“ยิ่งลักษณ์” ลุยหาเสียงเมืองปากน้ำ ฮือฮาพระอาทิตย์ทรงกลด ลูกทีมได้ทีเยินยอรัศมี “นายกฯ หญิง” เปล่งประกาย
เมื่อ วันที่ 10 มิ.ย. เวลา 09.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย น.ส.สุณีย์ เหลืองวิจิตร นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลงพื้นที่พบปะประชาชนใน จ.สมุทรปราการ เพื่อช่วยหาเสียงให้ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ทั้ง 7 เขต โดยเริ่มที่ตลาดพระประแดงเป็นจุดแรก น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เข้าสักการะพระบรมราชาอนุสาวรีย์รัชกาลที่ 2 ระหว่างนั้นได้เกิดปรากฎการณ์ธรรมชาติ พระอาทิตย์ทรงกลด ทำให้บรรดาผู้สนับสนุน และเจ้าหน้าที่พรรคต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีที่จะได้นายก รัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศ จากนั้นเดินทางไปยังตลาดครุใน ตลาดสำโรง ตลาดวิบูลย์ศรี และเข้าสักการะหลวงพ่อโต ก่อนที่จะเดินหาเสียงตลาดโบราณ และตลาดเคหะบางเสาธงตามลำดับ ทั้งนี้ในบางจุดมีมวลชนคนเสื้อแดงมาให้การต้อนรับอย่างคึกคักด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางเยาวเรศ ชินวัตร อดีตประธานสภาสตรีแห่งประเทศไทยฯ ได้มาช่วย น.ส.ยิ่งลักษณ์ หาเสียงใน จ.สมุทรปราการด้วย เป็นที่น่าสังเกตว่ามีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวมทั้งหน่วยปฏิบัติการพิเศษพร้อมอาวุธครบมือ 3 นายมาคอยดูแลความปลอดภัยให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์และคณะอย่างเข้มงวด ซึ่งได้รับคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษนายหนึ่งว่า เป็นมาตรการดูแลความปลอดภัยในส่วนของนายประชา ประสพดี ผู้สมัคร ส.ส.สมุทรปราการ เขต 7 พรรคเพื่อไทย นับตั้งแต่เกิดเหตุถูกลอบยิง
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดินทอดไมตรีพร้อมเข้าร่วมงานกับพรรค เพื่อไทยว่า ขอขอบคุณทุกท่านที่เมตตาพรรคเพื่อไทย แต่วันนี้ยังเร็วไปที่จะพูดถึงเรื่องการตั้งรัฐบาล ส่วนตัวยังยืนยันว่าการจัดตั้งรัฐบาลควรเป็นพรรคที่มีคะแนนเสียงอันดับ 1 ส่วนที่นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ตอบโต้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โดยระบุว่ามีอำนาจพิเศษบังคับให้มาร่วมจัดตั้งรัฐบาลครั้งที่ผ่านมานั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า วันนี้การเลือกตั้งเป็นก้าวแรกสู่ความปรองดอง ทุกฝ่ายควรเคารพเสียงประชาชน ซึ่งมีความต้องการเห็นการเลือกตั้งเกิดขึ้น และอยากให้ทุกฝ่ายได้มีการร่วมใจเคารพกติกา และเสียงประชาชน เมื่อถามย้ำว่า เกรงจะเกิดเรื่องอำนาจพิเศษอีกครั้งหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตนไม่อยากเห็นอีกแล้ว เพราะที่ผ่านมาบ้านเมืองสูญเสียเวลาไปหลายปี เชื่อว่าทุกฝ่ายอยากเห็นบ้านเมืองเดินต่อไปได้มากกว่า
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryID=680&contentID=144293
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น