วันที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7194 ข่าวสดรายวัน
-"มาร์ค"เมินฮุนเซนฟ้องยูเอ็น
จาก กรณีความขัดแย้งประเด็นเขาพระวิหาร ภายหลังรัฐบาลไทยคัดค้านกัมพูชาเสนอแผนบริหารพื้นที่ปราสาทพระวิหารต่อคณะ กรรมการมรดกโลก ส่วนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเคลื่อนไหวกดดันให้นาย
ความ คืบหน้า เมื่อเวลา 08.20 น. วันที่ 9 ส.ค. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ นายกฯ กล่าวถึงกรณีสมเด็จฮุนเซน ยื่นหนังสือร้องเรียนถึงสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ว่าไทยรุกล้ำพื้นที่โดยรอบปราสาทพระวิหารว่า จดหมายที่เขาส่งไปมีแต่คำว่า "ถ้า" ถ้าอย่างนั้น ถ้าอย่างนี้ และตอนนี้ยังไม่มีอะไร ส่วนการแก้ปัญหาที่ยังไม่มีข้อยุติ เราดำเนินการตามแนวทางที่มีอยู่ ส่วนจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติได้หรือไม่นั้น อย่างไรก็ต้องทำให้อยู่ร่วมกันได้อยู่แล้วระหว่าง กัมพูชากับไทย
ต่อ มา เวลา 17.00 น. ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นเดียวกันและกรณีกัมพูชาออกมาบอกว่าไทย ละเมิดการตัดสินของศาลโลก ว่า เขายังใช้คำว่า "ถ้า" สิ่งที่เขาอ้างว่าหนังสือพิมพ์บอกว่าตนพูดนั้นเป็นจริงหรืออะไรต่างๆ ซึ่งมันไม่จริง และเราชี้แจงได้ ไม่มีปัญหา เมื่อถามว่าความพยายามที่กัมพูชาจะนำประเทศที่ 3 เข้ามาเกี่ยวข้องนั้นจะสำเร็จหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงไม่สำเร็จ เพราะเรามีเอ็มโอยูดังกล่าวอยู่
-จวก"เขมร"ฝ่ายสร้างปัญหา
เมื่อ ถามต่อว่ากัมพูชาอ้างว่า ถ้ายกเลิกเอ็มโอยูนี้เท่ากับไทยทำผิดกฎหมายระหว่างประเทศ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรายังคงไปไม่ถึงตรงนั้น เพราะขณะนี้ตนมองว่าเอ็มโอยูเป็นประโยชน์ในการแก้ปัญหาทั้งเรื่องที่เกี่ยว กับมรดกโลกและการเป็นฐานของการที่เราจะดำเนินการอะไรในกรณีมีเห็นว่าการ รุกล้ำเข้ามา อีกทั้งตนคิดว่าจะทำให้เป็นหลักประกันที่ทำให้ชาวโลกได้เห็นว่าเรายึดมั่น ตามเจตนารมณ์ของยูเอ็น เพราะตนคิดว่าค่อนข้างชัดเจนว่ากัมพูชาพยายามจะทำให้ภาพของเรา ในสายตาของชาวโลกเป็นฝ่ายรุนแรงหรือเข้าไปรุกราน ซึ่งตรงกันข้ามเพราะสิ่งที่ตนพูดทั้งหมด คือ การที่เราต้องตอบโต้ถ้ารุกล้ำเข้ามาในส่วนของเรา ส่วนการชี้แจงต่อกับต่างประเทศนั้นไม่ได้มีปัญหา เพราะจุดยืนเราชัด
ต่อ ข้อถามว่า ตรงนี้จะเป็นแรงกดดันในเรื่องที่นายกฯ เคยพูดเกี่ยวกับเรื่องการทูตและการทหารที่จะดูแลพื้นที่ตรงนั้นยากขึ้นหรือ ไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ เพราะตนคิดว่าเป็นตัวบ่งบอกว่าสภาพปัญหาต่างๆ ที่รัฐบาลประเมินอยู่และได้ อธิบายมานั้นกลายเป็นจริง เพราะฉะนั้น เราต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบ เมื่อถามว่าจากสิ่งที่เกิดขึ้น ดูเหมือนกัมพูชานำความขัดแย้งภายในประเทศมาเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน เพื่อวัตถุประสงค์ของตัวเอง นายกฯ กล่าวว่า ตนจึงบอกว่าสำหรับเรา ถ้ามีอะไรภายในก็ให้พูดคุยกัน และดีที่สุดคือเราอย่าไปทำให้เกิดความรู้สึกว่าเรามีปัญหากันเอง ความรุนแรง หรืออะไร
