แดงเชียงใหม่

กราบสวัสดี พี่น้องทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมเยือน Blog นปช.แดงเชียงใหม่ ขอเรียนชี้แจงสักนิดว่า เรา ”แดงเจียงใหม่” เป็นกลุ่มคนชาวเจียงใหม่ที่เคารพรัก กติกาประชาธิปไตย ต่อสู้และต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ อยากเห็นประเทศชาติภายภาคหน้า มีความเจริญ ประชาชน รุ่นลูกหลานของเราอยู่อาศัยอย่างร่มเย็นเป็นสุขในประเทศของพวกเราเอง ไม่มีกลุ่มอภิสิทธิ์ชนกลุ่มใดมาสูบเลือดเนื้อ แอบอ้างบุญคุณเฉกเช่นในยุคนี้ที่พวกเราเห็น การที่จะได้รับในสิ่งที่มุ่งหวังก็ต้องมีการต่อสู้แสดงกำลังให้สังคมได้รับรู้ และเพื่อที่จะให้กลุ่มบุคคลที่มีอำนาจในปัจจุบันได้เข้าใจในสังคมที่ก้าวหน้าเปลี่ยนแปลงไป ไม่อาจฝืนต่อกระแสการพัฒนาของโลก การต่อสู้ร่วมกับผองชนทั่วประเทศในครั้งนี้ เรา " แดงเจียงใหม่ " ได้ร่วมต่อสู้ทุกรูปแบบ และ ในรูปแบบที่ท่านได้เข้ามาร่วมอยู่นี้ คือการเผยแพร่ข่าวสารต่อสังคม

เรา " แดงเจียงใหม่ " ขอเชิญชวนร่วมกันสร้างขวัญ และกำลังใจให้เพื่อนพ้องน้องพี่ร่วมกัน


"อันประชาสามัคคีมีจัดตั้ง
เป็นพลังแกร่งกล้ามหาศาล
แสนอาวุธแสนศัตรูหมู่อันธพาล
ไม่อาจต้านมวลมหาประชาชน"

.

วันพฤหัสบดีที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2553

จดหมายเปิดผนึกถึงรัฐบาลไทย (ฉบับที่ 2)



Porsche

Read more from โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม

จดหมายเปิดผนึกฉบับนี้เป็นจดหมายฉบับที่สองที่ส่งไปยังรัฐบาลไทย
เพื่อย้ำเตือนให้รัฐบาลเห็นถึงพันธกรณีที่จะต้องปฏิบัติตามสนธิสัญญาระหว่างประเทศ
ที่ว่าด้วยสิทธิพลเรือนและสิทธิทางการเมือง ( ICCPR)
โดยจดหมายเปิดผนึกฉบับนี้ได้ถูกส่งไปยังบุคคลดังต่อไปนี้

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี

นายคนิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการค้นหาความจริง

นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ

เรื่อง : การสอบสวนการเสียชีวิตของประชาชนจากเหตุการณ์การสลาย
การชุมนุมของคนเสื้อแดง (เมษายน/ พฤษภาคม 2553)

เรียน สุภาพบุรุษทุกท่าน

อย่างที่ทราบเป็นอย่างดีว่า สำนักงานกฎหมายแห่งนี้
เป็นตัวแทนของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร และยังเป็นที่ปรึกษากฎหมาย
ของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (น.ป.ช)
ซึ่งกลุ่มบุคคลดังกล่าวถูกจับกุม
และกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่เกิดขึ้น
ในกรุงเทพมหานครในเดือนมีนาคม เมษายน และพฤษภาคม ในปี 2553

เราได้ส่งจดหมายฉบับแรกถึงรัฐบาลไทยเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2553
ทั้งนี้เพื่อย้ำเตือนรัฐบาลไทยว่าประเทศไทยมีพันธกรณีที่ต้องปฏิบัติ
ตามสนธิสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเรือน
และสิทธิทางการเมือง (ICCPR) อันเป็นสนธิสัญญาที่ประเทศไทยได้เคยลงนามไว้
และเพื่อที่การสอบสวนที่มีความอิสระและเป็นธรรมในกรณีที่ประชาชนมากกว่า 80คนถูกสังหารในการชุมนุม
เราขอย้ำเตือนในท่านเห็นถึงพันธกรณีภายใต้สนธิสัญญาICCPที่บัญญัติให้รัฐบาลต้องอนุญาต
ให้ทีมทนายความของผู้ถูกกล่าวหาอย่างสมาชิกของกลุ่มน.ป.ช
และทางสำนักงานกฎหมายของเราได้มีโอกาสได้เข้าถึงพยานหลักฐานทั้งหมด

เนื่องจาก ทางสำนักงานกฎหมายของเรา
ไม่ได้รับคำตอบจากรัฐบาลต่อข้อเรียกร้องในครั้งแรกแต่อย่างใด
หรือแม้แต่ทีมทนายความตัวแทนแก้ต่างให้กลุ่ม น.ป.ช.ก็ไม่ได้รับอนุญาต
ให้ตรวจสอบพยานหลักฐานของรัฐเช่นกัน ดังนั้นเราจึงขอย้ำเตือน
ถึงข้อเรียกร้องอีกครั้งว่า
หลักฐานเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญที่เราจะใช้ประกอบการแก้ต่างให้ลูกความของเรา
ผู้ที่กำลังถูกกล่าวหาด้วยข้อหาที่แรงอยู่ในขณะนี้

จากรายละเอียดในจดหมายฉบับแรก สนธิสัญญา ICCPR ประกันสิทธิของลูกความ
เราที่จะแก้ต่างให้ตนเองและได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม รวมถึงสิทธิ
ในเลือกทนายแก้ต่างให้ตนเองและสิทธิในการเข้าถึงและตรวจสอบหลักฐานทั้งหมดที่เกี่ยวกับข้อหาที่ถูกกล่าวหา


ดังนั้นเราจึงเรียกร้องให้มีการเปิดเผยพยานหลักฐานทั้งหมด
แก่ทีมทนายความของลูกความเราไม่ว่าจะเป็นพยานวัตถุ นิติเวช พยานเอกสาร เทปบันทึกเสียง
และวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาที่ว่าอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ
และสมาชิก น.ป.ช.กระทำผิดทางอาญาอันเกี่ยวข้องกับการชุมนุมของคนเสื้อแดง
ืเพื่อให้ลูกความเราได้ตรวจสอบพยานวัตถุทั้งหมดผ่านทีมทนาย
และมีโอกาสที่จะทำการตรวจสอบวิเคราะห์ทางกฎหมายด้วยตนเอง

แน่นอนว่า ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ ประเทศไทยมีอิสระ
ที่จะดำเนินการสอบสวนและฟ้องร้องบุคคลที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยตนเอง
ทั้งนี้คณะกรรมสิทธิมนุษยชนองค์การสหประชาชาติผู้ซึ่งมีอำนาจ
ในการตีความสนธิสัญญา ICCPR ได้เรียกร้องให้ประเทศสมาชิก
“หลีกเลี่ยงการยกเว้นโทษ และที่สำคัญคือ
ต้องให้อำนาจแก่เหยื่อผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนไ้ด้ค้นหาความจริง
ที่เกี่ยวกับการกระทำการละเมิด ใครคือผู้ก่อการละเมิดนั้น
และเหยื่อต้องได้รับค่าชดเชยที่เหมาะสม”
ความล้มเหลวที่จะปฏิบัติตามข้อบังคับดังกล่าว
อาจเป็นการละเมิดบทบัญญัติบางบทของสนธิสัญญา ICCPR

ทั้งนี้การอนุญาตให้บุคคลผู้ถูกละเมิดสิทธิพลเรือนที่บัญญัติไว้
ในสนธิสัญญา ICCPR เช่นเหยื่อที่ถูกสังหารอย่างไร้กฎหมาย
และตามอำเภอใจได้การแสวงหาการชดเชยจากการกระทำละเมิดนั้น
การสอบสวนที่เป็นอิสระจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ประกันต่อลูกความของเรา
ในกรณีที่จะได้รับความเป็นธรรมในการพิจารณาคดี
เนื่องลูกค้าไม่ต่ำ่กว่า 12คนของเราถูกกล่าวหาว่า
มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดทางอาญา
ในกรณีการใช้ความรุนแรงในเดือนเมษายนและพฤษภาคม
และมีการเสียชีวิตของทหารและพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้น
ลูกความของเรามีสิทธิที่จะตรวจสอบหลักฐานที่แสดงว่า
การตอบโต้ของรัฐบาลไทยต่อการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง
ได้สัดส่วนอย่างไรหรือไม่อย่างไร
และสภาวะแวดล้อมที่เกิดขึ้นในขณะที่มีการสังหารพลเรือนกว่า 80คน
โดยเจ้าหน้ารัฐเป็นอย่างไร
และการที่รัฐบาลโยนความรับผิดชอบจากเหตุการณ์ทั้งหมดให้แก่ลูกความของเรา

ไม่ว่ารัฐบาลจะดำเนินการสอบสวนด้วยตนเองหรือไม่ก็ตาม
ทางเราขอเรียกร้องให้รัฐบาลอนุญาตให้ทีมทนายความลูกความของเราเข้าถึง
และสามารถเอกสารทั้งหมดของรัฐบาลและกองทัพที่เกี่ยวข้องกับการยุทธศาสตร์
การปฏิบัติการ และการสั่งการไม่ว่าจะเป็นการสั่งการโดยวาจาหรือลายลักษณ์อักษร
และข้อมูลของกองทัพ หน่วยข่าวกรอง การสอบสวน
และเอกสารรายงานที่เจ้าหน้าที่รัฐใช้เตรียมการ แถลงการณ์
และการสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงทันที


นอกจากนี้เรายังขอสิทธิในการเข้าถึง
และตรวสอบบทสนนาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร บุคคลในรัฐบาลทั้งหมด
ที่สั่งการให้มีการใช้กำลังทหารสลายการชุมนุมของคนเสื้อแดง
รวมถึงเอกสารทั้งหมดที่แสดงถึงสายบังคับบัญชาการของของกองทัพ
ที่ำถูกมอบหมายให้สลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง
เอกสารของรัฐบาลหรือกองทัพทั้งหมดที่ระบุว่า
หน่วยงานใดบ้างที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงบทบาทของหน่วยงานนั้น

เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาลไทยจะปฏิบัติตามพันธกรณี
ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ


การที่เราไม่ได้รับคำตอบจากรัฐบาลต่อข้อเรียกร้องของเราในครั้งแรก
เราจึงขอให้รัฐบาลตอบกลับข้อเรียกร้องนี้ในทันที

ด้วยความนับถือ

นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม

http://robertamsterdam.com/thai/?p=282

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ให้ข้อมูลร่วมกัน