แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2553

จาตุรนต์ทวิตจับเด็กเห็นต่างแต่เรียกร้องเด็กทั่วประเทศแสดงความเห็น

รัฐบาล และผู้สนับสนุนรัฐบาลแบบหน้ามืดตามัวทั้งหลาย พยายามขายความคิดว่ามีพรก.คนไม่ทำอะไรผิดไม่เดือดร้อน แต่ความเป็นจริงก็คือ ผู้ไม่ได้ทำอะไรผิดจำนวนมาก ต้องเดือดร้อน อย่าคิดว่าเกิดขึ้นกับเด็กเพียง 5 คน ไม่ได้เกิดกับคนส่วนใหญ่ ไม่เป็นไร



โดย จาตุรนต์ ฉายแสง
ที่มา เวบจาตุรนต์

นาย จาตุรนต์ ฉายแสง ประธานสถาบันพัฒนาการศึกษาประชาธิปไตย ทวิตข้อความแสดงความคิดเห็นกรณี นักเรียน นักศึกษา ในจังหวัดเชียงรายถูกจับ จากการแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ซึ่งขัดแย้งกับแนวทางที่นายแพทย์ประเวศ วะสี ต้องการให้นักเรียน นักศึกษา และมหาวิทยาลัยมี ส่วนร่วมในการขับเคลื่อนและแก้ไขปัญหาสังคมไทย โดยข้อความที่ ทวิต มีดังนี้

" เห็นข่าวคุณหมอประเวศเสนอให้มหาวิทยาลัยและนักศึกษาเข้าร่วมการปฏิรูปประเทศ ไทยพร้อมกับข่าวนร.นศ.ที่เชียงรายถูกจับไปบำบัดทางจิตแล้วรู้สึกวังเวง



สิ่งที่คุณหมอประเวศเสนอนั้น จะเป็นไปได้สักแค่ไหน ถ้าสังคมเรายังจำกัดสิทธิเสรีภาพนักเรียนนักศึกษากันอยู่อย่างนี้

ประเด็นที่คุณหมอประเวศเสนอ ฟังดูอาจเป็นประโยชน์ในระยะยาว ซึ่งความจริงก็เสนอกันมานานแล้ว แต่มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ก็กลับถอยหลังไปมาก

อาจารย์ที่มีบทบาทมากๆหลายคน สนับสนุนการรัฐประหารและระบบที่เป็นผลิตผลจากการรัฐประหารกันอย่างออกนอกหน้า เสรีภาพทางวิชาการก็น้อยลง

บาง คณะในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ ห้ามอาจารย์นำเรื่องการเมืองปัจจุบันมายกเป็นตัวอย่าง วิเคราะห็วิจารณ์ในห้องเรียน จะเรียนรู้การเมืองอย่างไร

คุณหมอประเวศควรเริ่มจากปัญหาง่ายๆอย่างกรณีอ.สุธาชัยถูกดำเนินคดี และกรณีเด็กนักเรียน นักศึกษา 5 คนที่เชียงรายก่อนว่าจะสะท้อนอะไร

ปัญหา ความล้าหลังของมหาวิทยาลัยของไทยนั้นเป็นเรื่องใหญ่ ที่ต้องแก้กันอย่างจริงจัง แต่ที่ตรงกับปัญหาความวิกฤตของประเทศขณะนี้คืออะไร

ผมคิดว่าต้องพูด กันเรื่องเสรีภาพทางวิชาการของคนในมหาวิทยาลัย บทบาทในการสร้างประชาธิปไตย การศึกษาปัญหาวิกฤตของบ้านเมืองจากความเป็นจริง

ผมกำลัง คิดเชิญนักวิชาการมาพูดคุยเรื่องวิกฤตของประเทศ อาจารย์หลายท่านยังขอว่าให้ยกเลิกพรก.เสียก่อนเลยครับ เสรีภาพทางวิชาการหายไปไหน



