amerilao
นายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุนเซน ท้าทายให้ไทยส่งทหารเข้าขับไล่ฝ่ายกัมพูชา ออกจากพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตรรอบๆ ปราสาทพระวิหาร ซึ่งกัมพูชาอ้างว่าเป็นของตน โดยเตือนว่ากัมพูชาจะตอบโต้จนกลายเป็นการนองเลือด ทั้งยกนิทานสอนใจ มดแดงเคยชนะช้างมาแล้ว
"กัมพูชาจะไม่ใช้กำลังรุกรานประเทศใด แค่กัมพูชามีสิทธิ์ในการป้องกันเดินแดนของตัวเอง กัมพูชาได้เคยรู้อะไรเกี่ยวกับพื้นที่เหลื่อมล้ำ 4.6 ตารางกิโลเมตร และ ถ้าหาก (ไทย) ต้องการขับไล่พวกเราออกจากพื้นที่ก็ขอเชิญ.. ลองดู" นายกฯ กัมพูชากล่าวในวันจันทร์ (9 ส.ค.) ที่ผ่านมา
สำนักข่าวดืมอัมปึลในกรุงพนมเปญ รายงานรายละเอียดคำปราศรัยของผู้นำในวันอังคาร
ฮุนเซนระบุดังกล่าว ระหว่างตอบโต้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีของไทยซึ่งทำการสนทนากับกลุ่มที่เรียกร้องให้ยกเลิกบันทึกช่วย ความจำไทย-กัมพูชา 2543 เกี่ยวกับชาแดนสองประเทศ ซึ่งมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย
นายกฯ กัมพูชาท้าทายฝ่ายไทย ในขณะที่เรียกร้องให้มีการจัดประชุมระหว่างประเทศเพื่อแก้ไขปัญหา ชายแดนด้านปราสาทพระวิหาร โดยอ้างว่าการเจรจาสองฝ่าย "ล้มเหลว"
ผู้นำกัมพูชายังกล่าวเตือนไทยว่า หากพยายามขับไล่ฝ่ายกัมพูชาออกจาก "พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร" ก็จะลงเอยเป็นการนองเลือด "เรื่องนี้เป็นปัญหาร้อนระอุ ไม่ใช่เรื่องที่จะหัวเราะเล่นๆ มันนำไปสู่การนองเลือดได้"
"เป็นความจริงที่กัมพูชาอ่อนแอ กัมพูชาเล็ก แต่มดแดงตัวนี้ก็จะไม่ให้ช้างสารนอนหลับอย่างเป็นสุข และไม่มีใครในโลกนี้ที่มีเหล็กหุ้มหัว และถ้าพวกคุณรุกรานเรา เราก็จะต่อสู้ แต่สู่ภายในดินแดนของเรา" ฮุนเซนกล่าว
นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้เรียกร้องให้จัดการประชุมระหว่างประเทศในหลาย ระดับ รวมทั้งกลุ่มอาเซียน คณะมนสตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และ การประชุมของ 19 ประเทศภาคีสนธิสัญญาสันติภาพกรุงปารีสว่าด้วยกัมพูชา (2534) ซึ่งไทยกับเวียดนามร่วมเป็นภาคีอยู่ด้วย
ฮุนเซนกล่าวว่าความตึงเครียดในความสัมพันธ์กัมพูชา-ไทยขณะนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นจากการขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก แต่เกิดจากการที่ไทย "รุกราน" กัมพูชา โดยส่งทหารเข้าไปในพื้นที่ 4.6 ตร.กม.ในวันที่ 15 ก.ค.2551 ซึ่งมีแต่การประชุมระหว่างประเทศเท่านั้นที่จะช่วยแก้ไขสถานการณ์ได้.
http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewN...0000111046
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น