-"เทือก"ย้ำไม่มี 2 มาตรฐาน
ด้านนาย
"แม้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะครอบคลุมทั้งพื้นที่กทม. แต่การมาชุมนุมแล้วเข้าข่ายความผิด มันมีองค์ประกอบ 4 ประการ ซึ่งผมจะให้เจ้าหน้าที่ชี้แจงให้ทราบ" นายสุเทพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้ทำให้สังคมตั้งข้อสังเกตได้ เพราะคนเสื้อแดงแค่คนเดียวไปผูกผ้า ที่สี่แยกราชประสงค์กลับถูกจับ นายสุเทพกล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่เรายึดหลักในภาพกว้างและกรอบกฎหมายว่าต้องดำเนินการอย่างไร เมื่อถามว่าจนถึงขณะนี้มีรายงานจากเจ้าหน้าที่หรือไม่ว่าจะดำเนินคดีกับแกน นำพันธมิตรที่มาชุมนุมหน้าทำเนียบ นายสุเทพตอบว่า ทราบว่าได้เตรียมการจะดำเนินการกันอยู่ในกรณีผู้ชุมนุมไม่ยอมปฏิบัติตาม ประกาศศอฉ. ยืนยันว่าตนไม่มี 2 มาตรฐาน เพราะไม่มีเหตุจูงใจอะไรต้องทำอย่างนั้น เราเป็นรัฐบาล มีหน้าที่ดูแลรักษากฎหมายบ้านเมือง ขอให้มั่นใจได้ โดยเฉพาะตน ถูกทั้งเสื้อเหลืองเสื้อแดงด่าทุกวัน เมื่อถามว่าคนที่ทำหน้าที่รักษาการตามประกาศศอฉ. ถือว่าละเว้นหรือไม่ เพราะไม่ได้เป็นไปตามที่ได้ประกาศไว้ นายสุเทพกล่าวว่า ถ้าใครสงสัยสอบถามชี้แจงได้ และหากใครละเว้นต้องดำเนินการตามกฎหมาย
ที่ ททบ.5 พล.อ.
-รบ.ทำหนังสือแจงยูเอ็น
วัน เดียวกัน นาย
"ที่ จริงในจดหมายที่เขาส่งถึงยูเอ็นก็พูดอย่างนั้น โดยอ้างนายกฯ ว่าถ้าเห็นว่าเป็นประโยชน์ก็ยังร่วมมือกันได้ แต่ส่วนที่เป็นปัญหา เราต้องบริหารจัดการในพื้นที่ โดยเราจะชี้แจงว่ามีการรุกล้ำเข้ามาในพื้นที่เราอย่างไร ตรงนี้จะเป็นโอกาสดีทำให้นานาชาติสนใจว่าขณะนี้ในพื้นที่มีปัญหาจริงๆ การดำเนินการต่อไปต้องพูดคุยกัน เพราะเรายึดหลักสันติวิธีชัดเจน การที่นายกฯ อัญเชิญพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมา ชัดเจนว่าเราจะแก้ปัญหาด้วยสันติวิธีและต้อง การเป็นเพื่อนที่ดีของประเทศเพื่อนบ้าน แต่ขณะเดียวกัน เราปกป้องผลประโยชน์ของเราด้วย" นายปณิธาน กล่าว
ต่อข้อถาม กัมพูชาอ้างว่าไทยละเมิดคำตัดสินของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ นาย
เมื่อถามว่าจะชี้แจงส่วนไหน นายปณิธาน กล่าวว่า เนื้อหาหนังสือชี้แจงที่เราเตรียมทำถึงยูเอ็นมี 3 ส่วน ส่วนแรกเรื่องข้อกฎหมายที่กัมพูชาตั้งข้อสังเกต ส่วนที่ 2 กรณีเราถูกบุกรุกพื้นที่ และส่วนที่ 3 การที่เรายืนยันว่าจะดำเนินการทุกอย่างตามหลักสันติวิธีและข้อกฎหมาย
-ปชป.โต้พัลวัน-ไม่ได้เอาใจพธม.