ส่วนแนวความคิดในการพัฒนามหาวิทยาลัยต่างๆ รวมทั้งการที่จะให้มี หนึ่งจังหวัด หนึ่งมหาวิทยาลัย นั้น ไม่แน่ใจว่าท่านมีแนวคิดอย่างไร

แต่ สุดท้ายผมเชื่อว่าข้อเสนอของคุณหมอประเวศที่จะต้องทำกันอีกนานนั้นก็คงไม่มี ผล เหมือนกับข้อเสนออื่นๆของคกก.ทั้งหลายที่ดูเหมือนจะเป็นหมันไปหมด



โดยรวมๆแล้วความเห็นผมก็คือคกก.ต่างๆกำลังพยายามทำอะไรๆหลายๆอย่างยกเว้นในเรื่องที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับปัญหาวิกฤตของประเทศ

ส่วน การจับ ดำเนินคดีนักเรียน นักศึกษา 5 คนที่เชียงรายนั้นถือว่าเป็นการข่มขู่ขัดขวางการกล้าคิดกล้าแสดงออกของ เยาวชน เป็นการกระทำที่เลวร้ายมาก

นายกฯทีไปออกงานกับเด็ก เยาวชน พูดเรื่องกล้าคิด กล้าแสดงออกอยู่บ่อยๆ ไม่รู้บ้างหรือว่าการทำกับเด็กที่เห็นต่างกับรัฐบาลอย่างนั้นแปลว่าอะไร

อย่าคิดว่าเกิดขึ้นกับเด็กเพียง 5 คน ไม่ได้เกิดกับคนส่วนใหญ่ ไม่เป็นไร เพราะย่อมกระทบความรู้สึกคนอีกจำนวนมหาศาลที่ถูกกดไปด้วย

"รัฐบาล ส่งเด็กที่แสดงความเห็นต่างจากรัฐบาลเท่านั้นไปสถานพินิจ ไปบำบัดจิต แล้วยังมีหน้าไปชี้แจงกับประเทศต่างๆอีกหรือว่าเมืองไทยเป็นอารยะ"



รัฐบาลนี้กำลังปกครองโดยกดคนที่เห็นแตกต่างไว้ไม่ให้แสดงออก กดเด็กเยาวชนไว้ไม่ให้รู้จักคิด วิเคราะห็ ไม่ให้ใช้ปัญญา "

รัฐบาล และผู้สนับสนุนรัฐบาลแบบหน้ามืดตามัวทั้งหลาย พยายามขายความคิดว่ามีพรก.คนไม่ทำอะไรผิดไม่เดือดร้อน แต่ความเป็นจริงก็คือ ผู้ไม่ได้ทำอะไรผิดจำนวนมาก ต้องเดือดร้อนเพราะการใช้พรก.ฉุกเฉิน และนับวันจะมากขึ้น



การใช้พรก.มีผลเสียที่สุดต่อทุกคน ก็คือการทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม ไม่ยุติธรรม ไม่สุุจริต ขาดความไว้วางใจต่อกันและทำลายความน่าเชื่อถือ

ภายใต้ระบบกฎหมายของไทยปัจจุบัน การใช้พรก.ยังทำให้เจ้าหน้าที่ ที่ทำผิด กลายเป็นไม่ผิด ไม่ต้องรับโทษใดๆอีกด้วย

สังคม ไทยจะก้าวพ้นจากวิกฤต เกิดความถูกต้องขึ้นได้ ต้องส่งเสริมให้คนจำนวนมากคิดว่าอะไรที่เลวร้ายแค่ไหนก็ตาม ถ้าไม่เกิดกับตัวแล้วก็ช่างมัน

วันสองวันนี้เห็นข่าวนายกฯ อ้อนแฟน fb และข่าวคุณชวนกำลังหัดใช้ FB ก็เลยปิดท้ายด้วยการย้ำว่า fb ผมยังถูกศอฉ.บล็อคอยู่เลยครับ ท่านนายกฯ "

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน