"บ้านที่แตกแยกกันเอง
ไม่อาจตั้งอยู่ได้ "
[ A House divided against it self cannot stand ]
ชีวิตการเมือง
คนที่รู้จักลิ นคอร์นตั้งแต่สมัยที่เขายังไม่ได้ลงสนามการเมืองการเลือกตั้ง กล่าวว่า ไม่มีอะไรในชีวิตที่มีความหมายและสำคัญแก่เขามากเท่าการเมือง เขาหายใจเข้าออกเป็นการเมืองหมด พูดได้ว่าลินคอร์นตกหลุมรักการเมืองตั้งแต่เขาเริ่มแตกหนุ่มและฟังความในการ ปราศัยหาเสียงของนักการเมืองได้รู้เรื่อง แต่ลินคอร์นก็ไม่ใช่นักการเมืองมีอุดมการณ์ แรงกล้าหรือมีความคิดการเมืองก้าวหน้าเหมือนอย่างประธานเหมาเจ๋อตง ตรงกันข้าม ลินคอร์น
ชอบเเละอยากเล่นการเมืองเหมือนคนหนุ่มๆ
ในหัว เมืองทั้งหลายกล่าวกันว่าคนหนุ่มที่ไม่มีการตระเตรียมในอาชีพทางธุรกิจมา ก่อนเพราะยากจนหรือไม่มีเส้นสายนั้น หนทางแห่งอาชีพในหัวเมืองแถวนั้นได้แก่ หนึ่ง ทำงานใน โบสถ์ สอง ในสำนักงานกฎหมาย และสุดท้าย ในวงการเมือง ลินคอร์นเป็นพระและศาสนจารย์ไม่ได้ เพราะเขาอ่านและชอบความคิดการเมืองของ ทอม เพนน์ซึ่งเป็นนักปฎิวัติและนักวิพากษ์ ระบอบกษัตริย์และศาสนา เป็นนักกฎหมายหรือนักธุรกิจก็ยาก เนื่องจากลินคอร์นไม่ได้มีเส้นสายจากครอบครัวญาติพี่น้อง เขาจึงตั้งความหวังไปที่การเมืองว่าจะเป็นคำตอบให้แก่อนาคตของคนสามัญที่ไม่ มีอะไรเลย
**ประวัติครอบครัวของลินคอร์นนั้นเป็นประวัติของคนรากหญ้าสามัญจริงๆ ไม่ได้สวยหรูร่ำรวยมีเชื้อผู้ดีแปดสาแหรกมาจากไหน เขามาจากครอบครัวที่ไม่มีประธานาธิบดี อเมริกันคนไหนมีกำเนิดอันต่ำต้อยเช่นนี้
ประโยควรรคทอง ของลินคอร์น
" ภายใต้พระเจ้า จะมีการเกิดใหม่แห่งเสรีภาพ รัฐบาลของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน
จะ ไม่ถูกทำลายไปจากโลกนี้ "
ที่มา 200 ปี เอบราแฮม ลินคอร์น
Magazine สารคดี
เขียนโดย I AM HUMAN ที่ 3:42 0 ความคิดเห็น ลิงก์ ไปยังบทความนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น