นาย
ผู้สื่อข่าวถาม ว่ามีเสียงวิจารณ์ว่ารัฐบาลเอาใจพันธมิตรมากเกินไป นายองอาจกล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องเอาใจใคร เมื่อครั้งเสื้อแดงชุมนุมก็เจรจากัน และเปิดเวทีให้คนรับฟังกันทั้งประเทศ รัฐบาลไม่ได้เลือกปฏิบัติ รัฐบาลพร้อมคุยอยู่แล้ว ไม่ใช่ เรื่องเสื้อเหลืองเสื้อแดง แต่เป็นเรื่องกลุ่มบุคคลหลายกลุ่มที่เห็นไม่ตรงกัน
ที่พรรคประชาธิ ปัตย์ นาย
นาย
-"นพดล"มึน"แผนที่"นายกฯ
ที่พรรคเพื่อไทย นาย
"หาก นายอภิสิทธิ์อ้างเส้นพรมแดนว่าเป็นสันปันน้ำ ก็อยากเรียกร้องให้ใช้อำนาจปกครอง ไปตั้งกรมตรวจคนเข้าเมืองที่เส้นสันปันน้ำ และนายอภิสิทธิ์ต้องแจ้งไปยังหน่วยราชการ หน่วยงานทางทหารทั้งหมดว่านับแต่นี้ไป ประเทศไทยจะไม่ใช้แผนที่แอล 7107 ภายใต้รัฐบาลอภิสิทธิ์ แต่จะใช้แนวสันปันน้ำแทน และนายอภิสิทธิ์ ต้องเจรจาเอาที่ดินรอบปราสาทที่ไปตัด ก่อนหน้านี้เอากลับคืนมาเป็นกรรมสิทธิ์ของไทย เพราะ ถ้ามีสถานะกฎหมายอย่างไร ต้องทำอย่างนั้น ไม่ใช่แค่พูดอย่างเดียว เมื่อนายอภิสิทธิ์คิดว่าใช้สันปันน้ำทั้งหมดก็ไปเจรจาเอาเขตแดนเราคืน" นาย
-ยัน"แม้ว"ไม่เกี่ยวข้อง
ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ในฐานะที่ปรึกษาเศรษฐกิจรัฐบาลกัมพูชามีความเห็นเรื่องนี้อย่างไรบ้าง นายนพดลกล่าวว่า ท่านไม่มีความเห็น อย่าโยนทุกเรื่องไปให้ท่าน ขอให้ท่านอยู่อย่างสบาย อีกทั้งเป็นแค่ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ ไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง
ต่อข้อถามว่าทางออกเรื่องนี้ควรเป็นไปในทิศ ทางใด นายนพดลกล่าวว่า ควรทำให้เป็นวาระแห่งชาติ โดยนายอภิสิทธิ์ต้องไปเจรจาเอาพื้นที่ดินด้านใต้และรอบปราสาทคืนมา เพราะนายกฯ บอกว่าจะยึดถือตามแนวสันปันน้ำ ไปเจรจาพื้นที่ 4.6 ตร.กม. ก่อนปักปันเขตแดนควรมาเจรจาร่วมกัน ต่อมานายกฯ สั่งหน่วยราชการทั้งหมดว่าไม่ใช้แผนที่ แอล 7017 แล้ว และประเด็นสุดท้ายควรมีคณะทำงานประชุมร่วมกันระหว่าง ครม. ไทยกับกัมพูชา เพื่อให้มีการตกลงกันในระดับสูง ไม่ใช่ยึดแต่คณะกรรมาธิการเขต แดนร่วมไทย-กัมพูชา (เจบีซี) หากนายกฯ ใช้พื้นที่ศรีสะเกษในการประชุมหารือ ตนก็ยินดีติดต่อพูดคุยกับชาวเสื้อแดงให้
-พท.ซัด"รบ.-พธม."สมยอมกัน
ด้าน นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงหลังจบประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์และการเมืองของพรรคว่า เหตุ การณ์ที่ผ่านมาเกี่ยวกับกรณีเขาพระวิหาร พรรคพิจารณาแล้วเป็นการสมยอมร่วมประโยชน์ทางการเมืองระหว่างกลุ่มพันธมิตรฯ หรือพรรค การเมืองใหม่กับรัฐบาล โดยใช้ความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชาเป็นเงื่อนไข กลุ่มพันธ มิตรฯ หรือพรรคการเมืองใหม่ได้ประโยชน์ 3 เรื่อง คือ 1.ต่อรองคดีก่อการร้าย 2.หาเสียงเลือกตั้ง ส.ก. ส.ข. วันที่ 29 ส.ค. และ 3.สร้างโอกาสรวมพลคนเสื้อเหลืองหลังซบเซามานาน ส่วนประโยชน์ทางการเมืองที่รัฐบาลจะได้ คือ 1.กลบเกลื่อนการพัวพันสั่งการสลายชุมนุมคนเสื้อแดง 2.สร้างกระแสประชาธิปัตย์ให้ดำรงอยู่ไม่ถูกยุบพรรค และ 3.สร้างคะแนนนิยมในกลุ่มขวาจัด พรรคขอแนะนำให้หยุดยุยงให้คนไทยคลั่งชาติ แต่ใช้วิถีทางการทูตเจรจาแก้ไขปัญหา และรัฐบาล ควรเปลี่ยนตัวรมว.ต่างประเทศทันที
