัญหาเรื่องสมาร์ทการ์ด ท่านนายกฯ ก็บอกว่า เอ๊ะ มันใช้ได้นี่ บัตรสมาร์ท การ์ด มันไม่ผิด น่าจะเป็นประโยชน์ ท่านบอกว่า ท่านก็หนักใจ เพราะว่าท่านไม่ได้เป็นรัฐบาลพรรคเดียว ใครจะว่าพายเรือให้โจรนั่งก็ทนฟัง ท่านก็พูดอย่างนี้

...................................

Q : ถือว่าหนักหนาสาหัสไหมสำหรับการเล่นพรรคเล่นพวกในการแต่งตั้งโยกย้ายในมหาดไทยยุคคุณชวรัตน์

A : สื่อ มวลชนก็ลงมาตลอดนะว่า เป็นยุคที่เสื่อมที่สุด สื่อเกือบทุกฉบับ บางคนก็บอกว่า ตั้งแต่มีประวัติศาสตร์ตั้งกระทรวงมหาดไทยมา มียุคนี้ล่ะ เสื่อมที่สุด บางฉบับก็บอกว่า ในยุคร้อยปีที่ผ่านมา

- ข้า ราชการเก่าแก่ ผู้บังคับบัญชาเก่าๆ ทุกคน ไม่มีใครไม่โทร.ถึงผมเลยนะ อดีตผู้บังคับบัญชาระดับปลัดกระทรวง รัฐมนตรีก็มีรัฐมนตรีกระทรวงอื่น ก็มี ที่เป็นข้าราชการประจำแล้วมาเป็นรัฐมนตรีก็โทร.มาบอกว่า ไม่มียุคไหนที่เสื่อมยิ่งกว่านี้ มันเหมือนกับยุคมืด อันนั้นเป็นความคิดคนทั่วไป ผมก็มีความคิดเช่นเดียวกันนั้นแหละ

...................................

Q : ฝ่ายการเมืองที่มาคุมมหาดไทยแล้วทำผิดกฎหมายที่เพิ่งพ้นอำนาจไป จะมีช่องทางได้รับโทษหรือไม่

A: พวก นี้นะ ทำให้ประเทศหายนะ ไม่ควรกลับมาทำงานการเมืองต่อ ถ้ากลับมาทำอีก จะทำให้ประเทศหายนะหนักเข้าไปอีก ผมยังคิดไว้ว่า ถ้ามาเจอแบบที่ผมเคยเจอแล้ว แล้วคนพวกนี้ยังเข้ามาทำงานอีก ผมคงหนีไปอยู่ประเทศลาวสักพักหนึ่ง มันรับไม่ได้

นี่ผมพูดจริงๆ ไม่ได้พูดเล่น ๏

ที่มา มติชนรายสัปดาห์ ๑๙-๒๕ ส.ค.๒๕๕๔ ปีที่ ๓๑ ฉ.๑๖๑๘ หน้า ๔๐

http://www.go6tv.com/2011/08/blog-post_3585.html

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ24 สิงหาคม 2554 เวลา 00:13

    นอกลู่แต่ไม่นอกทาง...ทำถูกแล้วครับ

    ตอบลบ