นายปลอดประสพ ระบุว่า พรรคขอตั้งคำถามว่าเหตุใดตำรวจจึงไม่จับกุมดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมพันธมิตร ทั้งที่ขัดพ.ร.ก.ฉุกเฉิน หากคนเสื้อแดงจัดการชุมนุมเช่นเดียวกับกลุ่มพันธมิตร คือ ใช้อาคารกีฬาชุมนุมหารือแสดงความเห็นกรณีเขาพระวิหารจะทำได้หรือไม่ รัฐบาลและศอฉ.กรุณาตอบด้วย คนเสื้อแดงฝากพรรคเพื่อไทยมาถาม หากจัดชุมนุมได้จะดำเนินการใน 2 สัปดาห์นี้ แต่จะเลือกสนามกีฬาใหญ่หน่อยเนื่องจากคนมาเยอะ แต่จะไม่เชิญนายกฯ เพราะท่านคงไม่ไปร่วม
-"กษิต"ตอบกระทู้ส.ว.พันธมิตร
เวลา 16.45 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา โดยนาย
นายก ษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ ตัวแทนนายกฯ ชี้แจงว่า กระทรวงการต่างประเทศได้รับหนังสือจากสถานทูตกัมพูชาในไทยยืนยันว่า ถึงแม้กัมพูชาจะให้สัมปทานบริษัทโตตาล แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งโตตาลยังยืนยันในสิทธิของทั้ง 2 ประเทศ โดยภายใต้เงื่อนไขสัญญาสัมปทานจะยังไม่มีการแสวงหาผลประ โยชน์หรือสำรวจพื้นที่พิพาท ดังนั้นการให้สัมป ทานดังกล่าวทางฝ่ายไทยไม่ได้เสียประโยชน์ และปัจจุบันยังไม่มีบริษัทน้ำมันใดเข้าไปสำรวจพื้นที่ดังกล่าวแม้แต่แห่ง เดียว
นายกษิตกล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการแบ่งผลประโยชน์ 90/10 ตั้งแต่จัดทำเอ็มโอยูมา มีการเจรจาเรื่องเขตไหล่ทวีปทับซ้อน 2 ครั้ง และยังอยู่ขั้นตอนการแสดงท่าทีของทั้ง 2 ฝ่าย ยืนยันว่าไม่มีเรื่องการแบ่งผลประโยชน์ในบันทึกคณะกรรมาธิการระดับเจบีซี อย่างไรก็ตามขอขอบ คุณส.ว. ที่เสนอให้ยกเลิกหนังสือสัญญาทั้ง 2 ฉบับ ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ของตนมาตั้งแต่ต้นก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่งอยู่แล้ว
-"ฮุนเซน"ขู่อาจนองเลือด
ช่วง เย็นวันเดียวกัน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงพนมเปญ ว่า สมเด็จฮุนเซน นายกฯ กัมพูชา กล่าวระหว่างร่วมพิธีการพร้อมกับคณะทูตานุทูตต่างประเทศ ว่า สถานการณ์ข้อพิพาทเรื่องชายแดนระหว่างกัมพูชากับไทยขณะนี้ร้อนแรงมากและอาจ ก่อให้เกิดผลลัพธ์ คือ การนองเลือด ฉะนั้นกัมพูชาอยากร้องขอให้ที่ประชุมระดับ นานาชาติช่วยยื่นมือเข้ามาแทรกแซงเพื่อหาทางยุติปัญหานี้ ทั้งสหประชาชาชาติ สมาคมประชา ชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) รวมถึงประเทศอื่นๆ เพราะการหารือแก้ปัญหาความขัดแย้งระดับทวิภา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น